"เมื่อคืนนี้ ฉันบังเอิญได้พบกับชูเหยาที่ถูกตำรวจช่วยออกมา จากนั้นขณะที่ตำรวจกำลังบันทึกสอบปากคำชูเหยา ฉันก็อยู่ข้างๆนั่นแหละ" หลังจากเวินจิ่งพูดเช่นนี้เขาก็เข้าเรื่อง "ชูเหยาบอกว่าห้าปีก่อนหน้านี้ เป็นเพราะเธอทะเลาะกับแก เธอเลยหนีไปต่างประเทศ หลังจากมาถึงสหรัฐอเมริกาไม่นานนักเธอก็ถูกลักพาตัวไปอยู่ในโรงรถและอยู่ในนั้นมาตลอดระยะเวลาห้าปี"
เมื่อได้ยินคำพูดของเวินจิ่ง นิ้วมือทั้งสิบของจี้หลิงชวนก็กำแน่น เขาจ้องมองไปยังแก้วน้ำด้านหน้าของเขาด้วยสีหน้ามืดมน "คนที่ลักพาตัวชูเหยาคือใคร?"
จี้หลิงชวนแทบจะทนไม่ไหวที่จะฆ่าคนที่ลักพาตัวชูเหยาและล้างแค้นให้กับเธอ!
“ชูเหยาบอกว่าเธอไม่เคยเห็นหน้าของชายผู้นั้น ชายผู้นั้นสวมหน้ากากตลอด” ทันทีที่สิ้นเสียงเวินจิ่ง จี้หลิงชวนที่นั่งตรงข้ามนั้นก็ทุบโต๊ะเสียงดัง แววตาของเขาเย็นยะเยือกและเอ่ยเน้นย้ำทีละคำว่า "ฉันจะต้องตามหาตัวคนร้ายที่ลักพาตัวชูเหยา ฉันจะต้องแก้แค้นให้กับเธอ!"
แค่เพียงคิดว่าชูเหยานั้นถูกลักพาตัวไปและถูกขังอยู่ภายในโรงรถที่ไร้แสงอาทิตย์ มองไม่เห็นตะวันไม่เห็นดาวตลอดระยะเวลาห้าปี เพียงเท่านี้หัวใจของจี้หลิงชวนก็เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด
ท้ายที่สุดแล้วเรื่องนี้จี้หลิงชวนก็ต้องรับผิดชอบด้วย ตอนนั้นหากไม่ใช่เพราะว่าเขาทะเลาะกับชูเหยา บางทีชูเหยาก็คงไม่โกรธและบินไปสหรัฐอเมริกาเพียงคนเดียว!
หลังจากจี้หลิงชวนและเวินจิ่งทานอาหารกลางวันเสร็จ จี้หลิงชวนก็ตั้งใจสั่งข้าวต้มไก่ที่เหมาะแก่ผู้ป่วยและตรงกลับไปยังห้องพักผู้ป่วย
จี้หลิงชวนอยู่เป็นเพื่อนชูเหยากระทั่งเธอทานข้าวต้มเสร็จ จากนั้นเขาก็ตรงไปยังสถานีตำรวจกับเวินจิ่งอีกครั้งและขอให้สอบสวนเรื่องที่ชูเหยาถูกลักพาตัวไปตลอดระยะเวลาห้าปีที่ผ่านมาอย่างละเอียด
จี้หลิงชวนอยู่สหรัฐอเมริกามาหนึ่งสัปดาห์แล้ว เขาใช้อิทธิพลของเขาร่วมกับการสืบหาเบาะแสของตำรวจ จากนั้นเขาก็หาตัวคนที่คอยรับผิดชอบส่งน้ำส่งอาหารให้กับชูเหยาที่ถูกขังอยู่ภายในโรงรถ เขาเป็นชายที่คอยดูแลความสะอาดของที่นั่น
เป็นเพราะว่าเขาไม่ใช่ตัวการหลัก ชายผู้นั้นจึงถูกตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิต
และสุดท้ายคดีก็ถึงจุดสิ้นสุด ราวกับว่าผู้ลักพาตัวลึกลับนั้นไม่เคยปรากฏตัวมาก่อน นี่เป็นครั้งแรกที่จี้หลิงชวนพบกับเรื่องราวที่ยากจะรับมือได้เช่นนี้
ร่างกายของชูเหยานั้นได้รับบาดเจ็บบริเวณผิวหนังบางส่วน ตอนนี้หลังจากที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลมาหนึ่งสัปดาห์ รอยที่ได้รับบาดเจ็บบนร่างกายของเธอนั้นก็เกือบจะหายดีแล้ว
วันนี้ทันทีที่จี้หลิงชวนมายังห้องพักผู้ป่วยของชูเหยาในโรงพยาบาล ชูเหยาก็กอดแขนเขาไว้แน่น
ชูเหยาน้ำตาเอ่อนองเต็มดวงตา เธอจ้องมองจี้หลิงชวนพร้อมกับสะอื้นไห้อย่างน่าสงสาร "หลิงชวน ไม่ต้องสืบอะไรแล้วได้ไหม? ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว ฉันแค่ต้องการกลับไปที่ประเทศจีนและเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง หลิงชวน คุณพาฉันกลับไปประเทศจีนเถอะ"
จี้หลิงชวนจ้องมองชูเหยาที่กำลังร้องไห้และสะอึกสะอื้นจากนั้นเขาทำได้เพียงแค่พยักหน้าตกลง
ในค่ำคืนนั้นจี้หลิงชวนก็สั่งให้คนของเขาจองตั๋วกลับไปยังประเทศจีนสองใบ เขาจะพาชูเหยากลับไปพร้อมกับเขา
เวินจิ่งตั้งใจไปสนามบินเพื่อที่จะส่งจี้หลิงชวนและชูเหยา หลังจากที่เห็นว่าทั้งสองขึ้นเครื่องบินไปแล้ว เวินจิ่งก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและเปิดกลุ่มวีแชทที่มีชื่อว่า 'ชายผู้อยู่เบื้องหลังคุณชายจี้'
มีสมาชิกเพียงสามคนในกลุ่ม นอกจากเวินจิ่งแล้วก็ยังมีลู่เฉิงฮ่าวและซูอวี่โม่
จี้หลิงชวนคนบ้างาน ทุกวันรู้เพียงแค่เรื่องงาน น้อยมากที่จะเล่นโทรศัพท์ เขาไม่มีวีแชทจึงไม่ได้อยู่ในกลุ่มนี้ด้วย
เวินจิ่งอดไม่ได้ที่จะพิมพ์ข้อความและส่งไปในกลุ่ม
เวินจิ่ง : พวกแกรู้ไหม ฉันบังเอิญเจอชูเหยา!
หลังจากเวินจิ่งส่งข้อความไป ภายในกลุ่มก็เงียบไปประมาณ10วินาที หลังจากนั้นชื่อของลู่เฉิงฮ่าวก็เด้งขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ
ย่าก็ปักใจเชื่อเลย ไม่ตรวจดีเอ็นเอหน่อยล่ะ...
ตรวจดีเอ็นเอก็จบ งง นังพี่เลวยังคิดได้ แต่พระเอกคิดไม่ได้...
เรื่องนี้อ่านจบแล้ว...