ในชั่วพริบตา จี้หลิงชวนก็ก้มหน้าลงไปจูบลงบนริมฝีปากของมู่ซีซีอย่างดูดดื่ม ยังไม่ทันที่จะรอให้มู่ซีซีได้มีโอกาสพูดอะไร
มู่ซีซีได้แต่เบิกตาโตจ้องหน้าของจี้หลิงชวนที่อยู่ใกล้ชิดกับเธอแค่เพียงไม่กี่เซน เธอพยายามยื่นมือออกไปผลักจี้หลิงชวนให้ออกห่างแต่ว่าด้วยแรงอันน้อยนิดของเธอแทบจะไม่เป็นผล
แรงของผู้ชายยังไงก็เหนือกว่าผู้หญิงอยู่วันยังค่ำ ยิ่งเป็นจี้หลิงชวนนักกีฬาเทควันโดสายดำแล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึงแรงของมู่ซีซีสำหรับเขาแล้วมันไม่คณามือเขาหรอก
การจูบที่ยาวนานในครั้งนี้สิ้นสุดลง จี้หลิงชวนค่อยๆเงยหน้าขึ้น ปล่อยให้มู่ซีซีได้รับอากาศหายใจ หากไม่ใช่ว่าตอนนี้มู่ซีซีมีประจำเดือนอยู่ล่ะก็ ป่านนี้จี้หลิงชวนคงไม่ปล่อยเธอเอาไว้แน่ !
มู่ซีซีเห็นจี้หลิงชวนค่อยๆขยับตัวออกห่างจากเธอ และไม่มีทีท่าว่าจะลงมือกับเธอต่อ ทำให้เธอรู้สึกโล่งใจขึ้นเล็กน้อย
สายตาคู่นี้ของมู่ซีซีจ้องไปที่จี้หลิงชวนอย่างไม่เกรงกลัวพร้อมกับกัดริมฝีปากและพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนวอนว่า“จี้หลิงชวน คุณกลับไปที่ห้องของคุณได้หรือเปล่า?อย่ามาอยู่ที่ห้องของฉันเลย……”
ตอนนี้หัวใจของมู่ซีซีเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ เพราะกลัวว่าแม่และมู่อวี๋เฟยจะเดินเข้ามาเคาะประตูห้องและพบว่าจี้หลิงชวนอยู่กับเธอที่นี่ ถึงเวลานั้นแล้วต่อให้เธอหาเหตุผลร้อยแปดมาเพื่อแก้ตัวก็คงจะไม่มีใครเชื่อเธอแน่
จี้หลิงชวนหรี่ตาลงมองมู่ซีซีจากนั้นก็ใช้มืออันเรียวยาวของเขาลูบไล้ไปที่ปลายคางของเธอ“ตอนนี้เธอคงรู้สึกกลัวแล้วสินะ?นี้ก็คือผลของการกระทำที่เธอพยายามหลบหน้าฉัน!”
มู่ซีซีกัดที่ริมฝีปากของเธอจากนั้นก็พูดออกมาว่า:“ต่อไปฉันจะไม่หลบหน้าคุณแล้ว……”
เมื่อได้ยินคำตอบที่น่าพอใจจากเธอ จี้หลิงชวนก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ แต่ว่าจี้หลิงชวนก็คงไม่ปล่อยมู่ซีซีไปง่ายๆแบบนี้หรอก
“น่าเสียดายจังที่ตอนนี้สายเกินไปซะแล้ว!มู่ซีซี ถ้าต้องการให้ฉันออกไปจากห้องเธอล่ะก็ เรื่องนั้นง่ายมากเธอต้องเอาใจเจ้านี้ให้ได้ก่อนจากนั้นค่อยว่ากัน!”
ครั้งนี้จี้หลิงชวนคงไม่ได้แค่พูดเล่นๆ!และต้องการให้มู่ซีซีจดจำเอาไว้ให้ขึ้นใจ ว่าถ้าเธอยังกล้าที่จะหลบหน้าของเขาอีกเธอจะเจอกับอะไร!
ทันทีที่จี้หลิงชวนพูดจบลง มู่ซีซีก็รู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่ให้ความรู้สึกอุ่นๆทิ่มเข้ามาโดนบริเวณท้องน้อยของเธอ
แต่มู่ซีซีมีประสบการณ์มาครั้งหนึ่งแล้ว ชั่วพริบตาเดียวเธอก็รู้ว่าของสิ่งนั้นคืออะไร ใบหน้าอันขาวบริสุทธิ์ราวกับหิมะในฤดูแรกแย้มของมู่ซีซีค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีชมพูระเรื่อๆ
เธอรู้สึกราวกับอยู่ในความฝัน ได้ยินเพียงเสียงของหัวใจตัวเองที่เต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมา
คำพูดตะกุกตะกักที่ดังออกมา“ฉัน……ฉัน คุณ จี้ จี้หลิงชวน คุณจะทำ ทำอะไรนะ……”
ทันทีที่เสียงของมู่ซีซีสิ้นสุดลง ฝ่ามืออันใหญ่ของจี้หลิงชวนก็ประกบเข้ากับง่ามมือเล็กๆของมู่ซีซี
จากนั้นไม่นาน มู่ซีซีก็รู้สึกได้ถึงความร้อนซาบซ่านที่แผ่ออกมาจากฝ่ามือของจี้หลิงชวน จนใบหน้าของเธอเริ่มแดงขึ้นมาเรื่อยๆ บางครั้งเธอก็พยายามใช้แรงที่มีดึงมือน้อยๆที่ถูกจี้หลิงชวนจับเอาไปคืนมา
แต่มู่ซีซีจะเอาเรี่ยวแรงที่ไหนมาสู้เขาได้ เธอดิ้นทุรนทุรายไปมาในอ้อมอกของจี้หลิงชวน ตาของเธอเริ่มจะแดงขึ้น น้ำตาก็ค่อยๆคลอเบ้า มู่ซีซีมองขึ้นไปสบตากับจี้หลิงชวนแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนวอนว่า“จี้หลิงชวน……คุณ คุณปล่อยมือฉันเถอะ!”
จี้หลิงชวนขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ยอมปล่อยมือออกจากมู่ซีซี อีกทั้งยังใช้สายตายั่วยวนจ้องมองที่มู่ซีซี ลูกกระเดือกที่อยู่ตรงคอของเขาเลื่อนขึ้นลงๆ ราวกับว่าอยากที่จะกลืนกินมู่ซีซีลงไป
“เธอช่วยฉันที!”จี้หลิงชวนพูดออกมาอย่างไม่เกรงใจ
“ไม่เอา……” มู่ซีซีหน้าแดงไปทั่วทั้งใบหน้า เธออายจนเอาหน้าซุกเข้าไปในผ้าห่ม
“ดี อย่างนั้นเธอก็ช่วยให้ฉันมีความสุขหน่อย!”เมื่อจี้หลิงชวนพูดจบ เขาก็พลิกตัวขึ้นไปคร่อมบนเรือนร่างของมู่ซีซี
มู่ซีซีรู้สึกตกใจมาก เธอรีบผลักตรงหน้าอกของจี้หลิงชวนเพื่อให้เขาลุกออกไป สายตาของจี้หลิงชวนแสดงออกให้เห็นว่าครั้งนี้เขาเอาจริงแล้ว เมื่อมู่ซีซีเห็นแบบนั้นแล้วเธอก็รู้สึกหวาดกลัวมากเธอพูดออกมาจากในลำคอว่า“ฉันช่วย……ฉันจะช่วยคุณ!”
ยี่สิบนาทีหลังจากนั้น เธอกำลังก้มหน้าอยู่ ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ หูทั้งสองข้างของเธอได้ยินเพียงแค่เสียงร้องครางอันยั่วยวนของจี้หลิงชวน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ
ย่าก็ปักใจเชื่อเลย ไม่ตรวจดีเอ็นเอหน่อยล่ะ...
ตรวจดีเอ็นเอก็จบ งง นังพี่เลวยังคิดได้ แต่พระเอกคิดไม่ได้...
เรื่องนี้อ่านจบแล้ว...