รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ นิยาย บท 29

สรุปบท บทที่ 29 มู่อวี๋เฟยเธอมีความสุขจริงๆเหรอ?: รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

บทที่ 29 มู่อวี๋เฟยเธอมีความสุขจริงๆเหรอ? – ตอนที่ต้องอ่านของ รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

ตอนนี้ของ รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ โดย อี้ หมิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายInternetทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 29 มู่อวี๋เฟยเธอมีความสุขจริงๆเหรอ? จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

มู่ซีซีเห็นสีหน้ามู่อวี๋เฟยมองของขวัญในกล่องด้วยตาที่เป็นประกายลุกวาว เธอก็อดสงสัยไม่ได้ว่าของในกล่องเป็นอะไร มู่ซีซียื่นออกไปแย่งกล่องของขวัญที่อยู่ในมือของมู่อวี๋กลับมาดู

เมื่อเธอเห็นอย่างชัดเจนแล้วว่าในกล่องของขวัญนั้นมีอะไรอยู่ เธอก็ถึงกับช็อกไปเลย ดวงตาอันเป็นประกายราวกับดอกซากุระกำลังตกตะลึงกับของขวัญที่อยู่ในกล่อง ด้านในกล่องเป็นกำไลข้อมือที่ทำอย่างละเอียดประณีตและยังดูสวยงามมากอีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้น ตัวเรือนยังทำจากเงินแท้ อีกทั้งยังมีของที่ล้ำค่าอย่างเพชรเม็ดสีชมพูเม็ดเท่าไข่นกประดับอยู่ด้วย!

เพชรสีชมพูเม็ดใหญ่ขนาดนี้หากดูคร่าวๆก็ราคาประมาณหลักพันล้านหยวน!

ก็ไม่แปลกใจที่มู่อวี๋เฟยได้เห็นของขวัญชิ้นนั้นแล้วจะรู้สึกตะลึงจนเก็บอาการไม่อยู่

ก็รู้ทั้งรู้ว่าบริษัทของบ้านตระกูลมู่เป็นบริษัทเล็กๆ ราคามูลค่าทั้งหมดของมันคงพอๆกับเพชรเม็ดสีชมพูเม็ดนั้น

จี้หลิงชวนก็ยังกล้าที่ส่งของขวัญแบบนี้ให้กับเธอ!!!

เมื่อมู่อวี๋เฟยได้สติกลับมา สายตาคู่นั้นของเธอมองไปที่ของขวัญกล่องนั้นที่อยู่ในมือของมู่ซีซีด้วยความอิจฉา มือที่อยู่แนบลำตัวทั้งสองข้างของเธอมันสั่นไม่หยุดด้วยความโมโห จี้หลิงชวนคิดอะไรอยู่ถึงที่ส่งของขวัญแบบนี้ให้กับคนอย่างมู่ซีซี

ของล้ำค่ามีราคาแพงแบบนี้แม้แต่ตัวเธอเองก็ยังไม่เคยมี !

ตั้งแต่เล็กจนโตเจอมู่อวี๋เฟยยังไม่เคยได้พบเจอเพชรเม็ดใหญ่ขนาดนี้มาก่อน!แน่นอนว่าเธอก็ต้องรู้สึกอิจฉาและรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก

แค่เพชรเม็ดใหญ่นี้มูลค่าของมันก็สามารถที่จะซื้อบริษัทของตระกูลเธอได้เลยทีเดียวเชียว

มู่อวี๋เฟยรู้สึกรับไม่ได้ เธอรู้สึกโมโหมากจนขนาดอยากเดินเข้าไปเพื่อแย่งเอากำไลข้อมือชิ้นนั้นกลับคืนมา!

แต่เมื่อเธอฉุดคิดได้เธอก็พยายามควบคุมตัวเอง อันที่จริงของขวัญชิ้นนั้นจี้หลิงชวนเป็นคนมอบให้ แม้ว่าเธอจะแย่งเอาไปได้เธอก็คงไม่กล้าที่จะสวมใส่มันออกมาให้ใครๆเห็นได้ และอีกอย่างถ้าเธอทำอย่างนั้นก็คงจะรู้สึกขายหน้ามู่ซีซีเป็นแน่!

เมื่อคิดได้อย่างนี้แล้วมู่อวี๋เฟยก็พยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเองลง เธอพยายามข่มความอิจฉาริษยาที่อยู่ในจิตใจของตัวเอง

เธอมองไปที่มู่ซีซี:“มู่ซีซี ในครั้งนี้ เห็นทีว่าเธอจะต้องขอบคุณฉันให้มากๆ หากไม่ใช่เพราะฉัน จี้หลิงชวนคงจะไม่มอบของขวัญที่มีราคามหาศาลแบบนี้ให้กับเธอหรอก!”

เมื่อมู่ซีซีได้ยินในสิ่งที่มู่อวี๋เฟยพูด เธอขมวดคิ้วเล็กน้อยจากนั้นก็มองไปที่มู่อวี๋เฟย “มู่อวี๋เฟย เธอแต่งงานกับจี้หลิงชวนแล้วมีความสุขจริงเหรอ?”

มู่อวี๋เฟยถึงกับชะงักอยู่กับที่พร้อมกับสีหน้าที่ไม่ค่อยจะสู่ดีนัก เธอมองสบตากับมู่ซีซีอยู่สักพัก จากนั้นเธอก็พยายามควบคุมสีหน้าของตัวเองให้กลับมาเป็นปกติ ในครั้งนี้เธอแสดงท่าทีราวกับว่าตัวเองอยู่สูงเสียดฟ้าและอ้าปากพูดขึ้นว่า “มีความสุขแน่นอน ฉันเป็นถึงภรรยาของจี้หลิงชวนเชียวนะ!”

จี้หลิงชวนเลยนะ!จี้หลิงชวนที่รวยระดับแสนล้าน !เป็นชายในฝันของผู้หญิงหลายๆคนในเมืองหรง และตอนนี้เธอก็เป็นถึงภรรยาของเขา แม้ว่าจะเป็นการแต่งงานปลอมๆ แต่ว่ามู่อวี๋เฟยก็มั่นใจว่าเธอจะทำให้มันเป็นเรื่องจริงขึ้นมาให้ได้สักวัน!

มู่ซีซีที่ยืนอยู่ทางด้านข้างเห็นสีหน้าท่าทางของมู่อวี๋เฟยอย่างนั้นแล้ว ในใจของเธอกลับรู้สึกหดหู่แทนพี่สาว สิ่งที่จี้หลิงชวนได้บอกกับเธอที่แท้แล้วมันเป็นความจริง

คิดว่าจนถึงตอนนี้จี้หลิงชวนคงไม่เคยแตะต้องตัวของมู่อวี๋เฟยเลยแม้แต่น้อย เหมือนกับว่าไม่เคยได้แต่งงานกับเธอจริงๆ แต่ทว่าสิ่งที่มู่อวี๋เฟยแสดงออกมาในฉากนี้ อย่างน้อยก็ทำให้เธอโล่งใจขึ้นมาบ้าง

“เธอสบายใจได้ ของที่มีราคาแพงขนาดนี้ ฉันต้องเอาไปคืนจี้หลิงชวนแน่”

เมื่อคำพูดประโยคนี้ของมู่ซีซีจบลง มู่อวี๋เฟยก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไป เธอมองมู่ซีซีที่มีใบหน้าทั้งงดงามและเย็นชาในเวลาเดียวกัน

“มีธุระอะไร?”จี้หลิงชวนหยุดฝีเท้าในชั่วขณะพร้อมหันกลับไปมองมู่อวี๋เฟยด้วยสายตาที่เย็นชา

เมื่อมู่อวี๋เฟยเห็นสายตาที่มองมาอย่างเย็นชาของจี้หลิงชวน เธอแทบจะหยุดฝีเท้าไว้ไม่ทัน แต่พอเธอได้สติกลับมาก็รีบล้วงกระเป๋าหยิบกล่องของขวัญขึ้นมาส่งให้กับจี้หลิงชวน “คุณชายจี้ น้องสาวของฉันบอกว่า ของขวัญที่คุณมอบให้กับเธอมันมีราคามากเกินไป จึงใช้ให้ฉันนำมันมาคืนให้กับคุณค่ะ”

จี้หลิงชวนไม่ได้สนใจมองมู่อวี๋เฟยเลยแม้แต่น้อย สายตาของเขาจับจ้องไปที่กล่องของขวัญชิ้นนั้นอยู่สักพัก ทำดี เป็นครั้งแรกที่จี้หลิงชวนส่งมอบของขวัญออกไปแล้วถูกคนส่งกลับคืน !

มู่อวี๋เฟยเกร็งจนไม่กล้าขยับ เธอรวบรวมความกล้าที่จะมองหน้าของจี้หลิงชวน ไม่รู้ว่าเธอคิดไปเองหรือเปล่า ในตอนที่เธอหยิบกล่องของขวัญชิ้นนั้นออกมา รอบๆตัวของจี้หลิงชวนเหมือนกับสามารถแผ่ความร้อนออกมาได้ เธอรู้สึกเหมือนว่าเขากำลังโกรธยังไงยังงั้น

และทันใดนั้นเธอก็เห็นจี้หลิงชวนชายผู้มีใบหน้าเย็นชา ยื่นมือเข้ามาหยิบของขวัญชิ้นนั้นจากมือเธอไป โดยไม่พูดไม่จาสักคำจากนั้นก็หันหลังจากไป

เหลือแต่เพียงมู่อวี๋เฟยที่ยืนเกร็งตัวแข็งทื่ออยู่กับที่ เธอเห็นแต่ด้านหลังของชายรูปร่างสูงค่อยๆเดินห่างออกไป เธอกัดฟันด้วยความแค้น

จี้หลิงชวนออกจากโรงพยาบาลไป ทันทีที่นั่งลงบนเบาะนั่งในรถของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมจากนั้นก็กดโทรออกไปที่เบอร์โทรศัพท์ของมู่ซีซี

ที่นั่งด้านหน้าของคนขับ ฟางเซิ่งที่ทำหน้าเป็นคนขับรถมองเห็นประธานที่นั่งเบาะหลังจึงเดาว่าคงเพราะเรื่องของคุณมู่ทำให้จี้หลิงชวนอารมณ์ไม่ดี อืม นอกจากเรื่องของชูเหยา นานมากแล้วที่เขาไม่เคยเห็นท่านประธานอารมณ์ไม่ดีเพราะเรื่องของผู้หญิงคนไหนแบบนี้เลย

ตอนที่รับสายโทรศัพท์ของจี้หลิงชวน มู่ซีซีเพิ่งจะมาถึงมหาลัย เห็นหน้าจอของโทรศัพท์โชว์JLC สามคำ มู่ซีซีก็รู้สึกใจเต้นตึกๆๆขึ้นมาทันที เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย นี่เป็นเบอร์ของจี้หลิงชวนนี่นา!

มองดูลักษณะแล้วไม่มีทีท่าที่จะกดวางสายเลย มู่ซีซีคิดไปพลางพร้อมกับกัดริมฝีปากเบาๆ จากนั้นจึงตัดสินใจกดรับสาย “ฮัลโหล?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ