“ฉันไม่ได้หาแก ฉันหามิ้นท์ เธออยู่ข้างกายแกใช่มั้ย?” คุณนายราศรีถามกลับ
ลาเต้มองไปทางมายมิ้นท์“อยู่ครับ”
“เอาโทรศัพท์ให้มิ้นท์”
ลาเต้อือคำหนึ่ง ยื่นโทรศัพท์ให้กับมายมิ้นท์“ให้ แม่ฉันนะ”
มายมิ้นท์รับโทรศัพท์มา“คุณป้าค่ะ”
“มิ้นท์ ป้าคิดถึงลูกจะตายแล้ว”เมื่อได้ยินเสียงของมายมิ้นท์ คุณนายราศรีก็ยิ้มจนตาหยี
มายมิ้นท์ก็ยิ้มขึ้นมาเช่นกัน“คุณป้า หนูก็คิดถึงป้าเหมือนกันค่ะ”
“คิดถึงป้าก็ไม่มาหาป้าเลย” คุณนายราศรีแกล้งทำเป็นบ่นว่า
มายมิ้นท์ก็แลบลิ้น“ขอโทษด้วยค่ะคุณป้า ช่วงนี้ยุ่งมาก ไม่มีเวลา”
“งั้นตอนนี้มีเวลามั้ย มาทานข้าวที่บ้านป้า ป้าจะทำของอร่อยให้ทาน” คุณนายราศรีพูดเชิญชวน
มายมิ้นท์กำลังจะพูด ลาเต้ที่แอบฟังอยู่ด้านข้างก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากพูดว่า“แม่ครับ ผมจะพาที่รักไปทานอาหารทะเล”
“อาหารทะเลข้างนอกมีอะไรน่ากิน ไม่สดด้วย จะกินก็กินที่แม่ทำ” คุณนายราศรีตอบ
มายมิ้นท์เอ่ยปากพูด“งั้นก็รบกวนคุณป้าแล้ว”
“ไม่รบกวนเลยไม่รบกวน งั้นพวกลูกมาเช้าหน่อยนะ” คุณนายราศรีได้ยินมายมิ้นท์ตกลงมาที่บ้าน ก็หัวเราะอย่างมีความสุข
ต่อจากนั้นก็วางสาย ลาเต้หยิบโทรศัพท์กลับมา มองไปที่มายมิ้นท์อย่างช่วยไม่ได้“ช่วยไม่ได้ อาหารทะเลข้างนอกกินไม่ได้แล้ว”
“ไม่เป็นไร ครั้งหน้าค่อยไปนะ ไป ไปซื้อของขวัญให้คุณลุงกับคุณป้ากัน”มายมิ้นท์ดึงแขนของเขาเดินไปที่รถ
ทั้งสองคนมาถึงที่ห้างสรรพสินค้า หลังจากที่ดูไปหนึ่งรอบ ซื้อเสื้อคลุมให้คุณนายราศรีหนึ่งผืน และซื้อเนกไทให้ คุณท่านตระกูลตระกูลรัตติพีระหนึ่งเส้น ถึงได้ขับรถไปที่บ้านของตระกูลรัตติพีระ
ตระกูลรัตติพีระและตระกูลกิตติภัคโสภณเมื่อก่อนนี้คบกันหลายชั่วคน และมีความสัมพันธ์ที่ดีมาก
คุณนายราศรีและแม่ของเธอก็เป็นเพื่อนสนิทกัน
ตั้งแต่ที่แม่ของเธอเสียชีวิต คุณนายราศรีก็เลี้ยงดูเธอเหมือนลูกสาวแท้ๆ เรียกได้ว่าอยู่ในใจของเธอ คุณนายราศรีก็เป็นแม่คนที่สองของเธอ
ในไม่ช้า ก็มาถึงตระกูลรัตติพีระแล้ว
นี่เป็นครั้งแรกในรอบหกปีที่มายมิ้นท์มาที่นี่ ที่นี่ยังเหมือนกับเมื่อก่อนนี้ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย
ก็ด้วยเหตุนี้ มายมิ้นท์ไม่ได้รู้สึกแปลกอะไรทั้งนั้น
“มิ้นท์!” คุณนายราศรีอยู่ในห้องได้ยินเสียงรถ เร่งรีบวิ่งออกมาต้อนรับ ดวงตาที่เห็นมายมิ้นท์ก็เปล่งประกายในทันที และอ้าแขนออกเข้าไปกอด
“คุณป้าค่ะ”มายมิ้นท์ก้าวไปข้างหน้าด้วยรอยยิ้ม
ทั้งสองคนกอดอยู่ด้วยกัน
ลาเต้ที่อยู่ข้างกายก็มองดูจนอิจฉาตาร้อน“แม่ แม่ก็ละเลยผมแล้วใช่มั้ย?”
คุณนายราศรีกลอกตาขาว“ฉันเห็นแกอยู่ทุกวัน ก็เห็นจนเบื่อตั้งนานแล้ว คนที่ฉันอยากจะเห็นมากที่สุดคือมิ้นท์ มามิ้นท์ ให้ป้าดูดีๆหน่อยสิ ”
เธอจับมองสองข้างของมายมิ้นท์ไว้ ให้มายมิ้นท์หมุนตัวหนึ่งรอบ ค่อนข้างเอ็นดู“ผอมแล้ว”
มายมิ้นท์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก“คุณป้า หนูผอมที่ไหนกันค่ะ”
“ผอมทุกที่ เมื่อก่อนนี้บนใบหน้ายังมีเนื้อมีหนังอยู่บ้าง” คุณนายราศรีพูด
มายมิ้นท์ตอบกลับ: “เมื่อก่อนนั้นเป็นแก้มอ้วนเหมือนเด็ก ดังนั้นมองดูมีเนื้อมีหนังบ้าง เอาล่ะคุณป้า พวกเราเข้าบ้านก่อนเถอะค่ะ”
“ใช่ๆๆ เข้าบ้านก่อนนะเข้าบ้านก่อน” คุณนายราศรีดึงมือของเธอเข้าไปในคฤหาสน์
เข้าไปที่คฤหาสน์แล้ว มายมิ้นท์พบว่าไม่มีคนอื่น อดไม่ได้ที่จะถามว่า: “คุณลุงไม่อยู่เหรอคะ?”
“เขาอยู่เล่นกอล์ฟอยู่ข้างนอกกับคนอื่น ไม่สนใจเขาแล้ว มิ้นท์ ลูกเล่าให้ป้าสิว่าหกปีนี้เป็นยังไงบ้าง” คุณนายราศรีดูงานแถลงข่าวนั้นแล้ว และอยากจะรู้เรื่องราวของเธออย่างเร่งด่วน
“ค่ะ”มายมิ้นท์พยักหน้า ต่อจากพยายามเล่าชีวิตในตระกูลนวบดินทร์ อย่างเรียบง่าย ทั้งนี้จะไม่ทำให้คุณนายราศรีเป็นห่วง
แต่คุณนายราศรีฟังจบ ก็ยังโกรธมาก อดไม่ได้ที่จะตบโต๊ะกาแฟ“ตระกูลนวบดินทร์ไม่มีอะไรดีจริงๆ มิ้นท์ พวกเขาทำแบบนั้นกับลูก ทำไมลูกไม่บอกคุณลุงคุณป้า ลูกบอกพวกเรา พวกเราก็จะได้เป็นกำลังเสริมให้ลูก พวกเขาคงจะไม่กล้ารังแกลูกอย่างแน่นอน”
“นั่นนะสิ ก่อนหน้านี้ผมเคยพูดกับเธอ”ลาเต้กัดแอปเปิลพยักหน้าคล้อยตามไปด้วย
สำหรับพฤติกรรมการของมายมิ้นท์ที่ในระหว่างแต่งงานนั้นถูกรังแกก็ไม่บอกเขา ในใจของเขาก็โกรธมากมาโดยตลอด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...