ปีโป้ตอบรับกลับมาสองสามคำและรีบไปที่ห้องนั่งเล่นชั้นหนึ่งเพื่อเปิดประตู
เมื่อประตูเปิดออก พวกเขาก็ออกไปพร้อมกับส้มเปรี้ยว
เมื่อพวกเขามาถึงสนามแข่งม้า ทามทอยและลาเต้ก็โยนกระสอบลงบนพื้น
มายมิ้นท์ก้าวไปข้างหน้า คลายฝาขวดน้ำแล้วเทน้ำจากในขวดลงไปบนกระสอบ
ส้มเปรี้ยวที่อยู่ในกระสอบรู้สึกเหมือนมีน้ำเย็นมาราดที่ศีรษะ ตัวเธอสั่นสะท้านและได้สติขึ้นทันที
จากนั้นเธอจึงพบว่าตัวเองอยู่ในพื้นที่เล็กๆ มองไม่เห็นอะไรเลย
เธอสัมผัสได้ถึงพื้นผิวอันหยาบกระทบกับร่างกายของเธอ วินาทีนี้เธอจึงเข้าใจทุกอย่างในทันที
เธอถูกคลุมด้วยกระสอบ!
ส้มเปรี้ยวโกรธมาก ในขณะที่พยายามดิ้นรนอย่างหนักเพื่อที่จะออกจากกระสอบ เธอกัดฟันและตะโกนว่า “ปีโป้! แกกล้ารวมหัวกับพวกมายมิ้นท์มาจัดการฉันเหรอ?”
เธอไม่ได้โง่ คนในวิลล่ามีอยู่ไม่กี่คน นอกจากมายมิ้นท์แล้วจะมีใครอยากมัดเธอใส่กระสอบอีก
ปีโป้ที่ยืนอยู่ด้านข้างมายมิ้นท์ ลดเสียงลงและพูดว่า “พี่มายมิ้นท์ เธอรู้ได้อย่างไรว่าผมร่วมมือกับพวกพี่?”
“เจ้าเด็กโง่ ใครมั่งจะเดาไม่ออก!” ลาเต้เคาะไปที่ศีรษะของเขา
ปีโป้ยกขาขึ้นเตะลาเต้ด้วยความโกรธ
ลาเต้แลบลิ้นและรีบวิ่งไป
ล้อเล่นหรือไง ปีโป้เป็นนักบาสฯ แม้ว่าเขาจะเป็นแค่เด็กวัยรุ่นแต่ก็สูงกว่ามาก
หากถูกปีโป้เตะเข้าให้ ถ้าไม่เจ็บปวดสักสี่ห้าวันคงจะแปลก
“เอาละๆ หยุดทะเลาะกันได้แล้ว” มายมิ้นท์ขมวดคิ้วเมื่อเห็นทั้งสองคนทะเลาะกันอีกแล้ว
ทั้งสองจึงเงียบลงอย่างเชื่อฟังเหมือนเด็กๆ
ส้มเปรี้ยวที่อยู่ในกระสอบได้ยินเสียงมายมิ้นท์ ใบหน้าของเธอก็ดูบิดเบี้ยว “หึๆ มายมิ้นท์ เป็นพวกแกจริงๆ แกกล้าดียังไงทำกับฉันแบบนี้!”
ให้ตายสิ นี่มันกระสอบอะไรกัน ดิ้นยังไงก็ไม่หลุด!
“ทำไมจะไม่กล้าล่ะ?” มายมิ้นท์ขมวดคิ้วขึ้นอย่างเย็นชา “คุณยังกล้าทำร้ายฉันหลายต่อหลายครั้ง แล้วทำไมฉันจะไม่กล้าโต้ตอบกลับล่ะ?””
“......” ส้มเปรี้ยวนิ่งไปชั่วครู่ แต่ในไม่ช้าก็กลับมาเย่อหยิ่งจองหองอีกครั้ง “แกทำแบบนี้ ไม่กลัวว่าเปปเปอร์รู้หรือไง?”
“ทำไมฉันจะต้องกลัวเขาด้วยล่ะ? เขาเป็นอะไรกับฉัน?” มายมิ้นท์กลอกตา
ส้มเปรี้ยวเยาะเย้ย “เสแสร้งไปเถอะ รอให้เปปเปอร์รู้ว่าแกทำกับฉันแบบนี้ เขามีแต่จะเกลียดแกมากขึ้นเท่านั้น!”
“แล้วไง?” มายมิ้นท์พูดเบาๆ
ลาเต้เม้มริมฝีปากของเขา “นี่ส้มเปรี้ยว คุณคิดว่าคำพูดของคุณสามารถกระตุ้นที่รักของเราได้เหรอ? คุณคงไม่ได้คิดว่าที่รักของผมยังชอบเจ้าหมอนั่นอยู่หรอกนะใช่ไหม? ผมจะบอกให้ว่า ที่รักของผมไม่ได้ชื่นชอบเขาตั้งนานแล้ว ดังนั้นที่รักของผมจะไปสนใจทำไมว่าท่าทีของเจ้าหมอนั่นจะเป็นยังไง?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ท่าทางของส้มเปรี้ยวก็เปลี่ยนไปทันที “มันเป็นไปไม่ได้!”
มายมิ้นท์ไม่ชอบเปปเปอร์? ช่างเป็นเรื่องตลกระดับนานาชาติจริงๆ
เธอรู้ว่ามายมิ้นท์ชอบเปปเปอร์มากแค่ไหนในสมัยเรียนวิทยาลัย ไม่อย่างนั้นเธอจะเต็มใจทนทุกข์กับการถูกกลั่นแกล้งจากคนในตระกูลนวบดินทร์ได้ถึง 6 ปีเพื่อเปปเปอร์ได้อย่างไร? ดังนั้นเธอไม่เคยเชื่อว่ามายมิ้นท์จะไม่ชอบเปปเปอร์แล้ว
“จะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่ เอาละ อย่ามัวแต่พูดจาไร้สาระ ทุกคน ลงมือได้!” ลาเต้หมดความอดทนแล้วกวักมือเรียก
ส้มเปรี้ยวตกใจมาก น้ำเสียงของเธอดูตื่นตระหนก “แก......พวกแกจะทำอะไร?!”
“จะทำอะไรเดี๋ยวก็รู้เอง” ทามทอยถูมือของเขาและหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ชาหวานกลอกตามองเขาที่ตอนนี้ไม่ต่างไปจากนักเลงข้างถนน
ทุกคนเข้ามาล้อมรอบส้มเปรี้ยวและเริ่มลงมือต่อยเตะ
แต่เพราะส้มเปรี้ยวเป็นผู้หญิง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้ใช้แรงมากนัก แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้ส้มเปรี้ยวรู้สึกเจ็บปวด
นอกจากความเจ็บปวดแล้ว สิ่งที่ส้มเปรี้ยวทนไม่ได้มากที่สุดคือการดูถูกเช่นนี้
เธอขดตัวอยู่ในกระสอบ ดวงตาของเธอเป็นสีแดงเรื่อ แขนของเธอยกขึ้นบังใบหน้าไว้เพื่อไม่ให้เสียโฉม เธอพยายามกัดริมฝีปากตนเองเอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้กรีดร้องออกมา
แค้นนี้เธอจดจำเอาไว้ขึ้นใจ ไม่ช้าก็เร็วเธอจะให้พวกเขาต้องตายทั้งเป็น!
ไม่กี่นาทีต่อมา มายมิ้นท์ก็สั่งให้หยุด
ลาเต้สะบัดมือออก “สนุกดีจริงๆ”
“ผมก็คิดเหมือนกัน” ปีโป้พยักหน้าเห็นด้วย
ทามทอยเอามือแตะคางของตนเอง ใบหน้าปรากฏความรู้สึกเสียใจขึ้น “น่าเสียดายจริงๆที่เธอทนได้มากกว่าที่คิด ถึงจะเจ็บปวดแต่ก็ไม่กล้าร้องออกมา ผมรู้สึกไม่สะใจเอาเสียเลย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...