เมื่อทามทอยเห็นเธอรับดอกไม้ไปแล้ว ก็รู้สึกคลายความกังวลลงเล็กน้อย จากนั้นจึงยิ้มออกมาอย่างเอ้อระเหยลอยชาย “ผู้หญิงข้างนอกที่ไหนจะสู้คุณได้ ตอนนี้พวกเราเป็นหุ้นส่วนกัน เพื่อที่จะรักษาสัมพันธ์อันดีนี้ มอบดอกไม้ให้คุณก็เป็นเรื่องที่สมควรแล้ว”
มายมิ้นท์เผยยิ้มออกมา“คุณนี่เข้าใจพูดจริงๆ ขอบคุณค่ะ ดอกไม้สวยมาก”
เธอขยับดอกกุหลาบสีขาวที่อยู่ในอ้อมกอดครู่หนึ่ง
ทามทอยลากเก้าอี้ออกมาแล้วนั่งลง“คุณชอบก็ดีแล้ว”
“ดูสิคะว่าอยากดื่มอะไร?”มายมิ้นท์วางดอกไม้ไว้ด้านหนึ่ง แล้วยื่นเมนูให้กับเขา
ทามทอยรับมาพลางมองดู จากนั้นสั่งบลูเม้าเท้นท์มาหนึ่งแก้ว
มายมิ้นท์กลับสั่งนมมาหนึ่งแก้ว
ไม่นานพนักงานก็นำกาแฟและนมมาเสิร์ฟ
ทามทอยมองไปยังนมที่อยู่ในมือของมายมิ้นท์ จึงนึกถึงเรื่องที่เธอตั้งครรภ์ ลังเลอยู่สองวินาทีแล้วจึงถามขึ้นว่า:“คุณสบายดีใช่ไหม?”
“อ่า?”มายมิ้นท์เงยหน้ามองเขา“คุณหมายถึงอะไรเหรอคะ?”
“ก็เรื่องที่คุณตั้งครรภ์ไง ผมได้ยินมาว่าคนท้องช่วงสองสามเดือนแรกจะทรมานมาก คุณทรมานไหมครับ?”ทามทอยถามขึ้น
มายมิ้นท์ฟังจากน้ำเสียงของเขาก็รับรู้ได้ถึงความเป็นห่วง ยิ้มพลางพูดขึ้นว่า“ก็ยังพอไหว เพียงแต่ว่าหากได้กลิ่นแรงๆก็มักจะรู้สึกไม่สบาย เรื่องอื่นไม่มีปัญหา”
“ถ้างั้นก็ดีแล้ว”ทามทอยพยักหน้า คนกาแฟที่อยู่ในแก้วครู่หนึ่ง“ แล้วเด็กคนนี้ คุณวางแผนที่จะทำยังไง?เพื่อนของผมคนนั้นได้บอกความคิดเห็นของเขากับคุณไหมครับ?”
“บอกค่ะ”มายมิ้นท์ดื่มนมอึกหนึ่งพลางตอบกลับ
ทามทอยมองไปที่เธอ“ถ้างั้นคุณ……”
“ฉันไม่คิดที่จะเก็บไว้”มายมิ้นท์หรี่ตาลงพลางพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
ทามทอยตกใจ“คุณจะเอาเด็กออกเหรอครับ?”
“อึม ฉันจะไม่ยอมให้ลูกของฉันกลายเป็นเด็กไม่มีพ่อ ดังนั้นจึงทำได้เพียงแค่การทำแท้ง”มายมิ้นท์ประคองแก้วนมขณะพูด
ทามทอยเอ่ยปากขึ้นว่า“ที่คุณพูดก็ถูก”
เธอไม่ทราบว่าลูกในท้องของเธอเป็นลูกของเปปเปอร์ คิดว่าเป็นลูกของคนแปลกหน้า เอาออกก็คงไม่เป็นไร
แต่เกรงว่าด้วยลักษณะนิสัยของเธอแล้ว ถึงแม้เธอจะรู้ว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของเปปเปอร์ ก็คงจะเอาออกเหมือนเดิม เพราะว่าหากเก็บเด็กไว้บุญคุณความแค้นระหว่างเธอ เปปเปอร์และส้มเปรี้ยวก็คงจะยิ่งกระอักกระอ่วนใจมากยิ่งขึ้น ลูกของเธอก็คงกลายเป็นสิ่งที่คนอื่นประนาม
ทำแท้งเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว
“ในเมื่อคุณตัดสินใจแล้ว ผมก็คงจะไม่ห้ามคุณ คุณจะผ่าตัดเมื่อไหร่ เดี๋ยวผมไปเป็นเพื่อนคุณเอง”ทามทอยถามขึ้นอย่างยิ้มระรื่น
ในความเป็นจริงแล้วเอาเด็กออกก็เป็นเรื่องที่ดีสำหรับเขา
การที่เขาชอบเธอ ไม่ได้หมายความว่าเขาจะชอบลูกของคนอื่นด้วย
“วันหยุดสุดสัปดาห์ แต่ว่าคุณไม่ต้องไปเป็นเพื่อนฉันหรอกค่ะเต้จะไปเป็นเพื่อนฉันเอง”มายมิ้นท์ตอบด้วยรอยยิ้ม
ทามทอยเม้มริมฝีปาก “เขา?เขาไหวเหรอ?”
“พอได้แล้ว ที่ฉันเรียกคุณมาไม่ได้ต้องการที่จะคุยเรื่องนี้”มายมิ้นท์โบกมือ ไม่อยากที่จะพูดหัวข้อนี้อีกต่อไปแล้ว
ทามทอยยักไหล่“แล้วคุณอยากคุยเรื่องอะไรล่ะ?”
มายมิ้นท์ถอดสร้อยคอลูกสาวออกมา พลางเลื่อนมันไปวางไว้ที่เบื้องหน้าของเขา
ทามทอยจ้องเขม็ง“นี่คือสร้อยบนคอของคุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ไม่ใช่เหรอ?”
คราวก่อนที่เขาพามายมิ้นท์ไปรักษาเท้าที่โรงพยาบาล ก็ได้พบกับคุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ที่โรงจอดรถ
ตอนนั้น เขาก็เห็นสร้อยที่คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์สวมใส่อยู่บนคอ
มายมิ้นท์ยิ้มอย่างมีเลศนัย“คุณลองดูอย่างละเอียดสิว่า นี่เป็นของคุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์จริงไหม?”
ทามทอยเลิกคิ้ว พลางทำตามที่เธอบอก ดูอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ในที่สุดก็พบความผิดปกติบางอย่าง “บางส่วนตรงนี้ไม่เหมือนกัน”
“ใช่แล้ว นี่ไม่ใช่สร้อยคอของคุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ แต่กลับมีความสัมพันธ์กับคุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์เป็นอย่างมาก พวกมันคือสร้อยคอแม่ลูก สร้อยของคุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์คือสร้อยของแม่ ส่วนสร้อยเส้นนี้คือสร้อยของลูก ยี่สิบปีก่อนเยี่ยมบุญได้มอบให้กับลูกสาวที่ชื่อชวนชม”มายมิ้นท์ถอยกับไปพิงด้านหลัง พลางพูดอธิบาย
เมื่อทามทอยเข้าใจแล้วจึงเงยคางขึ้น“ชวนชมตายไปแล้วไม่ใช่เหรอ?ทำไมสร้อยถึงได้มาอยู่ในมือของคุณได้ คุณคงไม่ใช่ชวนชมหรอกนะ?”
นับตั้งแต่ที่ตระกูลชุติเกษมตัดสินใจจัดการกับตระกูลภักดีพิศุทธิ์ เขาก็เคยตรวจสอบตระกูลภักดีพิศุทธิ์ แน่นอนว่าต้องทราบเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อยี่สิบปีก่อน ระหว่างตระกูลภักดีพิศุทธิ์กับตระกูลกิตติภัคโสภณ
ดังนั้นเมื่อได้ยินชื่อของชวนชมก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจว่าคือใคร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...