ตอนแรกคุณหมอวินิจฉัยว่าส้มเปรี้ยวมีความเป็นไปได้ที่จะไม่ฟื้นขึ้นมาอีก เปปเปอร์ถึงจะรับปากเธอ
แต่เปปเปอร์เอาแต่เย็นชากับเธอตลอด
มายมิ้นท์เชิดคางขึ้น มองตรงไปที่เขา ไม่ถอยหนีแม้แต่น้อย “ฉันเป็นเมียของคุณ มีสิทธิ์อะไรทำไมเธอกลับมาฉันถึงต้องย้ายออกไปด้วย?”
เปปเปอร์เหลือบมองทันที สีหน้ามืดมนลงอย่างช้าๆ ในดวงตาลึกยิ่งน่าหวาดกลัว “มีสิทธิ์อะไร? ส้มเปรี้ยวควรจะเป็นคนพูด หกปีก่อนคุณเป็นคนขับรถชนเธอ!”
มายมิ้นท์ตกใจก่อน จากนั้นก็พลันยิ้มขึ้น ในรอยยิ้มมีความขื่นขม “ฉันบอกว่าฉันไม่ได้ทำ คุณจะเชื่อไหม?”
เปปเปอร์ย่างก้าวเข้ามาใกล้เธอ สุดท้ายประชิดเธอไว้ที่มุมกำแพง กล่าวอย่างเย็นชา “คุณคิดว่าผมจะเชื่อคุณเหรอ?”
ฝ่ายชายเอาแต่ใช้ดวงตามืดมนจ้องเธอ!
ในนั้นล้วนเป็นเพียงความสะอิดสะเอียนและรังเกียจที่เกิดขึ้นโดยพลัน!
“คุณมันเป็นหญิงใจวิปริต ผมอยากจะเอาความเจ็บปวดทั้งหมดที่ส้มเปรี้ยวได้รับ คืนกลับไปให้คุณร้อยเป็นพันเท่า!” ใบหน้าเปปเปอร์เต็มไปด้วยความเคร่งขรึม
มายมิ้นท์ตกใจกับความเกลียดชังในสายตาของฝ่ายชาย
หกปีแล้ว แม้จะเป็นหินก้อนหนึ่งก็ควรอุ่นขึ้น?
แต่หัวใจของเขากลับยังคงเยือกเย็น
“ฉันเปล่านะ” มายมิ้นท์เม้มริมฝีปากแน่น
เปปเปอร์จ้องมองเธออย่างดูถูก ดวงตามืดมนเหน็บหนาวและเศร้าหมอง ไม่มีอุณหภูมิแม้แต่น้อย “คุณเป็นผู้หญิงฉลาด น่าจะรู้ว่าควรทำยังไง”
เขาจากไปแล้ว เหลือไว้เพียงห้องที่เต็มไปด้วยความเงียบเหงา
มายมิ้นท์มองตนเองในกระจก ใบหน้าซีดเซียว และเหนื่อยล้า
นี่ยังใช่เธอหรือเปล่า?
ตอนแรกเธอเป็นคนที่เต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง ในความสัมพันธ์นี้ช่างต่ำต้อยอย่างไม่คาดคิดจนกลายเป็นเช่นนี้
น่าหัวเราะเสียจริง
ผ่านไปนานมาก เธอค่อยๆ พูดออกมา “ถึงเวลาปล่อยตัวเองไปแล้ว...”
...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...