เยี่ยมบุญทุบโทรศัพท์ลงพื้นอย่างโกรธจัด
เสียงดังเพี้ยะ หน้าจอโทรศัพท์ตกแตกเป็นใยแมงมุม
คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์รีบลูบหน้าอกของเยี่ยมบุญ "เปปเปอร์บอกอะไรกับคุณ ทำไมคุณถึงโมโหขนาดนี้?"
“ก็เรื่องถอนหมั้นนะสิ!” เยี่ยมบุญนั่งลงอย่างโมโห “คราวนี้เขาตั้งใจจะถอนหมั้นกับส้มเปรี้ยวจริงแล้ว แม้กระทั่งเวลาของงานแถลงข่าวก็ตัดสินใจเสร็จแล้วด้วย”
“อะไรนะ?งั้นก็หมายความว่าไม่สามารถเจรจากันได้แม้แต่นิดเดียวเลยเหรอ?”คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์อ้าปากกว้างอย่างตกใจ
เยี่ยมบุญถอนหายใจ “ใช่สิ”
“แล้วส้มเปรี้ยวลูกเราจะทำไงดีละ?”คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์กังวลเป็นอย่างยิ่ง
เยี่ยมบุญทำหน้าเศร้า เขาไม่ตอบกลับใดๆเลย
ทำไง?เขาจะไปรู้ได้ไงว่าทำไงดี?
ถ้าเขามีวิธีละก็ ตอนนี้ก็คงจะไม่มานั่งโมโหอยู่ที่นี่หรอก!
ต้องรู้ว่าเอสซีกรุ๊ปได้อยู่ครองบริษัทสิบอันดับแรกของเมืองเดอะซีในตอนนี้ ก็เป็นเพราะเอสซีกรุ๊ปมีนวบดินทร์กรุ๊ปต้นไม้ใหญ่นี้ให้เป็นที่พึ่งพิง แต่เมื่อไม่มีความสัมพันธ์อะไรกับตระกูลนวบดินทร์แล้ว ตระกูลนวบดินทร์ก็จะไม่มีช่วยเอสซีกรุ๊ปอีก เอสซีกรุ๊ปจะไม่เพียงแค่จะหลุดออกมาจากสิบอันดับแรกในทันที แต่ยังจะถูกบริษัทอื่นกดขี่ข่มเหงอีกด้วย
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมานับตั้งแต่หมั้นกับตระกูลนวบดินทร์แล้ว เอสซีกรุ๊ปก็ได้แย้งทรัพยากรของบริษัทอื่น เพราะมีนวบดินทร์กรุ๊ปเป็นที่พึ่งพา ดังนั้นเขาจึงอยากหมั้นหมายกับตระกูลนวบดินทร์คืนมากกว่าใครอีก
ถูใบหน้าอย่างหงุดหงิด จู่ๆเยี่ยมบุญก็คิดแผนการดีได้อย่างหนึ่ง และมองไปที่คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ “คุณว่าให้ส้มเปรี้ยวกับเปปเปอร์เปลี่ยนจากข้าวสารเป็นข้าวสุกดีไหม?”
“ห้ะ?”คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์อึ้งไปครู่หนึ่ง
เยี่ยมบุญทำหน้าเศร้าโศกแล้วพูดว่า:“ขอแค่เปปเปอร์กับส้มเปรี้ยวมีอะไรกันแล้วจริงๆละก็ ต่อให้เขาอยากถอนหมั้นก็ไม่ได้แล้ว นอกจากเขาอยากถูกคนอื่นด่า!”
คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์กัดริมฝีปากล่าง “นี่……นี่ไม่ใช่การบังคับเหรอ?”
“ก็จะบังคับนั่นแหละ มีแค่วิธีนี้เท่านั้นที่จะรักษาการหมั้นหมายระหว่างเปปเปอร์กับส้มเปรี้ยวเอาไว้ได้ ”ส้มเปรี้ยวจ้องมองเธอไว้ “คุณลองคิดดู ถ้าหักเปปเปอร์กับส้มเปรี้ยวถอนหมั้นแล้ว นักธุรกิจเหล่านั้นจะไม่เพียงแต่โจมตีบริษัทของเราไม่พอ และภรรยาของพวกเขาก็หัวเราะเยาะพวกเราลับหลังอีกด้วย เวลาคุณออกไปเม้าท์มอยกับพวกคุณนายทั้งหลาย คุณอยากโดนเขาชี้และหัวเราะเยาะเหรอ?คุณไม่อยากออกไปช้อปปิ้งและเสริมสวยแบบสบายๆ อีกต่อไปเหรอ?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ นัยน์ตาของคุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ก็มีความตื่นและความกลัววาบผ่านไป และส่ายหัวอย่างเร็ว “ฉันไม่อยากอยู่แล้วสิคะ!”
ไม่ว่าจะก่อนแต่งงานหรือตอนนี้ เธอมักจะใช้ชีวิตอยู่ดีกินดีมาโดยตลอด เธอไม่เคยกังวลเรื่องเงิน และไม่เคยถามราคาสิ่งที่เธออยากซื้อเลย ดังนั้นเธอจึงนึกไม่ออกเลยว่าคราวหน้าตัวเองจะซื้ออะไร ก็ต้องคิดดูวว่าเงินพอไหม
ยิ่งกว่านั้น ตอนนี้เธออยู่ตำแหน่ง C ในกลุ่มของพวกคุณนายทั้งหลาย เพราะเธอมีลูกสะใภ้ที่ดี ดังนั้นพวกคุณนายทั้งหลายจึงอุ้มชูและยกยอเธอ แต่เมื่อไม่มีลูกสะใภ้เปปเปอร์คนนี้ละก็ พวกคุณนายทั้งหลายก็จะหายห่างออกไปจากเธอทันทีอย่างแน่นอน จากนั้นก็หันมาหัวเราะเยาะเย้ยเธอ ชีวิตแบบนี้เพียงแค่คิดเธอก็ตัวสั่นไม่ไหวแล้ว
เมื่อได้ยินคุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์พูดเช่นนี้แล้ว เยี่ยมบุญก็ยิ้มด้วยความพึงพอใจ “ดังนั้นเราจำเป็นต้องเสี่ยง!”
“ที่รัก คุณจะให้เปปเปอร์กับส้มเปรี้ยวเปลี่ยนจากข้าวสารเป็นข้าวสุกได้ยังไงเหรอคะ?” คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ถาม
เยี่ยมบุญหรี่ตาลง “ไม่ยากหรอก ก็แค่ให้ส้มเปรี้ยวนัดเปปเปอร์มาที่โรงแรม จากนั้นส้มเปรี้ยวก็ถือโอกาสวางยาให้เปปเปอร์ และเมื่อเวลาพอสมควรแล้ว ผมก็จะเรียกนักข่าวมา เช่นนี้ละก็ หากว่าเปปเปอร์ยังคิดจะถอนหมั้นละก็ ชาวเน็ตก็จะโมโหเป็นอย่างยิ่งแน่เลย คุณดูสิว่าชาวเน็ตจะปล่อยเขาและนวบดินทร์กรุ๊ปไปหรือไม่”
“ฉันเข้าใจแล้วค่ะ มันคือการใช้มติมหาชนมาบังคับเปปเปอร์ให้แต่งงานกับส้มเปรี้ยว” คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์พยักหน้า
“ถูกต้อง ดังนั้นคุณรีบโทษหาส้มเปรี้ยวให้เธอกลับมา คืนนี้ต้องดำเนินการตามแผน โดยไม่ชักช้า” เยี่ยมบุญพูดอย่างจริงจัง
“แต่ว่าก่อนหน้านี้โทรหาส้มเปรี้ยว เธอก็ไม่รับสายเลยคะ!”คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์พูดอย่างรู้สึกลำบักเล็กน้อย
เยี่ยมบุญไม่สนหรอกนะ เขาลุกขึ้นมา “งั้นก็โทรต่อ โทรจนมันจะรับ เพราะเวลาของพวกเรามีเพียงเท่านี้”
คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ไม่พูดคำพูดใดๆอีกเลย ทำได้เพียงทำตามคำสั่งของเขา หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วโทรหาส้มเปรี้ยว
อีกด้านหนึ่ง ในโกดังที่ร้างแห่งหนึ่ง ชายคนหนึ่งจับโทรศัพท์มือถือที่ส่งเสียงกริ่งอยู่ และเดินไปหาชายสองคนทางด้านประตูโกดัง
“คุณราเม็ง โทรศัพท์มือถือของส้มเปรี้ยวดังอีกแล้วครับ” ชายยื่นโทรศัพท์มือถือไป
เป็นคนที่พาเธอเข้าไปในซอยนี่เอง!
ชายที่ถือกล้องหรี่ตาลงเล็กน้อย แต่ไม่ช้าก็กลับมาเป็นปกติ เขาเปิดกล้องแล้วตั้งไปทางส้มเปรี้ยว "เอาล่ะ ฉันเปิดกล้องแล้ว รีบเริ่มเลย!"
“ได้เลยครับ เริ่มเดี๋ยวนี้เลยครับผม” ชายพวกนั้นถูมือไปมา ยิ้มหัวเราะฮี่ฮี่และเดินเข้าหาส้มเปรี้ยว
ส้มเปรี้ยวตระหนักได้ว่าพวกเขากำลังจะทำอะไร หัวใจของเธอก็หดตัวทันที ใบหน้าของเธอก็ซีดลง และเธอก็รีบตะโกนว่า:“พวกแกหยุดเดี๋ยวนี้นะ ห้ามเข้ามา!”
แต่ชายพวกนั้นก็แกล้งทำเป็นหูหนวกและเดินต่อไป
ในไม่ช้า ชายพวกนั้นก็เดินไปถึงตรงหน้าของเธอ ผลักเธอลงกับพื้น และจับมือและเท้าของเธอไว้
จากนั้น ชายคนหนึ่งก็หยิบกระบอกฉีดยาออกมา และในกระบอกฉีดยาก็มีของเหลวสีชมพูอ่อนบางส่วนหน่อยแล้ว
หลังจากที่ชายคนนั้นดีดกระบอกฉีดยา เขาก็มองไปที่ส้มเปรี้ยวและพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่า:“รู้ไหมว่าข้างในนี่คืออะไร?มันคือของดีที่จะเปลี่ยนนางฟ้าให้กลายเป็นโสเภณีนะ”
พูดเสร็จ อยู่ในภายใต้การจ้องมองด้วยความกลัวและตกใจของส้มเปรี้ยว เขาก็ได้ฉีดเข็มฉีดยาเข้าไปในแขนของเธอ
สีหน้าของส้มเปรี้ยวเปลี่ยนไป และเธอก็ขัดขืนขึ้นอย่างรุนแรง ด้วยน้ำเสียงที่แหลมคม “ปล่อยฉัน ฉันเตือนพวกแกรีบปล่อยฉันไปเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นพวกแกตายแน่!”
“ให้พวกกูตายเหรอ?”พวกผู้ชายหัวเราะเยาะเย้ย
คนที่ถือกระบอกฉีดยาไว้ เอามือตบหน้าเธออย่างแรง
“อ๊ะ!” ใบหน้าของส้มเปรี้ยวที่ถูกตบ ตอนนี้มันเจ็บและแสบร้อนมาก ในสมองมีเสียงวี้ๆ ปากของเขาแตบและมีเลือดไหลออกมาเล็กน้อย ดูน่าอนาถอย่างยิ่ง
ชายคนนั้นโยนเข็มฉีดยาทิ้ง ดึงผมของเธอไว้ แล้วพูดอย่างดุร้ายว่า:“แกเป็นแค่ของเล่นชิ้นหนึ่ง ไม่ร้องขอความเมตตาไม่พอ แถมยังกล้ามาพูดจาโผงผางว่าจะให้พวกกูตายอีก มึงกลัวว่าพวกกูจะไม่กล้าจัดการมึงเหรอ?ในเมื่อแบบนี้ พี่น้องทั้งหลาย พวกกูอย่าให้มันผิดหวังละ ต้องจัดการมันดีๆละ ได้ยินว่ามันคืออดีตภรรยาของประธานนวบดินทร์กรุ๊ป เล่นผู้หญิงคนรวย แค่คิดก็ตื่นเต้น!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...