มายมิ้นท์ยิ้ม“ฉันอยากจะบอกว่า ตอนนี้เอสซีกรุ๊ปมีหนี้สินมากมาย หากไม่ได้เป็นเพราะมีทรัพย์สินค้ำประกันไว้ ก็คงล้มละลายมาตั้งนานแล้ว แต่ว่าหากแม้ว่าจะยังไม่ล้มละลาย ก็เหมือนอยู่ในภาวะล้มละลายเช่นกัน เหมือนกับเทนเดอร์กรุ๊ปเมื่อสามเดือนก่อน ซึ่งอาจจะพูดได้ว่า ตอนนี้เอสซีกรุ๊ปไม่มีเงินลงทุนหมุนเวียนเลยแม้แต่น้อย เพื่อที่จะให้เอสซีกรุ๊ปยังคงดำเนินการในเบื้องต้นได้ ประธานเยี่ยมบุญน่าจะยืมเงินไปทั่ว ดังนั้นจะยอมให้คุณออกเงินจำนวนสิบล้านหยวนเพื่อช่วยเหลือส้มเปรี้ยวได้ยังไง?”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ จู่ๆคุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ก็ถึงกับพูดไม่ออก
ไม่มีใครรู้ดีกว่าหล่อนที่นอนอยู่ข้างกายคนนี้ หลายวันมานี้ เยี่ยมบุญขอยืมเงินคนอื่นอย่างยากลำบากขนาดไหน
แต่เป็นเพราะว่าเมื่อก่อนจองหองเกินไป ล่วงเกินคนไว้จำนวนไม่น้อย คนที่อยู่ในวงการไม่มีใครอยากจะให้เขายืมเงิน หายืมเงินอยู่นาน ก็ยืมได้มาเพียงสองร้อยล้าน แต่ว่าเงินสองร้อยล้านเมื่อโยนเข้าไปในตลาดหุ้นก็ไม่ได้ยินแม้แต่น้ำกระเซ็น หากต้องการที่จะให้เอสซีกรุ๊ปนั้นเสถียรภาพ ก็ยังคงอีกห่างไกลนัก
ดังนั้นตอนนี้เงินทุกบาทล้วนสำคัญ หากเยี่ยมบุญรู้ว่าหล่อนเอาเงินออกมามากมายขนาดนี้ จะโกรธเคืองอย่างแน่นอน แม้ว่าจะไม่ถึงกลับหย่าร้าง แต่ความรู้สึกที่ดีก็คงจะหมดลง
เมื่อคิดถึงผลที่ตามมานี้ ในใจของคุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ก็รู้สึกกลัวเป็นอย่างมาก ร่างกายอดไม่ได้ที่จะสั่น
มายมิ้นท์มองไปยังคุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์พลางยิ้ม“ดูเหมือนว่าคุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์จะไม่ยอมจ่ายเงินแล้ว”
สีหน้าของคุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ไม่ค่อยดีนัก“จะต้องทำยังไง คุณถึงจะยอมปล่อยส้มเปรี้ยวไป?”
ก่อนที่จะมา ทางด้านของสถานีตำรวจได้โทรศัพท์มาหาหล่อน บอกหล่อนว่า ส้มเปรี้ยวได้ลงนามสารภาพแล้ว และไม่สามารถพบหน้าได้ ทำได้เพียงรอให้ศาลเปิดพิจารณาคดีจึงจะได้พบหน้า
อีกทั้งตำรวจยังบอกหล่อนว่า ส้มเปรี้ยวคิดร้ายมายมิ้นท์และมีหลักฐานชัดเจนที่มายมิ้นท์ให้ร้ายเธอ อาจจะถูกตัดสินลงโทษ และอาจจะไม่ให้ส้มเปรี้ยวได้มีโอกาสยื่นอุทธรณ์
ดังนั้นหล่อนจึงถามทนายความ ว่ามีทางไหนที่จะสามารถช่วยส้มเปรี้ยวได้ คำตอบของทนายความคือให้มาขอร้องมายมิ้นท์ ขอเพียงแค่มายมิ้นท์เอ่ยปากไม่เอาความส้มเปรี้ยว ส้มเปรี้ยวก็จะไม่เป็นอะไรแล้ว ดังนั้นไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม หล่อนจะต้องทำให้มายมิ้นท์ยอมปล่อยส้มเปรี้ยวไปให้ได้
จากนั้นมายมิ้นท์กลับทำลายกำลังใจของคุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ สะบัดหัวขึ้นพลางพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า:“ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ฉันจะไม่ยอมปล่อยหล่อนไปเด็ดขาด ก่อนหน้านี้หล่อนทำร้ายฉันหลายครั้ง ฉันไม่มีหลักฐาน แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน ดังนั้นครั้งนี้ฉันจะทำให้หล่อนต้องติดคุก”
“คุณ……”ดวงตาของคุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์เบิกกว้าง มือที่สั่นชี้ไปยังมายมิ้นท์“คุณโหดเหี้ยมมาก!”
ชวนชมขยิบตาอย่างแปลกใจ
โหดเหี้ยม?
หล่อนก้มหน้ามองไปยังคุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ที่อยู่เบื้องหน้า
แม้ว่าหล่อนชอบแม่ใหม่คนนี้มาก แต่ว่าก็ไม่อาจไม่ยอมรับได้ว่า แม่คนนี้มีตรรกะบางอย่างที่ผิดปกติ
แม้แต่หล่อนที่ไม่ได้เรียนหนังสือยังรู้เลยว่า คนที่คิดทำร้ายมายมิ้นท์คือส้มเปรี้ยว ดังนั้นคนที่โหดเหี้ยมคือส้มเปรี้ยวถึงจะถูก มายมิ้นท์ใช้กฎหมายในการแก้แค้นเท่านั้น จะโหดเหี้ยมได้ยังไง?
แต่ว่าแม่คนนี้ดีกับหล่อนมาก หล่อนจึงไม่ได้พูดประโยคเหล่านี้ออกมา
มายมิ้นท์ราวกับว่าได้ยินคำพูดที่น่าขบขันที่สุดในโลก จึงหัวเราะอย่างเย้ยหยันออกมาสองทีพลางพูดขึ้นว่า“อย่า อย่า อย่า คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์อย่าพูดแบบนี้ หากเทียบกันที่ความโหดเหี้ยม ฉันยังคงห่างชั้นกับลูกสาวของคุณมาก ลูกสาวของคุณสามารถผลักคนตกบันไดได้ วางแผนให้คนตกม้าได้ ใช้งูพิษเพื่อให้กัดคนได้ ทั้งยังต้องการให้คนถูกข่มขืน แม้แต่ให้คนสาดน้ำกรด พฤติกรรมที่โหดเหี้ยมเช่นนี้ นั้นร้ายกาจกว่ามาก ทำให้คนถึงกับต้องรู้สึกสยอง”
เมื่อฟังมาถึงจุดนี้ ใบหูและสีหน้าของคุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์แดงก่ำ เสแสร้งพยายามปิดหูปิดตา “คุณ……คุณก็ไม่ได้เป็นอะไรไม่ใช่เหรอ?”
“ดังนั้นฉันไม่ได้เป็นอะไร ฉันมันน่าสมน้ำหน้าควรที่จะไม่ถือสาปล่อยส้มเปรี้ยวไปงั้นเหรอ?”สีหน้าของมายมิ้นท์ขรึมลง
มุมปากของคุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์กระตุกสองครั้ง แม้ว่าจะไม่ได้พูดอย่างชัดเจน แต่ว่าดูจากท่าทีของหล่อนแล้ว ดูเหมือนว่าก็คงจะเป็นความหมายเช่นนี้
มายมิ้นท์ส่ายศีรษะ รู้ว่าไม่สามารถพูดออกไปได้
เพราะถึงยังไงคุณก็เป็นเพียงคนที่แกล้งหลับปลุกไม่ตื่น
เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อหน้าคุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ แล้วโทรหาเยี่ยมบุญ“ประธานเยี่ยมบุญ ฉันคือมายมิ้นท์นะคะ”
ดวงตาของคุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์เบิกกว้างทันที พลางพูดขึ้นเสียงแหลมว่า:“คุณทำอะไรของคุณ?”
มายมิ้นท์ไม่ได้สนใจหล่อน พลางพูดขึ้นกับคู่สายโทรศัพท์ว่า:“ภรรยาของคุณมาที่นี่ บอกจะให้เงินฉันสิบล้านหยวนเพื่อให้ฉันปล่อยส้มเปรี้ยวไป”
“อะไรนะ?”อีกทางด้านหนึ่งของคู่สาย เยี่ยมบุญลุกจากเก้าอี้ทันที ใบหน้าของเขามืดมนและน่ากลัว
สิบล้านหยวน?
หล่อนยังยอมจ่ายอย่างใจกว้างอีกเหรอ!
เมื่อสักครู่นี้เขาเพิ่งจะขอยืมเงินจากธนาคาร แต่กลับถูกธนาคารปฏิเสธ ความโกรธนี้ทำให้ลำคอหายใจติดขัด จิณัฐตาผู้หญิงคนนั้น ยังจะนำเงินสิบล้านหยวนเพื่อช่วยเหลือลูกสาวที่อกตัญญูงั้นเหรอ!
หล่อนไม่รู้เหรอว่าเงินสิบล้านหยวนสำหรับเอสซีกรุ๊ปแล้ว มีความสำคัญขนาดไหน?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...