รักหวานอมเปรี้ยว นิยาย บท 420

“เปล่าครับ เปล่าครับ”ชายร่างกำยำรีบส่ายศีรษะ“ไม่ผิดอย่างแน่นอนครับ รูปถ่ายก่อนหน้านี้ก็คือเธอครับ เพียงแต่ว่าไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงได้ตาบอด”

หลังจากที่ชายผู้เก็บตัวและอ่อนโยนได้ฟังคำอธิบาย แม้ว่าสีหน้าจะดีขึ้นมาก แต่ว่าแววตาก็ยังน่ากลัวมากเช่นกัน

“พอได้แล้ว ตอนนี้คนก็ได้เห็นแล้ว กลับกันก่อนเถอะ แล้วค่อยให้คนมาจับตาดู ทุกการกระทำในชีวิตประจำวันของเธอ แล้วค่อยจับตัวเธอมา ขอเพียงแค่จำตัวเธอได้ ผมไม่เชื่อหรอกว่าธิติจะทนดูโดยไม่ช่วยเธอได้”แววตาของชายผู้เก็บตัวและอ่อนโยนหรี่เล็กน้อย พลางพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก

ชายร่างกำยำยืดเอวตรง“ครับ คุณชายสี่”

ชายผู้เก็บตัวและอ่อนโยนไม่พูดไม่จา พลางปิดตัวที่น่ากลัวลง

ชายร่างกำยำสตาร์ทรถ แล้วจากไป

แต่ขณะที่กำลังเข้าไปในตึก จู่ๆมายมิ้นท์ก็หยุดฝีเท้าลง แล้วหันศีรษะกลับไปมองข้างหลัง คิ้วทั้งสองข้างขมวดติดกัน

ป้าทิพย์มองเธอด้วยความสงสัยพลางถามขึ้นว่า“เป็นอะไรเหรอคะคุณมายมิ้นท์?”

“ฉันรู้สึกว่าเหมือนมีคนกำลังมองฉันอยู่”ริมฝีปากแดงของมายมิ้นท์ยกขึ้น พลางพูดขึ้นอย่างไม่ค่อยแน่ใจนัก

ป้าทิพย์ก็หันศีรษะไปมองด้านหลังเช่นกัน ก็ไม่ได้เห็นคนที่น่าสงสัย จึงหดสายตากลับมา“ไม่มีนะคะ คุณมายมิ้นท์คุณน่าจะรู้สึกไปเองนะคะ?”

“ก็อาจจะใช่”มายมิ้นท์พยักหน้าครุ่นคิด

แม้ว่าปากของเธอจะพูดว่าอาจจะรู้สึกผิดไปเอง แต่ว่าในใจของเธอก็มีความประหลาดใจอยู่ไม่น้อย

เพราะตั้งแต่ที่เธอมองไม่เห็น ประสาทสัมผัสของเธอก็ดีกว่าเมื่อก่อนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสายตาที่จ้องมองของคนอื่น สามารถรับรู้ได้ชัดเจนมากขึ้น ดังนั้นความรู้สึกเมื่อสักครู่นี้ของตนผิดหรือไม่ เธอก็ยังคงครุ่นคิดอยู่

อีกทางด้านหนึ่งคฤหาสน์ตระกูลนวบดินทร์

เปปเปอร์กลับเข้ามาจากทางด้านนอก พิสมัยที่กำลังหัวเราะนั่งดูทีวีอยู่บนโซฟา เมื่อเห็นเขากลับมาก็อดไม่ได้ที่จะลุกขึ้นด้วยความประหลาดใจ“เปปเปอร์ ทำไมถึงกลับมาได้ล่ะ?”

“กลับมาเอาของครับ”เปปเปอร์ตอบกลับ

“มาเอาอะไรเหรอ?”พิศมัยถาม

เปปเปอร์มองดูนาฬิกาข้อมือ“เอาสิ่งของของแม่ผมครับ พอได้แล้วครับแม่ ผมมีประชุมต่อ ไม่พูดแล้วครับ”

เมื่อพูดจบ เขาก็ก้าวเท้าขึ้นไปชั้นบน

พิสมัยยืนอยู่กับที่มองเงาหลังของเขา ลูกตาก็หมุนไปรอบๆ

เอาสิ่งของของแม่แท้ๆ?

เขาจะเอาสิ่งของของแม่แท้ๆไปทำอะไร?

แม่แท้ๆของเปปเปอร์ เป็นคุณหนูของ สามสิบสองปีก่อนหลังจากแต่งเข้าตระกูลนวบดินทร์ไม่นานตระกูลมหาณธรก็ล้มละลาย

แต่ว่าก่อนที่จะล้มละลายนั้นตระกูลมหาณธรเป็นตระกูลใหญ่ที่ฐานะด้อยกว่าตระกูลนวบดินทร์เล็กน้อย หลังจากที่แต่งงานกับปิยศักดิ์ สินเดิมที่นำติดตัวมาก็คือทรัพย์สินหนึ่งในสามของ ตระกูลนวบดินทร์

แม้ว่าสุดท้ายแม่ของเปปเปอร์จะตายไปแล้ว แต่สินเดิมก็ถูกรวมเข้ากับบริษัทตระกูลนวบดินทร์ ไม่สามารถแบ่งออกมาได้ แต่ว่าเครื่องประดับที่มีค่าของเปปเปอร์ก็ยังคงเก็บไว้ อยู่ที่ห้องชั้นสามที่แม่ของเปปเปอร์เคยอยู่ก่อนตาย

หล่อนจับจ้องเครื่องประดับเหล่านั้นมาโดยตลอด และต้องการที่จะครอบครอง แต่ท่านย่าได้พูดไว้ว่า หากเธอกล้าที่จะแตะต้องเครื่องประดับเหล่านั้นหล่อนก็จะถูกไล่ออกจากตระกูลนวบดินทร์ เพราะถึงยังไงปิยศักดิ์ก็ได้ตายไปแล้ว การแต่งงานของหล่อนกับปิยศักดิ์ได้สิ้นสุดลงแล้ว

หล่อนไม่อยากถูกไล่ออก ออกจากตระกูลนวบดินทร์ ดังนั้นหล่อนจึงพยายามเก็บความรู้สึกอยากได้เครื่องประดับเหล่านั้นไว้ อีกทั้งความรู้สึกผิดที่หล่อนมีต่อแม่แท้ๆของเปปเปอร์ ก็ทำให้หล่อนไม่มีหน้าที่จะไปคิดถึงเครื่องประดับเหล่านั้น

ขณะที่คิด ก็มีความเคลื่อนไหวมาจากบริเวณบันได

พิสมัยเงยหน้าขึ้น เห็นเปปเปอร์ถือกล่องเครื่องประดับออกมากล่องหนึ่ง

หล่อนรีบก้าวเท้าเข้าไป“เปปเปอร์ คุณหยิบเครื่องประดับอะไรมา แม่ขอดูหน่อยได้ไหม?”

“ได้ครับ”เปปเปอร์พยักหน้า จากนั้นยื่นกล่องออกไป

พิสมัยรีบหยิบมา อยากจะเปิดกล่องออกจนแทบรอไม่ไหว เมื่อเห็นเครื่องประดับชุดหยกจักรพรรดิในกล่อง จู่ๆก็ปล่อยลมหายใจที่เย็นยะเยือกออกมา“พระเจ้า หยกจักรพรรดินี่……นี่น่าจะราคามหาศาล!”

“เป็นเครื่องประดับชุดหนึ่งที่คุณยายได้มอบให้กับแม่ของผม ราคาทั้งชุดอยู่ที่ร้อยห้าสิบล้าน”เปปเปอร์ตอบกลับอย่างราบเรียบ

พิสมัยตะลึงงัน พลางกลืนน้ำลาย“ร้อยล้าน……ห้าสิบล้าน?”

ชาตินี้หล่อนยังไม่เคยสวมเครื่องประดับที่ราคาแพงขนาดนี้

เคยใส่ที่ราคาแพงสุดเพียงสามสิบล้าน

แน่นอนดวงใจสีครามไม่นับ สร้อยเส้นนั้น หล่อนไม่กล้าที่จะใส่ออกมา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว