รักหวานอมเปรี้ยว นิยาย บท 458

เมื่อเห็นว่าเขากินมันลงไปแล้ว เธอก็นำช้อนกลับมาวางในชาม เอ่ยถามเขาด้วยแววตาเต็มไปด้วยความหวังว่า “รสชาติเป็นอย่างไรบ้างคะ?”

“อร่อยมากครับ” เปปเปอร์กลืนโจ๊กลงไปแล้วพยักหน้า

มายมิ้นท์ยิ้มขึ้น “ดีจังค่ะ”

ไม่เสียแรงที่เธอพยายามต้มโจ๊กให้จนเหนียว ทั้งแช่ข้าว ทั้งหลังตุ๋นด้วยไฟอ่อนและคอยคนอยู่ตลอด

“ทานต่อนะคะ” มายมิ้นท์ใช้ช้อนตักโจ๊กขึ้นมาอีกคำหนึ่งแล้วยื่นส่งไป

ทั้งสองคนทำแบบนี้ไปมา คนหนึ่งป้อน คนหนึ่งกิน ในไม่ช้าโจ๊กก็หมดถ้วย

มายมิ้นท์ลุกขึ้นยืนแล้วถามว่า “เอาอีกไหมคะ?”

“อิ่มแล้วครับ” เปปเปอร์ส่ายหน้า

มายมิ้นท์มองดูถ้วยในมือของตนแล้วขมวดคิ้วเข้าหากันเล็กน้อย “อะไรกันคะ แค่นี้ก็อิ่มแล้วเหรอ? คุณยังกินไปได้ไม่เท่าไหร่เลย”

อีกทั้งชามนี้ก็ไม่ได้ใหญ่โต

เขาเป็นผู้ชายที่รูปร่างสูงใหญ่ถึงหนึ่งเมตรเก้าสิบเซนติเมตร เธอไม่เชื่อหรอกว่าโจ๊กเพียงชามเดียวจะทำให้เขาอิ่มได้

“ผมอิ่มแล้ว” เปปเปอร์รับน้ำที่พยาบาลส่งมาให้เพื่อกลั้วปากแล้วตอบกลับว่า “ตอนบ่ายที่คุณไม่อยู่ ผมได้รับน้ำเกลือมาขวดหนึ่ง น้ำเกลือนั้นทำให้รู้สึกอิ่มจนพะอืดพะอมอยู่นะครับ”

“อ๋ออย่างนี้เองเหรอคะ” มายมิ้นท์เงยหน้าขึ้นมองเขา “ถ้าอย่างนั้นฉันก็คงไม่บังคับคุณแล้วล่ะค่ะ ที่เหลือฉันจะเอาไปใส่ตู้เย็นเอาไว้ พรุ่งนี้เช้าคุณให้พยาบาลนำไปเวฟเป็นอาหารเช้าแล้วกันนะคะ”

“ครับ” เปปเปอร์ตอบรับ

มายมิ้นท์หยิบกล่องอาหารเก็บอุณหภูมิเดินไปทางห้องครัวเล็กๆ ภายในห้อง หลังจากที่เธอเก็บของเรียบร้อยแล้วจึงเดินออกมาอีกครั้ง

ภายในห้องเหลือเพียงแค่เปปเปอร์คนเดียว เธอมองซ้ายมองขวาแล้วจึงถามขึ้นว่า “พยาบาลไปไหนแล้วล่ะคะ?”

“ผมให้หล่อนเลิกงานแล้วล่ะครับ” เปปเปอร์ใช้มือข้างหนึ่งหยิบหนังสือขึ้นอ่านแล้วตอบกลับเธอ

มายมิ้นท์เดินตรงเข้าไปหาเขา “คุณให้หล่อนเลิกงานแล้ว? แล้วตอนกลางคืนคุณจะทำยังไงล่ะคะ?”

“ผมไม่ได้ขาพิการสักหน่อย ไม่จำเป็นต้องให้คนมาคอยดูแลตอนกลางคืนทั้งคืน”

มายมิ้นท์พยักหน้า เธอเองก็รู้สึกว่าสมเหตุสมผลดังนั้นจึงเช็ดไม้เช็ดมือแล้วเดินไปที่กระเป๋าของตนเอง

เปปเปอร์เห็นท่าทางของเธอดังนั้น แววตาเป็นประกายแวบเข้ามา “คุณจะไปแล้วเหรอ?”

“นี่ก็สามทุ่มกว่าแล้วนะคะ ฉันควรจะกลับได้แล้ว”

มายมิ้นท์จัดแจงกระเป๋าของเธอแล้วตอบกลับ

เปปเปอร์วางหนังสือในมือลง “เดี๋ยวค่อยกลับไม่ได้เหรอครับ?”

“ทำไมล่ะคะ?” มายมิ้นท์มองไปทางเขาอย่างสงสัย

“อยากให้คุณอยู่คุยเป็นเพื่อนกับผมสักพักก่อน” เปปเปอร์สบตากับเธอ “ได้ไหม?”

มายมิ้นท์มองดูนาฬิกา หลังจากลังเลอยู่ชั่วครู่ในที่สุดเธอก็พยักหน้าตอบตกลง “ก็ได้ค่ะ แต่ว่าก่อนสี่ทุ่มฉันจะต้องกลับแล้วนะคะ เพราะว่าพรุ่งนี้ฉันจะต้องเดินทางไปนอกเมืองอีก”

“ครับ” เปปเปอร์เผยอยิ้มขึ้น

มายมิ้นท์วางกระเป๋าลงแล้วกลับมานั่งที่ข้างเตียงอีกครั้ง

แม้เปปเปอร์จะบอกว่าต้องการให้เธออยู่เป็นเพื่อนสนทนากับเขา แต่ที่จริงแล้วดูเหมือนทั้งสองจะไม่ได้สนทนากัน

เพราะว่าระหว่างการสนทนานั้น เปปเปอร์ได้สอนมายมิ้นท์ในเรื่องของการทำธุรกิจต่างๆ อีกทั้งวิธีที่ดีที่สุดซึ่งใช้สำหรับการจัดการดูแลเทนเดอร์กรุ๊ป อนาคตของบริษัทและแนวทางที่จะพัฒนา อีกทั้งอุตสาหกรรมที่เหมาะกับการลงทุนของเทนเดอร์กรุ๊ปเป็นต้น

เดิมทีสิ่งเหล่านี้ในตอนแรกเปปเปอร์ตั้งใจว่าจะค่อยๆ สอนเธอ

แต่ตอนนี้ ตัวเขาอาจจะมีอายุอยู่ได้เพียงแค่สามปีเท่านั้น อีกทั้งเมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ร่างกายของเขาก็จะค่อยๆ อ่อนแอลงไปในที่สุด

ดังนั้นเขาจึงไม่มีเวลาจะค่อยๆ สอนเธออีกต่อไป เขาทำได้เพียงสอนทุกสิ่งทุกอย่างให้แก่เธอเท่าที่จะทำได้ ก่อนที่ร่างกายของเขาจะหมดแรงลง

ในแวดวงธุรกิจนั้น เสมือนกับสถานที่กินคนโดยไม่เหลือแม้แต่กระดูก ตอนนี้เธอเพิ่งจะเข้าไปในแวดวงธุรกิจจึงยังไม่เคยพบเห็นกับกลอุบายต่างๆ มากมายว่ามันน่ากลัวสักเพียงใดและมืดมนแค่ไหน

หากว่าเขายังมีชีวิตอยู่ต่อไปเรื่อยๆ เธอก็ไม่จำเป็นที่จะต้องรู้ว่าแวดวงนี้น่ากลัวเพียงใด เนื่องจากเขาจะคอยปกป้องเธอไม่ให้เธอถูกความมืดมิดของวงการธุรกิจเข้ามาทำร้าย

แต่อย่างไรก็ตาม โอกาสที่เขาจะมีชีวิตรอดต่อไปนั้นน้อยเหลือเกิน ดังนั้นเขาจึงไม่อาจจะปกป้องเธอได้ตลอดไป ทำได้เพียงให้เธอแข็งแกร่งมากขึ้น เนื่องจากชีวิตในอนาคตต่อจากนี้เธอจะต้องเดินไปด้วยตนเอง

แม้มายมิ้นท์จะรู้สึกแปลกใจที่จู่ๆ เปปเปอร์สอนเรื่องราวเหล่านี้ให้แก่เธอ ดูเหมือนว่าเขากำลังสั่งเสียอะไรบางอย่าง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว