“แม้จะพูดเช่นนี้ แต่หากคุณยังไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของคุณหมอในการดูแลสุขภาพร่างกายให้ดีอีก คุณจะอยู่ได้ไม่ถึงสามปีด้วยซ้ำ ไม่แน่วันไหนคุณเสียชีวิตกะทันหันก็อาจจะเป็นได้”การันต์ได้ดันแว่นตา พูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก
เขาพูดคำพูดที่หนักหน่วงและอันตรายถึงชีวิตเช่นนี้ พูดได้ด้วยอารมณ์ที่ผ่อนคลายอย่างมาก มันอธิบายได้ถึง ความเย็นเยือกของเขาคนนี้เลย
พอได้ยินว่าหากเปปเปอร์ทำตัวอย่างนี้ต่อไป ไม่เพียงแต่อยู่ไม่ถึงสามปี ยังอาจจะเสียชีวิตกะทันหันนั้น ผู้ช่วยเหมันตร์ร้อนรนอย่างมาก รีบมองไปทางเปปเปอร์แล้วพูดว่า:“ประธานเปปเปอร์ครับ คุณได้ยินแล้วใช่ไหมครับ หากคุณยังไม่รักษาสุขภาพร่างกายให้ดีอีก คุณ……”
“ไม่ต้องพูดอีกแล้ว”เปปเปอร์ยกมือขึ้นห้ามคำพูดเขาไว้ “ร่างกายของผมเอง ผมรู้ตัวเองดี”
“แต่ว่า……”
ผู้ช่วยเหมันตร์ยังจะพูดอะไรอีก แต่เปปเปอร์ได้หรี่ตามองเขาด้วยแววตาที่เย็นยะเยือก
ผู้ช่วยเหมันตร์อ้าปากค้าง พูดไม่ออกในทันใด
การันต์เยาะเย้ย“ลูกน้องของคุณเป็นห่วงคุณ คุณยังจะไม่รับความหวังดีของเขาอีก”
เปปเปอร์เหลือบไปมองเขาอย่างเย็นชา ไม่ได้สนใจอะไรเขาเลย
เขาไม่พูดอะไร แน่นอนว่าการันต์ก็ไม่พูดอะไรอีก เขายักไหล่ และไปตรวจเช็กสถานการณ์การตรวจของเขา
“ประธานเปปเปอร์ครับ คุณนั่งก่อนเถอะครับ”ผู้ช่วยเหมันตร์ได้หยิบเก้าอี้มา และพูดกับเปปเปอร์
เปปเปอร์ตอบตกลง นั่งลงบนเก้าอี้นั้น จากนั้นหลับตาลง ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
ในไม่ช้า การันต์ได้นำผลการตรวจมา และยื่นให้กับเปปเปอร์ “ผลตรวจของคุณ”
เปปเปอร์ยื่นมือรับมันมา ก้มลงดูทันที
ผู้ช่วยเหมันตร์ก็ได้เอนตัวมา และดูไปพร้อมกัน
พอเห็นคำนั้น‘หัวใจเสื่อมสภาพลงอย่างรวดเร็ว’สีหน้าเปลี่ยนในทันใด“หัวใจของประธานเปปเปอร์เสียหายเร็วขนาดนี้ได้อย่างไร?”
เปปเปอร์ก็ขมวดคิ้วขึ้นมาทันที
มือทั้งสองข้างของการันต์ได้ล้วงเข้ากระเป๋าเสื้อกาวน์ พูดเบาๆว่า:“เมื่อกี้ผมได้พูดแล้ว เขาไม่ได้รักษาสุขภาพตัวเองตามคำสั่งของคุณหมอ กลับทำงานเป็นเวลานานๆ หัวใจของเขาแบกรับภาระเช่นนี้ไม่ไหว ดังนั้นจึงเร่งความเสียหายมากขึ้นไปอีก ผมก็เลยพูดยังไงล่ะ ว่าเขาอาจจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกินสามปี”
“ที่แท้ก็อย่างนี้นี่เอง”ผู้ช่วยเหมันตร์กำหมัดแน่น จากนั้นก็ถามต่อว่า“ถ้าเช่นนั้นแล้วเริ่มปรับเปลี่ยนอย่างระมัดระวังตอนนี้ จะดีขึ้นไหมครับ”
“ประมาณนั้น”การันต์ยักไหล่
ผู้ช่วยเหมันตร์มองไปทางเปปเปอร์“ประธานเปปเปอร์ครับ ผมรู้ครับว่าคุณไม่อยากฟังคำพูดเหล่านี้ แต่ผมก็ต้องพูดครับ เพื่อคุณชายรองและก็เพื่อคุณมายมิ้นท์ด้วยครับ คุณต้องรักษาสุขภาพตัวให้ดีเลยนะครับ ตอนนี้คุณชายรองยังเด็กอยู่ ทำอะไรไม่เป็น ดังนั้นบริษัทตระกูลนวบดินทร์ยังคงต้องการคุณอยู่ คุณชายรองต้องการคุณสอนเองกับมือด้วยเช่นกัน มิเช่นนั้นเขาเอาพวกเจ้าเล่ห์ที่อยู่ในบริษัทไม่อยู่แน่นอนครับ แล้วก็คุณมายมิ้นท์ด้วย ไหนคุณพูดว่า ต้องการปูทางให้กับคุณมายมิ้นท์ ให้คุณมายมิ้นท์ไม่เสียเวลาโดยใช่เหตุในวันข้างหน้าไม่ใช่หรือครับ?”
เขายิ่งพูดดวงตาของเขาก็ยิ่งแดงก่ำ อารมณ์ก็ตื่นเต้นเช่นกัน“แต่ในตอนนี้ คุณยังไม่ได้ปูทางให้กับคุณมายมิ้นท์มากนัก ดังนั้นหากคุณไม่รักษาสุขภาพให้ดี ถ้าเกิด……คุณชายรองกับคุณมายมิ้นท์จะทำยังไงครับ?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ริมฝีปากบางๆของเปปเปอร์ก็ขยับเล็กน้อย และสุดท้ายก็ถอนหายใจเบาๆ“ผมรู้แล้ว ผมจะระมัดระวังเอง”
เขาต้องยอมรับ ว่าคำพูดของเหมันตร์ มันแทงจุดที่อ่อนแอที่สุดในใจของเขา
เปปเปอร์สูบหายใจเข้าเล็กน้อย จากนั้นก็ถอนหายใจออกมา สีหน้าท่าทางของเขาดูจริงจังขึ้น“ผมรู้แล้ว ผมจะระมัดระวังเอง”
ในที่สุดผู้ช่วยเหมันตร์ก็ยิ้มอย่างพอใจแล้ว
ทันใดนั้น การันต์ก็เอ่ยปากพูดอีกครั้ง“เอาล่ะ ผลตรวจก็ออกมาแล้ว ตอนนี้ไปรับยาที่ห้องจ่ายยาเลย เนื่องด้วยหลังจากที่คุณออกจากโรงพยาบาลแล้วคุณไม่ได้พักผ่อนดีๆ ทำให้หัวใจเสียหายอย่างรวดเร็ว ดังนั้นจึงจ่ายยาตัวใหม่ให้กับคุณ ยาในก่อนหน้านั้นก็ไม่ต้องกินแล้ว”
เปปเปอร์ตอบกลับ“ไปจัดการตามนั้นเลย”
“ครับ”ผู้ช่วยเหมันตร์พยักหน้า จากนั้นรับใบสั่งยาที่การันต์ยื่นมาให้ และได้เดินออกจากห้องตรวจ
หลังจากที่รอผู้ช่วยเหมันตร์รับยาเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองคนก็ได้ออกจากโรงพยาบาล
บนรถนั้น จู่ๆเปปเปอร์ก็ได้นึกอะไรออก เขาเม้มริมฝีปากอันบางของเขาแล้วพูดว่า:“อีกสักพักคุณแจ้งมายมิ้นท์ด้วย บอกเธอ ว่างานสังสรรค์ในวันพรุ่งนี้ ไม่ต้องไปแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...