รักหวานอมเปรี้ยว นิยาย บท 551

มายมิ้นท์ยิ้มมุมปากด้วยความเย็นเยือก“ไม่ยังไง!”

“อะไรนะ?”สีหน้าชวนชมแข็งทื่อไปครู่หนึ่ง

มายมิ้นท์มองดูเธอด้วยความเย็นชา“ฉันไม่มีทางร่วมมือกับคุณ คุณไปเถอะ”

“เพราะอะไร?”ชวนชมเดินเข้าไปใกล้ด้วยความไม่เข้าใจ“ส้มเปรี้ยวเป็นศัตรูคู่อาฆาตของคุณ เธออยู่ด้านนอกคงต้องแก้แค้นคุณแน่นอน และหากพวกเราสองคนร่วมมือกัน มันจะยิ่งง่ายต่อการจัดการเธอ”

“ที่พูดมามันก็ถูก แต่ฉันไม่จำเป็นต้องมาร่วมมือกับคุณนี่คะ”มายมิ้นท์หัวเราะด้วยความเยาะเย้ย“คุณคิดว่าคุณมีกำลังอะไรหรือคะ?แม้ว่าคุณจะมี ฉันก็ไม่มีทางตอบตกลงกับคุณแน่นอน อย่าลืมสิคะ คุณก็เคยทรยศฉันอยู่ครั้งหนึ่ง คุณคิดว่าฉันจะเชื่อคุณอีกเป็นครั้งที่สองหรือคะ?”

ชวนสำลักไปครู่หนึ่ง สีหน้าดูแย่เล็กน้อย

เธอก็รู้ว่าตัวเองเคยทรยศมายมิ้นท์อยู่ครั้งหนึ่ง และได้สูญเสียความน่าเชื่อถือแล้วสำหรับมายมิ้นท์

แต่ในครั้งนี้ เธอจริงใจที่จะร่วมมือกับมายมิ้นท์จริงๆ

เพราะว่าการที่เธอตามหาตัวส้มเปรี้ยวคนเดียวนั้น มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับเธอ

ก็เหมือนอย่างที่มายมิ้นท์พูดเช่นนั้น เธอไม่มีกำลังใดๆ เงินก็มีไม่มากพอ ดังนั้นหากต้องการตามหาตัวส้มเปรี้ยวให้เจอ ทำได้เพียงไปร่วมมือกับผู้อื่น

และคนคนนี้ ก็คือมายมิ้นท์ที่มีความเกลียดชังอย่างมากระหว่างทั้งสองคนนั้น

แต่ว่ามายมิ้นท์ กลับไม่เห็นด้วยที่จะร่วมมือกับเธอ

“คุณมายมิ้นท์คะ ขอโทษจริงๆสำหรับเรื่องครั้งก่อน แต่ว่ามันก็คนละเรื่องไม่เกี่ยวกันเลย พวกเราสามารถเอาเรื่องในครั้งนั้นปล่อยไปก่อน ค่อยคุยกันทีหลัง สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้ คือพวกเราต้องรีบตามหาตัวส้มเปรี้ยวให้เจอ ตราบใดที่หาตัวส้มเปรี้ยวไม่เจอสักที มันก็เป็นเรื่องไม่ดีสำหรับเรา ดังนั้น ……”

“คุณไม่ต้องพูดแล้ว”มายมิ้นท์ได้ยกมือขึ้น ขัดจังหวะพูดของเธอด้วยความไม่สบอารมณ์“ฉันยังคงเป็นคำเดิม ฉันไม่มีทางร่วมมือกับคุณแน่นอน ฉันจะหาตัวส้มเปรี้ยวด้วยตัวฉันเอง ไม่ต้องการให้คุณมาเป็นห่วง คนที่ฉันรอมาถึงแล้ว คุณแย่งที่ของเธอไป ดังนั้นไปให้พ้นเดี๋ยวนี้เถอะ อย่าให้ฉันเรียกพนักงานมาเพื่อเชิญคุณออกไปเลย!”

“คุณ……”ชวนชมถลึงตาใส่มายมิ้นท์ด้วยสีหน้าที่ดูแย่มาก

มายมิ้นท์เอ่ยปากพูดด้วยริมฝีปากอันแดงก่ำของเธอ และพูดคำนี้ออกมาด้วยความรังเกียจ“ไปให้พ้น!”

“เหอะ แล้วคุณจะเสียใจ!” ชวนชมไม่สามารถทนต่อคำเย้ยหยันของมายมิ้นท์ได้ และอดกลั้นความอยากพาลหาเรื่องนั้น ลุกขึ้นด้วยความโกรธ ถือกระเป๋าแล้วเดินจากไป

ในตอนที่เดินไปถึงหน้าประตู เกือบจะชนโดนคุณนายราศรีที่เดินเข้ามาอยู่

โชคดีที่คุณนายราศรีตั้งตัวทัน ก้าวไปอยู่ข้างๆหนึ่งก้าว จึงจะเลี่ยงผลที่ตามมาจากการถูกชนจนกระแทกพื้นของชวนชม

เมื่อเห็นชวนชมเดินจากไปด้วยก้าวใหญ่โดยไม่ทันสังเกตว่าเธอเกือบจะชนโดนคน คุณนายราศรีก็ขมวดคิ้ว และความรังเกียจได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ

“คุณป้าคะ”มายมิ้นท์ได้โบกมือให้กับคุณนายราศรี“ทางนี้ค่ะ”

คุณนายราศรีได้ยินเสียงของเธอ หันศีรษะกลับไปดู และได้เก็บสีหน้าที่รังเกียจบนใบหน้า เดินไปหาด้วยรอยยิ้ม“มิ้นท์ ขอโทษที่ให้คุณรอนานนะคะ รถติดระหว่างทางนิดหน่อย”

“ไม่เลยค่ะ ฉันก็พึ่งมาถึงได้ไม่นานเองค่ะ”มายมิ้นท์ลุกขึ้นยืน ได้ดึงเก้าอี้ออกมาให้คุณนายราศรี

คุณนายราศรีได้แตะหลังมือของเธอด้วยความสนิทสนม จากนั้นก็นั่งลงไป

มายมิ้นท์ก็ได้กลับมานั่งที่ของตัวเอง จากนั้นก็นำกาแฟแก้วหนึ่งให้คุณนายราศรี“คุณป้าคะ ฉันได้สั่งกาแฟบลูเมาท์เทนให้คุณค่ะ เป็นสิ่งที่คุณป้าชอบที่สุด ”

“ขอบคุณนะคะมิ้นท์”คุณนายราศรีจิบกาแฟด้วยความดีใจ

มายมิ้นท์ได้หยิบช้อนกาแฟขึ้นมา และก็ได้คนกาแฟของตัวเอง

ทันใดนั้น คุณนายราศรีก็ถามขึ้นมากะทันหันว่า:“จะว่าไปแล้วมิ้นท์ ผู้หญิงที่เดินออกไปเมื่อสักครู่เป็นใครกันหรือ?ตอนที่ฉันลงจากรถนั้น เห็นพวกคุณกำลังคุยกันอยู่ พวกคุณรู้จักกันหรือ?”

มายมิ้นท์พยักหน้า“ถือว่าใช่มั้งคะ เธอเป็นลูกสาวคนโตที่เยี่ยมบุญสองสามีภรรยาคู่นั้นได้ตามเจอมาใหม่”

“ลูกสาวคนโต?”คุณนายราศรีเข้าใจทันทีทันใด“ที่แท้ก็อย่างนี้นี่เอง เป็นลูกที่คลอดโดยเยี่ยมบุญสองสามีภรรยาคู่นั้นจริงๆด้วย ไม่มีมารยาทเลยแม้แต่น้อย”

มายมิ้นท์พยักหน้า แสดงเห็นด้วย

“เอาล่ะ ไม่พูดเธอแล้ว พูดเรื่องสำคัญเถอะ มิ้นท์ คุณรู้ไหมว่าที่ฉันเรียกคุณออกมา เพราะอะไร?”คุณนายราศรีวางแก้วกาแฟลง และมองไปที่มายมิ้นท์

ท่าทางที่มายมิ้นท์คนกาแฟก็ได้หยุดลง“พอจะเดาได้ค่ะ เพราะเต้ใช่ไหมคะ?”

คุณนายราศรีพยักหน้า“ใช่ค่ะ สองวันมานี้เต้ดูผิดปกติมากเลย วันก่อนที่กลับมา ก็กลิ่นเหล้าเต็มไปหมด ”

“เขาดื่มเหล้าหรือค่ะ?”มายมิ้นท์พูดเสียงสูงด้วยความตกตะลึง

คุณนายราศรีได้ตอบกลับ“ใช่ค่ะ ดื่มเยอะมากด้วย ตอนที่กลับมายังมีอาการมึนเมาอยู่เลย ตอนขึ้นไปชั้นบนยังล้มอีก”

“แล้วเขาเป็นอะไรมากไหมคะ?”มายมิ้นท์ถามอย่างรีบร้อน

คุณนายราศรีส่ายหัว“วางใจได้เลย เต้ไม่ได้เป็นอะไร เพียงแค่หัวแตกหน่อย นอกนั้นไม่เป็นอะไร”

“ใช่หรือคะ……”มายมิ้นท์แสดงออกมาว่าเข้าใจแล้ว แต่ภายในกลับรู้สึกผิดมาก

เธอคาดไม่ถึงเลย ว่าวันก่อนที่เธอได้คุยเรื่องเหล่านั้นกับเต้นั้น ทำให้เต้มีปฏิกิริยาโต้ตอบได้มากขนาดนี้ และยังไปดื่มจนเมาอีกด้วย

“มิ้นท์”คุณนายราศรีมองไปที่มายมิ้นท์ พูดอีกว่า:“เรื่องที่เต้ชอบคุณนั้น คุณรู้แล้วใช่ไหม?”

มายมิ้นท์กัดริมฝีปาก ตอบกลับด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาราวกับเสียงของยุงแมลงวัน“รู้แล้วค่ะ สองวันก่อนฉันเดาได้จากคำพูดของเต้ค่ะ”

“ทำให้คุณตกใจหรือเปล่า?”คุณนายราศรียิ้มพร้อมพูดออกมา

มายมิ้นท์ก้มหน้าลง“มันก็ตกใจหน่อยจริงๆค่ะ เพราะที่ผ่านมา ฉันคิดว่าเต้เป็นเพื่อนกันมาตลอด และอีกอย่างระหว่างเรา นอกจากชื่อที่เต้เรียกฉันนั้นมีความล้ำเส้นไปหน่อยแล้ว พวกเราไปมาหาสู่กันแบบความสัมพันธ์เพื่อน ดังนั้นฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลย ว่าเต้จะรู้สึกแบบนั้นกับฉัน ”

“นั่นสิ ระหว่างการไปมาหาสู่กันของพวกคุณนั้น ฉันก็ได้ดูไว้อยู่แล้ว หากไม่ใช่เพราะคืนที่คุณแต่งงานเมื่อหกปีก่อน เต้ได้ดื่มจนเมาหนักมาก ร้องไห้ไปพร้อมกับพูดออกมาว่าชอบคุณ แม้แต่ฉันที่เป็นแม่ของเขาก็ยังไม่รู้เลยว่าเขารู้สึกกับคุณเช่นนั้น ไอ้หมอนั่น ซ่อนความรู้สึกได้ดีมาก”ขณะที่คุณนายราศรีพูดนั้น ก็ได้ยกกาแฟขึ้นมาดื่ม

“หกปีก่อน?”มายมิ้นท์ตกตะลึง “เต้ได้รู้สึกกับฉันตั้งแต่หกปีก่อน……”

“ไม่ใช่นะคะ”คุณนายราศรีส่ายหัว“ในตอนที่เต้ยังเป็นวัยรุ่นนั้น ก็ได้ชอบคุณแล้ว”

มายมิ้นท์อ้าปากค้าง

วัยรุ่น?

นั่นมันก็ตอนที่อายุยังได้แค่สิบกว่าปีเองไม่ใช่หรือ?

ก็หมายความว่า เต้ชอบเธอ ชอบมาสิบกว่าปีแล้ว!

ในขณะนี้ มายมิ้นท์ไม่สามารถพูดความรู้สึกในใจออกมาได้

มีทั้งความตกใจ ความซาบซึ้ง ความรู้สึกผิด แต่สิ่งเดียวที่ไม่มีคือความหวั่นไหว

ไม่รักก็คือไม่รัก

แม้ว่าอีกฝ่ายจะรักตัวเองมาแล้วสิบกว่าปีจริงๆก็ตาม เธอรู้สึกซาบซึ้ง แต่จะไม่หวั่นไหวด้วยเหตุนี้

คุณนายราศรีได้สังเกตมายมิ้นท์มาโดยตลอด

เธอก็มาบอกมายมิ้นท์โดยเฉพาะ ว่าลาเต้ชอบเธอมากขนาดไหน เพื่อที่จะดูว่าหลังจากที่มายมิ้นท์รู้แล้ว จะรู้สึกซาบซึ้งกับลาเต้ไหม

แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า ความคาดหวังได้สูญสลาย

“มิ้นท์ คุณควรที่จะปฏิเสธเต้แล้วหรือเปล่า?”คุณนายราศรีได้ถาม

มายมิ้นท์ส่ายหัวและพยักหน้าอีกครั้ง“คงใช่มั้งคะ เต้ไม่ได้สารภาพรักกับฉันเลย เพียงแค่ฉันรู้มาจากคำพูดของเขาว่าเขาชอบฉัน ดังนั้นฉันก็ไม่ได้ปฏิเสธเขาโดยตรง แต่กลับใช้คำพูดอื่น มาบอกกับเขาทางอ้อม ว่าระหว่างฉันกับเขานั้นเป็นไปไม่ได้ หวังว่าเขาจะปล่อยฉันไป และไปหาคนที่เหมาะสมกับตัวเอง”

“ไม่แปลกใจที่จู่ๆ เต้ก็ได้ทิ้งตนเองสิ้นคิดหมดหวังแล้วไปดื่มเหล้า”คุณนายราศรีปวดศีรษะพร้อมถอนหายใจ

มายมิ้นท์กำแก้วกาแฟแน่น“ขอโทษนะคะคุณป้า ฉันก็ไม่อยากทำร้ายเต้เช่นนี้เลย……”

คุณนายราศรีได้หัวเราะ“ไม่ต้องขอโทษหรอก คุณป้าไม่ได้โทษคุณเลย คุณไม่ชอบเต้ พูดกับเขาโดยตรงนั้นเป็นเรื่องที่ดี ดังนั้นคุณไม่ได้ทำผิดอะไรเลย แล้วก็ไม่ได้ทำร้ายเขาอีกด้วย ผิดที่ตัวเต้เอง ภายในใจบอบบางเกินไป เรื่องแค่นี้ก็ทนไม่ไหว”

มันไม่ได้เป็นคำพูดที่เกรงอกเกรงใจ

แต่เป็นสิ่งที่คุณนายราศรีคิดว่ามายมิ้นท์ไม่ได้ทำผิดเลย

สำหรับคนที่ตัวเองไม่ได้รักแล้ว มันก็ต้องปฏิเสธโดยตรงอยู่แล้วนี่

หากเพราะว่ากลัวอีกฝ่ายจะเสียใจ และปฏิเสธได้ไม่เด็ดขาด นั่นคือการยื้ออีกฝ่ายเอาไว้ ทำให้อีกฝ่ายนึกว่ายังมีโอกาสอยู่

จนท้ายที่สุดแล้ว กลายเป็นว่าไม่สามารถเก็บได้เลย นั่นถึงจะเรียกว่าเป็นการทำร้ายที่แท้จริง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว