รักหวานอมเปรี้ยว นิยาย บท 569

กิมจิหัวเราะ “ไม่ว่าจะเหตุผลอะไร แต่พวกคุณก็ช่วยฉัน ดังนั้นฉันขอบคุณพวกคุณมาก แต่คืนนี้ฉันรีบมา เลยไม่ได้เตรียมของขวัญอะไรไว้ พรุ่งนี้ฉันค่อยชดเชยให้ งั้นฉันขอกลับก่อน”

“อืม” เปปเปอร์ตอบอย่างราบเรียบ

กิมจิโค้งตัวคำนับอีกครั้ง จากนั้นจึงหันหลังเดินออกไป

เปปเปอร์ปิดประตูลง กลับมาที่ห้องรับแขก หยิบโน้ตบุ๊กที่วางไว้เมื่อครู่ ขึ้นไปด้านบน

ตอนผ่านห้องมายมิ้นท์ เขาชะลอฝีเท้าลง หันไปมองทางประตูห้องเธอ

เห็นแสงไฟลอดออกมาจากช่องด้านล่างประตู จึงหยุดลง

ไฟยังสว่างอยู่ มายมิ้นท์ยังไม่นอนเหรอ

ขณะกำลังครุ่นคิด เปปเปอร์ยกมือเคาะประตู กะจะบอกเรื่องที่กิมจิมาหาเธอ เอาไว้ก่อนสักหน่อย

“มายมิ้นท์ คุณอยู่ไหม” เปปเปอร์เคาะประตูพลางเอ่ยถาม

แต่เคาะอยู่นาน ประตูก็ไม่เปิด ด้านในก็ไม่มีความเคลื่อนไหว

หลับแล้วเหรอ

เปปเปอร์ขมวดคิ้ว ไม่นานก็สลัดความคิดนี้ทิ้ง

เป็นไปไม่ได้ ตอนนอนมายมิ้นท์ไม่ชอบแสงไฟ ดังนั้นเปิดไฟตอนนอน เธอไม่มีทางนอนหลับ

ดังนั้นเธอน่าจะยังไม่นอน

แต่ทำไมถึงไม่เปิดประตู หรือไม่อยู่ในห้องเหรอ

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เปปเปอร์สีหน้าตึงเครียดขึ้นมา หยุดเคาะประตู จากนั้นเอามือวางไว้ตรงลูกบิดประตู หมุนเบาๆ ประตูเปิดออก

เปปเปอร์ผลักประตูเดินเข้าไป มองไปทางเตียงเป็นอันดับแรก เห็นบนเตียงไม่มีใคร เขาหรี่ตาลงทันที

เธอไม่อยู่จริงๆ!

เธอไปไหน

หัวใจเปปเปอร์บีบรัด กำมือแน่น หันไปมองในห้องว่ามายมิ้นท์จะออกจากห้องได้ยังไง

เพราะเขาอยู่ข้างล่าง ไม่เห็นมายมิ้นท์ลงไป

แต่เมื่อเขากำลังมอง ก็เห็นบนพื้นไม่ไกลจากห้องน้ำ มีอะไรยาวๆ สีดำ เหมือนผม

แต่การมองเห็นของเขาโดนโซฟาด้านหน้าบดบังไปเยอะมาก เขาก็ไม่แน่ใจ

แต่เปปเปอร์ก็เดินอ้อมขาเตียงไปที่โซฟา กะว่าจะไปดูสักหน่อย เมื่อมองดู เห็นมายมิ้นท์นอนอยู่บนพื้น ไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย

“มายมิ้นท์!” เปปเปอร์หน้าเปลี่ยนสี เดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว ดูอาการของมายมิ้นท์

เขายกหัวมายมิ้นท์ขึ้นมา ให้เธอพิงตรงอกตัวเอง จากนั้นยื่นมือไปสัมผัสหน้าผากเธอ ไม่ร้อน และตรวจดูลมหายใจของเธอ พบว่ายังหายใจปกติ ไม่ได้หายใจรุนแรง เหมือนตอนที่ป่วย

ทันใดนั้น เปปเปอร์ใจเย็นลง รู้สึกตลกมาก

เพราะว่ามายมิ้นท์ไม่ได้ไม่สบาย เธอแค่หลับ

แต่นอนหลับตรงนี้ เขานับถือเธอจริงๆ ไม่กลัวเป็นหวัดเลย

เปปเปอร์ไม่คิดจะปลุกมายมิ้นท์ เขาเอาแขนทั้งสองข้างของเธอ วางบนคอตัวเอง และใช้แขนข้างหนึ่งช้อนสะโพกเธอเอาไว้ แล้วอุ้มเธอขึ้นมา เดินไปที่เตียง

เมื่อมาถึงข้างเตียง เปปเปอร์วางมายมิ้นท์ลงบนเตียง จัดผมเผ้าบนใบหน้าและห่มผ้าให้เธอ ก้มลงจูบหน้าผากเธอ แล้วเดินไปปิดไฟ จากนั้นจึงเดินออกไป

วันต่อมา ตอนมายมิ้นท์ตื่น เป็นเวลา 11 โมงแล้ว

เธอลืมตามองเพดาน มองเตียงใต้ตัว แล้วอึ้งไป

แปลกจัง เธออยู่บนเตียงได้ยังไง

เธอจำได้ว่าเมื่อคืนหลังออกมาจากอาบน้ำ เธอเมาแล้วล้มลงบนพื้นไม่ใช่เหรอ

อย่าบอกนะว่าเมื่อคืนเปปเปอร์เข้ามาในห้องเธอ

มายมิ้นท์เม้มปาก นวดขมับแล้วลุกขึ้นนั่ง

พอลุกขึ้นมา เธอรู้สึกอยากอ้วก เพราะตอนนี้เธอยังรู้สึกมึนหัวนิดหน่อย และหัวบวมนิดหน่อย ทำให้เธอรู้สึกทรมานมาก

แต่มายมิ้นท์ยังฝืนเอาผ้าห่มออก แล้วลงจากเตียง หลังจากสวมรองเท้า เดินเหมือนเท้าเบาหวิวไปยังห้องน้ำ เกาะชักโครกอ้วกออกมา

หลังเธออ้วกเสร็จ จึงรู้สึกสบายตัว ถึงยังมึนหัวนิดหน่อย แต่ไม่รู้สึกคลื่นไส้แล้ว

มายมิ้นท์ยื่นมือไปกดชักโครก จากนั้นจึงยืนขึ้นมา ไปล้างหน้าแปรงฟันหน้าอ่างล้างมือ

เมื่อจัดการตัวเองแล้วออกมา ก็ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงแล้ว

มายมิ้นท์เพิ่งเดินมาบนบันได ก็ได้ยินเสียงเปปเปอร์ในห้องรับแขกด้านล่าง “ตระกูลลิลิตประกายสิทธิ์ทำได้ไม่เลว”

เขาเพิ่งพูดจบ ตามมาด้วยเสียงผู้หญิงดังขึ้น

เสียงผู้หญิงคนนั้นไม่ได้พูด แต่กลับกำลังหัวเราะ เสียงหัวเราะเหมือนระฆังเงิน ไพเราะเป็นอย่างมาก

มายมิ้นท์ได้ยินเสียงผู้หญิง เท้าที่กำลังจะก้าวลงมาด้านล่าง ชะงักไปทันที มือที่จับราวบันได ก็แน่นขึ้น สีหน้าไม่ค่อยสู้ดี

เหอะ โชคด้านความรักของเปปเปอร์ช่างรุ่งโรจน์เหลือเกิน

เมื่อวานเป็นดารามาย วันนี้ก็มาอีกคน

เมื่อวานมีอะไรอื่นหรือเปล่า

ยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิดใจ มายมิ้นท์อดส่งเสียงหึออกมาไม่ได้

ถึงเสียงจะไม่ดัง แต่ความสามารถในการฟังของเปปเปอร์ค่อนข้างดี เขาหันมามองที่บันได เห็นมายมิ้นที่ยืนอยู่บนบันได ใบหน้าเย็นชา อ่อนโยนลงทันที ขนาดเสียงก็ยังอ่อนโยน “ตื่นแล้วเหรอ”

มายมิ้นท์ไม่อยากสนใจเขา หันหน้าไปทางอื่น

พูดกับผู้หญิง หยอกล้อผู้หญิง มีความสุขไม่ใช่เหรอ มาสนใจเธอทำไม

ยังไม่รีบพูดกับเขาอีก อย่าเฉยเมยกับเขาสิ

เปปเปอร์เห็นท่าทางไม่มีความสุขของมายมิ้นท์ มีเครื่องหมายคำถามขึ้นมาบนหัว

เธอเป็นอะไรอีกแล้ว

กิมจิที่นั่งตรงข้ามเปปเปอร์ มองไม่เห็นบันได แต่เห็นเปปเปอร์จ้องไปทางบันได แถมยังพูดออกมาด้วย เธอจึงเดาได้ว่ามายมิ้นท์ตื่นและเดินลงมาแล้ว สีหน้าดีใจ รีบลุกขึ้นยืน เดินอ้อมโซฟาไปด้านหน้า หลังจากเห็นบันได เธอจึงหยุดเดิน โบกมือให้มายมิ้นท์บนบันได “มายมิ้นท์”

มายมิ้นท์รู้ว่าเป็นเสียงกิมจิ ตอนแรกเธออึ้งไป จากนั้นจึงหันหน้ามา พูดอย่างแปลกใจว่า “เธอเองเหรอ”

งั้นเมื่อกี้คนที่คุยกับเปปเปอร์ คือกิมจิ ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไม่รู้จัก

“อะไรกัน ไม่เจอกันวันเดียว ไม่รู้จักฉันแล้วเหรอ” กิมจิมองความตกใจบนใบหน้าเธอ หัวเราะแล้วพูดออกมา

มายมิ้นท์ส่ายหน้า “เปล่า ฉันแค่ตกใจว่าทำไมเธอถึงอยู่ที่นี่”

แถมยังคุยกับเปปเปอร์อย่างมีความสุข

“ฉันมาขอบคุณเธอกับประธานเปปเปอร์” กิมจิตอบ “แต่เธอยังไม่ตื่น ฉันเลยคุยกับประธานเปปเปอร์ แล้วรอเธอไปด้วย”

“เหรอ แล้ว......แล้วเมื่อกี้คุยอะไรกันเหรอ” มายมิ้นท์เหลือบมองเปปเปอร์ และหันมามองกิมจิ ถามด้วยน้ำเสียงหึงเล็กน้อย

เปปเปอร์เลิกคิ้วขึ้น หัวเราะเบาๆ สองครั้ง

รู้แล้วว่าทำไมเมื่อกี้เธอถึงไม่ชอบใจ

เห็นเขาคุยกับผู้หญิงคนอื่น เลยไม่พอใจ

“เรากำลังพูดถึงคชาไง” กิมจิฟังความหึงที่แฝงอยู่ในน้ำเสียงมายมิ้นท์ไม่ออก เธอหัวเราะแล้วตอบว่า “เมื่อวานคุณเปปเปอร์คุยกับพ่อคชา เรื่องที่เขาแอบนอกใจ ดังนั้นเมื่อคืนตระกูลลิลิตประกายสิทธิ์ บังคับให้คชามาขอโทษฉันถึงที่ แถมยังให้คชาไล่คนรักคนนั้นไปด้วย”

“ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง” มายมิ้นท์พยักหน้าอย่างเข้าใจ

มิน่าล่ะ เมื่อกี้เปปเปอร์ถึงพูดว่าตระกูลลิลิตประกายสิทธิ์ทำได้ไม่เลว

ที่แท้หมายความแบบนี้นี่เอง

มายมิ้นท์สบายใจขึ้นทันที ไม่ได้กลุ้มใจอีก

เธอจับราวบันได้เดินลงมา

เปปเปอร์เห็นขาทั้งสองข้างของเธอสั่นเล็กน้อย ก็เข้าใจทันที วางนิตยสารสังคมการเมืองและเศรษฐกิจในมือ แล้วไปที่ห้องครัว เขาเอาซุปอุ่นๆ แก้อาการเมาค้าง ที่ให้คนส่งมาให้ตั้งแต่เช้าออกมา แล้วยื่นให้มายมิ้นท์ “ดื่มสิ”

“นี่อะไร” มายมิ้นท์มองน้ำซุปดำๆ ในถ้วย ได้กลิ่นแปลกๆ ที่โชยออกมาจากน้ำซุป ย่นจมูกอย่างรังเกียจ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว