“ก็เพราะเทรนเดอร์กรุ๊ปเป็นกิจการของตระกูลกิตติภัคโสภณ และเพราะว่าฉันเป็นลูกสาวแท้ๆ เพียงคนเดียวเท่านั้น!” ใบหน้าของดารามายเต็มไปด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ย “ส่วนเธอน่ะมายมิ้นท์ ก็เพียงแค่ลูกซึ่งเกิดมาจากการที่แม่ของแกมีชู้ แกมันลูกนอกคอกที่พ่อเป็นใครก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำ ดังนั้น คนที่ไม่ควรจะเข้ามาสืบทอดกิจการของเทนเดอร์กรุ๊ปมากที่สุดคงจะเป็นแกต่างหาก!”
เมื่อประโยคนี้ถูกกล่าวออกมา ทั้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคนและเลขาซินดี้ต่างพากันตกตะลึง
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยยังไม่เท่าไหร่ ถึงแม้จะค่อนข้างตกตะลึง แม้จะอยากรู้เพียงใดว่าคำพูดของรองประธานเป็นจริงหรือไม่ ท่านประธานไม่ใช่บุตรสาวขอ
อดีตประธานจริงหรือเปล่า แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็รู้ตัวดีว่าตนเป็นเพียงแค่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตำแหน่งเล็กๆ เท่านั้น
ต่อให้จะอยากรู้เพียงใด พวกเขาก็ต้องเสแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน แกล้งทำเป็นหูหนวกตาบอดจะดีกว่า ไม่อย่างนั้นงานที่มีทำอยู่อาจจะเสียไปได้
แต่เลขาซินดี้ไม่ทันคิดอะไรมากมาย เธอก้าวเข้าไปข้างหน้ามองดูดารามายด้วยความโมโห “คุณพูดเรื่องไร้สาระอะไรกัน? ท่านประธานไม่ได้เกิดมาจากการที่คุณหญิงมีชู้นะคะ!”
ที่จริงแล้วเธอรู้ดีว่าท่านประธานเป็นบุตรสาวแท้ๆ ของตระกูลกิตติภัคโสภณหรือเปล่า
เรื่องนี้ในฐานะเลขาส่วนตัวของท่านประธาน ดังนั้นท่านประธานเคยบอกเธอแล้วก่อนหน้า
ท่านประธานเคยบอกว่าตนเป็นบุตรบุญธรรมที่สองสามีภรรยาอดีตประธานบริษัทเทนเดอร์กรุ๊ปรับมาเลี้ยง ดังนั้นจึงไม่ได้เกิดจากการที่คุณหญิงมีชู้
ดารามายผู้หญิงคนนี้! ไม่ทำความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์เลย เธอเอาแต่พูดจาไร้สาระ
แต่ดารามายไม่รู้ว่าในใจของเลขาซินดี้คิดเรื่องอะไรอยู่ เธอจ้องมองไปที่มายมิ้นท์แล้วเผยอยิ้มออกมาด้วยความชั่วร้าย “ฉันพูดจาไร้สาระเหรอ ถ้าแน่จริงก็ให้มายมิ้นท์ทำการตรวจดีเอ็นเอกับฉันสิ เมื่อผลตรวจดีเอ็นเอออกมาถ้าพวกเราไม่ใช่พี่น้องกัน ถ้าอย่างนั้นมายมิ้นท์ก็เป็นลูกนอกคอกที่แม่ของเธอแอบมีชู้แล้วคลอดออกมา หากไม่ใช่เพราะแม่ของเธอแอบมีชู้ และปิดบังไม่ให้คุณพ่อรู้ คุณพ่อจะเลี้ยงเธอจนเติบโตมาได้ยังไง? และจะให้เธอเป็นคนสานต่อบริษัทเทนเดอร์กรุ๊ปได้ยังไง อีกทั้งยังเป็นประธานบริษัทเทนเดอร์กรุ๊ป เทนเดอร์กรุ๊ปเป็นกิจการที่สืบทอดกันมาของตระกูลกิตติภัคโสภณ ทุกสิ่งทุกอย่างนี้เดิมทีควรจะเป็นของฉัน ควรจะเป็นฉันต่างหากที่เป็นผู้สืบทอด เธอมันเป็นเพียงแค่ลูกนอกคอก มีสิทธิ์อะไรมาดำรงตำแหน่งอยู่ในฐานะประธานและใช้ชีวิตสุขสบายแบบนี้ เพราะฉะนั้นมายมิ้นท์ ทางที่ดีเธอรีบคืนหุ้นส่วนในมือของเธอมาให้ฉันเสีย จากนั้นไสหัวออกไปจากเทนเดอร์กรุ๊ปได้แล้ว!”
“เหอะๆ” มายมิ้นท์หัวเราะออกมาด้วยความเยือกเย็น จากนั้นยกมือขึ้นไปตบหน้าห้องดารามายเบาๆ มองหล่อนเหมือนกับมองคนบ้าไม่ผิดเพี้ยน “นั่นสิน่ะ ที่เธอพูดก็ถูก ฉันไม่ใช่ลูกสาวในสายเลือดของตระกูลกิตติภัคโสภณ แต่ว่าฉันก็ไม่ได้เกิดจากแม่ที่มีชู้ ดังนั้นถ้าเธอต้องการจะให้ฉันเอาหุ้นส่วนของตัวเองมามอบให้ด้วยเหตุผลนี้ คาดว่าคงจะเป็นไปไม่ได้หรอกนะ”
“เธอเป็นผู้ต้องหา เธอจะยอมรับได้ยังไงว่าแม่ของเธอมีชู้แล้วคลอดออกมา” ดารามายเงยหน้าขึ้น ส่งสายตาไปด้วยความเหยียดหยาม
มายมิ้นท์ดีดนิ้วของเธอแล้วพูดว่า “ถ้าจะบอกว่าเธอโง่ ที่จริงเธอก็ไม่ฉลาด ดารามายเธอไม่รู้จักกฎหมายการสืบทอดสินะ เอาล่ะไม่ต้องพูดถึงว่าฉันเป็นลูกที่เกิดมาจากแม่ที่มีชู้หรือเปล่า ต่อให้ฉันเป็นแบบนั้นจริงๆ เพียงแค่ฉันมีรายชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านของตระกูลกิตติภัคโสภณ ฉันก็กลายเป็นคนของตระกูลกิตติภัคโสภณอย่างแท้จริง และเป็นผู้ที่มีสิทธิ์ในการสืบทอดมรดก! ฉันมีสิทธิ์นั้น! ด้วยเหตุนี้เองเธอไม่อาจมีคุณสมบัติสั่งให้ฉันมอบหุ้นที่อยู่ในมือมาให้เธอหรอก”
“เป็นไปไม่ได้!” สีหน้าของดารามายเปลี่ยนไป เธอตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงแหลมคม
มายมิ้นท์ยังไม่ทันกล่าวจบ เลขาซินดี้ก็เหล่ตามอง “รองประธานคะนี่เป็นเรื่องจริง ไม่ว่าจะเป็นประเทศเราหรือประเทศอื่น ในส่วนของสิทธิการสืบทอดมรดกก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้น ถ้าคุณไม่เชื่อคุณจะไปสอบถามทนายดูก็ได้”
“เป็นแบบนี้ได้ยังไง......” ดารามายอ้าปากค้าง เห็นได้ชัดว่าเธอไม่อยากจะเชื่อเรื่องนี้
“ทำไมเหรอ รับไม่ได้หรือไงกัน?” มายมิ้นท์เผยอยิ้มขึ้นที่มุมปาก “ยังมีเรื่องที่เธอรับไม่ได้มากกว่านี้อีกนะ เมื่อสักครู่เธอเป็นคนเน้นย้ำเองถึงเรื่องกิจการเทนเดอร์กรุ๊ปคือกิจการของตระกูลกิตติภัคโสภณ ดังนั้นควรจะเป็นคนในตระกูลกิตติภัคโสภณเท่านั้นที่เข้ามาสานต่อ ใช่แล้ว เทนเดอร์กรุ๊ปเมื่อหกปีก่อนเป็นกิจการของตระกูลกิตติภัคโสภณ แต่เทนเดอร์กรุ๊ปในตอนนี้ไม่ใช่”
“เธอพูดบ้าอะไร!” ดารามายตะโกนออกมาอย่างเกรี้ยวกราด
“ท่านประธานไม่ได้พูดไร้สาระนะคะ” เลขาซินดี้ขยับแว่นตาที่อยู่บนสันจมูก “คุณคงไม่รู้สินะว่าเมื่อหกปีก่อนอดีตท่านประธานพยายามรวบรวมกองทุน จึงได้นำหุ้นจำนวนสี่สิบเปอร์เซ็นต์ออกไปจำนอง นับตั้งแต่วินาทีนั้นเป็นต้นมา เทนเดอร์กรุ๊ปก็ไม่ใช่กิจการของตระกูลกิตติภัคโสภณอีกต่อไปแล้ว แต่กลายเป็นกิจการขององค์กรณ์ระดมทุนร่วม”
“ซินดี้ ต่อให้พูดเรื่องเหล่านี้กับหล่อน หล่อนก็ไม่เข้าใจหรอก พูดให้ง่ายกว่านี้หน่อยดีกว่า” มายมิ้นท์หันไปเหลือบมองดูซินดี้
“ค่ะ” เลขาซินดี้ตอบรับแล้วพูดขึ้นว่า “รองประธานคะ ดิฉันจะอธิบายให้คุณฟังง่ายๆ นั่นก็คือ ตอนนี้หุ้นส่วนที่อยู่ในมือของท่านประธาน ไม่ใช่หุ้นที่อดีตท่านประธานเคยมี เรื่องนี้คุณเคยรู้ตั้งแต่เดินทางมายังบริษัทเทนเดอร์กรุ๊ปแล้วไม่ใช่เหรอ? หุ้นส่วนที่มีอยู่ในมือของท่านประธานเป็นของคุณตาของเธอ อีกทั้งประธานลาเต้และคนอื่นๆ ช่วยเธอซื้อกลับคืนมา ดังนั้นจึงถือว่าเป็นของท่านประธานโดยแท้จริง ด้วยเหตุนี้เองไม่ว่าท่านประธานจะเป็นคนในตระกูลกิตติภัคโสภณหรือไม่ หุ้นส่วนเหล่านั้นคุณก็ไม่มีอำนาจจะเอาไป ต่อให้ไปฟ้องศาลก็มีค่าเท่าเดิม”
“ได้ยินชัดเจนหรือยัง?” มายมิ้นท์แตะไปที่ใบหน้าของดารามายเบาๆ อีกครั้ง “ดังนั้นถ้าเธอต้องการจะใช้ประโยชน์จากเหตุผลที่ฉันไม่ใช่คนของตระกูลกิตติภัคโสภณ และจะเอาหุ้นส่วนของฉันไป มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แย่งหุ้นฉันเหรอ! หึๆ นับตั้งแต่ก้าวแรกเธอก็ไม่มีวันประสบความสำเร็จแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...