และสิ่งเดียวที่เขาทำได้ในตอนนี้ก็คือ ใช้เวลาส่วนที่เหลืออยู่ของชีวิตอยู่กับเธอให้มากที่สุด พาเธอไปยังที่ที่เธออยากไป พาเธอไปกินของโปรด ชดเชยเท่าที่เขาจะทำได้
เป็นภรรยาเยี่ยมบุญมาเกือบสามสิบปี เรียกได้ว่าคุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์รู้จักเขาดีทุกด้าน รู้ตื้นลึกหนาบางหมด
เธอเห็นสีหน้าเยี่ยมบุญก็รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
และเป็นเพราะรู้สาเหตุ หัวใจคุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์จึงยิ่งรู้สึกเจ็บปวด น้ำตาไหลพรากไม่หยุด “เยี่ยมบุญ คุณไม่ตายหรอก ไม่ตายหรอก พวกเราต้องหาไตที่เหมาะกับคุณได้แน่ หาได้แน่!”
คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์จับมือเยี่ยมบุญไว้แน่น ไม่กล้าปล่อย
เธอกลัวว่าตัวเองปล่อยมือแล้ว ผู้ชายคนนี้ก็จะหายไป
เยี่ยมบุญรู้ว่าภรรยากลัวอะไร เขาตบหลังเธอเบา ๆ“คุณกับผมรู้ดีว่ามีโอกาสหาไตที่เหมาะสมเจอน้อยมาก”
“ไม่ใช่” คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์รับความจริงไม่ได้ รีบกอดเยี่ยมบุญไว้ ก่อนจะซบบนไหล่เขาแล้วร้องไห้ฟูมฟาย
เยี่ยมบุญยิ้มอย่างอ่อนโยน พลางตบหลังเธอ“พอแล้ว พอแล้ว อย่าร้องไห้เลย คนอื่นดูอยู่”
คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ก็รู้ว่าคนอื่นเห็นแล้วจะขายหน้า
เธอผละออกจากอ้อมกอดของเยี่ยมบุญ จากนั้นก็เอาผ้าเช็ดหน้ามาเช็ด จากนั้นก็หยุดร้องแล้วเผยรอยยิ้มออกมา จึงกลายมาเป็นภรรยาไฮโซผู้สูงศักดิ์อีกครั้ง คล้ายกับคนที่ร้องไห้เหมือนเด็กเมื่อครู่ ไม่ใช่เธออย่างไรอย่างนั้น
“พอแล้ว พวกเราไม่คุยเรื่องพวกนี้แล้ว อย่าคิดมากสิ วันนี้พวกเรามาก็เพื่อซื้อเค้กรสโกศจุฬาลัมพานะ ไปกันเถอะ”
คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ข่มกลั้นความเสียใจ ตอบอืมหนึ่งคำ จากนั้นก็ควงแขนเขาเดินไปด้านหน้า
พวกเขาสองคนมาถึงหน้าเคาน์เตอร์สั่งของ
เยี่ยมบุญส่งเสียงไอเสร็จพลันกล่าวว่า“ของเค้กรสโกศจุฬาลัมพาหนึ่งชุดครับ”
พนักงานเงยหน้ามองเขาด้วยใบหน้าขอโทษ“ต้องขออภัยด้วยค่ะท่าน เค้กชิ้นส่วนท้ายมีคนซื้อเมื่อสักครู่นี้แล้วค่ะ”
พนักงานชี้ไปยังมายมิ้นท์ที่นั่งหันหลังให้พวกเขา
มายมิ้นท์คล้ายกับรับรู้ได้ว่ามีคนชี้มายังตน จึงวางแก้วน้ำแล้วหันไปมอง
เมื่อเธอเห็นสองสามีภรรยาคู่นี้ก็ต้องชะงักงัน
และเยี่ยมบุญกับภรรยาก็ชะงักด้วยเช่นกัน
“หนูเองเหรอ?”
“พวกคุณเองเหรอ?”
ทั้งสามเอ่ยปากด้วยความประหลาดใจพร้อมเพรียงกัน
พนักงานมองไปยังมายมิ้นท์แล้วมองไปยังสองสามีภรรยาถึงรู้ว่าพวกเขารู้จักกัน
ในเมื่อพวกเขาสามคนรู้จักกัน งั้นเธอก็ไม่เอ่ยปากพูดแล้วแหละ
“ทำไมเธอถึงอยู่ที่นี่ล่ะ?” คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์กอดแขนเยี่ยมบุญแน่น จากนั้นก็ถามด้วยเสียงขรึม
เยี่ยมบุญไม่ได้เปล่งเสียงพูด ทว่าแววตาที่มองมายมิ้นท์นั้นกลับมืดครึ้มยิ่ง
มายมิ้นท์มองคนสูงวัยที่มีท่าทางไม่เป็นมิตรกับตน จึงยกมุมปากขึ้นยิ้มเย็นเยียบ ก่อนจะลุกขึ้นยืน “ที่นี่ไม่ใช่ถิ่นของตระกูลภักดีพิศุทธิ์ แล้วทำไมฉันถึงอยู่ที่นี่ไม่ได้?คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ถามแบบนี้ไม่รู้สึกปัญญาอ่อนหน่อยเหรอ?”
“เธอ......” ใบหน้าคุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์แดงฉาน
เยี่ยมบุญคว้ามือของเธอไว้ บอกเธอให้ใจเย็น จากนั้นเขาจะเผชิญหน้ากับมายมิ้นท์เอง
เขายังคงไม่เอ่ยปาก จ้องมายมิ้นท์อยู่อย่างนั้น
เขามองใบหน้ามายมิ้นท์แล้วใจลอยอย่างบอกไม่ถูก
เหมือน เหมือนมาก!
ไม่ว่าจะใบหน้าด้านข้างของมายมิ้นท์ หรือโครงหน้าทั้งหมดของมายมิ้นท์ก็เหมือนแม่ของเขามาก
เขารู้สึกคล้ายคลึงตั้งนานแล้ว เพียงแต่ตอนนั้นไม่ได้ใส่ใจ
และต่อมาเขาก็ค่อย ๆ ลืมเรื่องมายมิ้นท์เหมือนแม่ของเขา
จนถึงตอนที่มายมิ้นท์แถลงข่าว เขาจึงนึกถึงได้ว่า ทั้งเวลาที่มายมิ้นท์ถูกเก็บไปเลี้ยง และหน้าตาที่เหมือนแม่เขา ล้วนมีความเป็นไปได้ที่เธอจะเป็นชวนชม
ทว่าความเป็นจริงดันไม่ใช่
ทำให้เขาไม่รู้ว่าควรเสียใจหรือรู้สึกโชคดีกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...