มายมิ้นท์จ้องมองคุณนายราศรี “หนูเข้าใจความหมายของคุณป้าค่ะ แต่ว่าคุณป้าคะ คุณป้าไม่โกรธหนูจริง ๆ เหรอคะ? เต้เป็นลูกชายของคุณป้า แล้วเขาต้องเสียใจ เพราะว่าหนูปฏิเสธเขาไป คุณป้าไม่เคยโกรธหนูเลยจริง ๆ เหรอคะ?”
“คำถามนี้ ก่อนหน้านี้หนูก็เคยถามป้าแล้ว งั้นตอนนี้ป้าจะตอบหนูอีกครั้งนะ แน่นอนว่าไม่เคยโกรธอยู่แล้ว” คุณนายราศรีดึงมือเธอมา “ป้าเคยบอกแล้วไม่ใช่เหรอ เต้รักหนู นั่นเป็นเรื่องของเต้ ไม่ได้หมายความว่าเขารักหนู แล้วหนูก็จะต้องรับปากเขา เรื่องความรัก ตั้งแต่แรกมันก็ต้องเห็นดีเห็นงามกันทั้งสองฝ่ายอยู่แล้ว ถ้าต่างฝ่ายต่างชอบพอกัน งั้นก็อยู่ด้วยกัน แต่ถ้าอีกฝ่ายหนึ่งไม่เห็นด้วย งั้นก็ปฏิเสธไปให้จริงจัง อีกฝ่ายจะได้เก็บความรู้สึกได้ทัน หนูไม่มีความผิด ป้าจะไปโทษหนูทำไม ป้าอย่างฉัน ถึงแม้ว่าจะอายุมากแล้ว แต่ก็ยังเป็นคนที่รู้เรื่องดีอยู่ แล้วถึงแม้ว่า……”
“คุณป้าอยากจะพูดอะไรก็พูดมาได้เลยค่ะ” มายมิ้นท์มองไปที่เธอ
คุณนายราศรีถอนหายใจอย่างเสียดาย “ถึงแม้ว่า ป้าจะอยากให้หนูมาเป็นลูกสะใภ้มากจริง ๆ แต่ว่าแบบนั้น หนูกับเต้จะต้องไม่มีความสุขแน่ เพราะว่าป้ารู้ดีว่า เต้ไม่ใช่คนสไตล์แบบที่หนูชอบ ไม่ว่ายังไงหนูก็ไม่มีทางตกหลุมรักเต้ได้ ถ้าฝืนอยู่กันไป สุดท้ายแล้วก็จะกลายเป็นคู่แค้นกันไป ดังนั้น เมื่อเทียบกับการให้หนูมาเป็นลูกสะใภ้ของป้า ป้ากลับอยากให้หนูเจอคนที่เหมาะสมกับหนูมากกว่าแล้วมีความสุขตลอดไป”
“สำหรับเต้นั้น” คุณนายราศรีกลับมามีรอยยิ้มอีกครั้ง “ตอนนี้เขากำลังอยู่ในขั้นเสียใจ แต่ป้าเชื่อว่า นี่เป็นแค่ชั่วคราวเท่านั้น รอถ้าเขาเจอคนที่เหมาะสมกับเขาแล้ว เขาก็จะหลุดพ้นได้เอง เพราะฉะนั้นมิ้นท์ หนูอย่าเป็นห่วงเขาเลย และที่สำคัญคืนนี้เขาไม่อยู่ด้วยก็ดีเหมือนกัน ไม่งั้นพอหนูเจอกับเขาแล้วก็ต้องอึดอัด พอเขาเห็นหนูกับเปปเปอร์ก็ต้องไม่สบายใจเหมือนกัน สู้ไม่เจอกันดีกว่า หนูว่าใช่หรือเปล่าล่ะ?”
“คุณป้า……” มายมิ้นท์กอดคุณนายราศรีไว้แน่น “ขอบคุณค่ะคุณป้า ขอบคุณคุณป้ามากจริง ๆ”
คุณนายราศรีอึ้งไปก่อนเล็กน้อย จากนั้นก็ตบหลังเธอไปเบา ๆ แล้วก็หัวเราะขึ้น “ขอบคุณอะไรกัน เอาล่ะ เอาล่ะ พวกเราออกไปกันก่อนเถอะ”
“ค่ะ” มายมิ้นท์คลี่ยิ้มขึ้นเล็กน้อย แล้วก็มีรอยยิ้มปรากฏออกมาอีกครั้งและตอบตกลงไป
ทั้งสองคนจูงมือกันเดินออกจากห้องครัว
แต่ว่าระหว่างทาง มายมิ้นท์กลับเดินแยกกับคุณนายราศรีไป และไปเข้าห้องน้ำแล้ว
คุณนายราศรีกลับมาที่ห้องรับแขกคนเดียว
พอเห็นคุณนายราศรีมาคนเดียว ไม่มีเงาของมายมิ้นท์มาด้วย เปปเปอร์ก็รีบหยุดการสนทนาทางธุรกิจกับประธานวสุไปทันที แล้วมองไปที่คุณนายราศรีแล้วถามขึ้นว่า “คุณป้าครับ สะระแหน่ละครับ?”
ฟังออกว่าน้ำเสียงของเขามีความห่วงใยอยู่บ้าง ใจของคุณนายราศรีก็เต็มไปด้วยความพึงพอใจ แต่ปากก็แสร้งทำเสียงหึออกมาอย่างไม่เต็มใจ “ไปเข้าห้องน้ำแล้ว ทำไม กลัวฉันเอามิ้นท์ไปขายหรือไง?”
“ผมไม่ได้หมายความแบบนั้นครับ” พอได้ยินว่ามายมิ้นท์ไปเข้าห้องน้ำแล้ว ก้อนหินใหญ่ที่อยู่ในใจเปปเปอร์ก็วางลงสักที แล้วพูดอธิบายขึ้นว่า “ผมก็แค่ไม่เห็นเธอ ในใจรู้สึกไม่วางใจเท่านั้นครับ”
“หึ มีอะไรให้ไม่วางใจกัน อยู่บ้านเรา มิ้นท์จะไปเกิดเรื่องอะไรขึ้นได้?” คุณนายราศรีมองตาขาวใส่เขาทีหนึ่ง
เปปเปอร์เม้มริมฝีปากไปทีหนึ่ง แล้วก็ไม่พูดอะไร
และในเวลานี้เอง ประธานวสุก็เดินเข้ามาเป็นผู้ไกล่เกลี่ย เขามองไปที่คุณนายราศรีทีหนึ่ง “พอแล้ว พูดไปเรื่อยอะไร เปปเปอร์เขาก็เป็นห่วงมิ้นท์ ตอนนี้คู่ของพวกเขาสองคนกำลังเป็นช่วงที่รักกันที่สุด เป็นช่วงที่ตัวติดกัน แล้วอยู่ ๆ ไม่เห็นมิ้นท์ คุณว่าเขาจะไม่เป็นห่วงได้ยังไงกัน?”
“หึ คุณนี่ช่วยพูดดี ๆ แทนเขาจังเลยนะ” คุณนายราศรีชี้ไปที่เปปเปอร์ทีหนึ่ง
ตาแก่นี่ ไหนคุยกันไว้ว่าจะมาทดสอบเปปเปอร์ด้วยกัน จะมาสร้างอุปสรรคให้เปปเปอร์ด้วย จนเปปเปอร์สามารถผ่านได้ทุกด่านค่อนว่ากันไง
แต่สุดท้าย
ตั้งแต่แรกตาแก่นี่ ก็มีท่าทีที่ดีมากกับเปปเปอร์แล้ว แล้วก็ลืมเรื่องที่พูดกับเธอไว้จนไปถึงไหนต่อไหนแล้ว
ประธานวสุไม่รู้ว่าคุณนายราศรีคิดอะไรอยู่ในใจ พอได้ยินคำพูดของคุณนายราศรี ก็ยิ้มขึ้นมาอย่างเขินอายเล็กน้อย “เหอะ เหอะ ช่วยไม่ได้ เปปเปอร์มอบเหล้าดี ๆ มาให้ผมหลายขวด นี่ถ้าผมไม่ช่วยพูดดี ๆ แทนเขาสักหน่อย ในใจก็จะรู้สึกผิดไม่น้อย”
คุณนายราศรีมองตาขาวทีหนึ่ง “ไม่เอาไหน!”
จ้องมองสามีภรรยาวัยกลางคนนี่ถกเถียงกัน ในดวงตาของเปปเปอร์ก็มีประกายเสี้ยวหนึ่งกะพริบขึ้นมา จากนั้น เขาก็หาพวกถุงที่ใส่เหล้าเอาไว้ออกมา วางลงตรงบนโต๊ะรับแขกหน้าประธานวสุ “คุณลุงครับ ถือโอกาสตอนนี้ที่ยังไม่กินข้าวกัน คุณลุงมาดูเหล้าพวกนี้ที่ผมเอามาฝากก่อนดีกว่านะครับ ดูซิว่าถูกใจหรือเปล่า”
“ได้” ประธานวสุรีบพยักหน้าขึ้น
เขาอยากเปิดดูทั้งนานแล้ว ในเมื่อเขาชอบเหล้าซะขนาดนั้น
แต่ว่ายังไงนี่ก็เป็นของขวัญที่เปปเปอร์เอามาฝาก แล้วตัวเปปเปอร์ยังไงไป เขาจะเปิดออกดูได้ยังไง เพราะฉะนั้นจึงได้แต่อดทนไว้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...