เปปเปอร์เคยบอกว่าชายเจ้าเล่ห์คือคนลักพาตัวส้มเปรี้ยวไป และบอกว่าว่าชายเจ้าเล่ห์นั้นเป็นแฟนคลับที่คอยตามจีบเธอ
ในตอนนี้ คนในรายชื่อบังเอิญมีรูปจิ้งจอก บ่งชี้ตัวตนของคนคนนี้ได้เป็นอย่างดี
“ ชายเจ้าเล่ห์เหรอ?” ชายหนุ่มหัวเราะขึ้น “พวกคุณเรียกผมแบบนี้เองเหรอเนี่ย ไม่เลว ฉายานี้ผมชอบมาก!”
เมื่อมายมิ้นท์เห็นว่าเขายอมรับ เธอก็ขมวดคิ้วขึ้นด้วยความเกร็ง “เป็นคุณจริงๆด้วย คุณเป็นใครกันแน่?”
“ตอนนี้ผมบอกคุณไม่ได้หรอกนะ แต่คุณวางใจได้ ผมจะไม่มีวันทำร้ายคุณแน่ คุณเป็นเหมือนแสงสว่างของผม และผมจะปกป้องคุณไปตลอดชีวิต” น้ำเสียงตอบกลับของชายเจ้าเล่ห์ดูอ่อนโยน
มายมิ้นท์ได้ยินน้ำเสียงของเขาเช่นนั้นก็หน้าแดงเรื่อ
คนคนนี้คงจะไม่ใช่คนที่จะตามจีบเธอใช่ไหม?
ขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น ชายเจ้าเล่ห์ก็เอ่ยปากขึ้นอีกว่า “เอาละครับ ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว คุณรีบพักผ่อนเถอะแล้วผมจะติดต่อคุณไปใหม่นะ ลาก่อน”
พูดจบ ชายเจ้าเล่ห์ก็วางสายลง
มายมิ้นท์จ้องไปที่หน้าจอมือถือ เดิมที่เธอยังมีคำถามต้องการถามเขาอีก แต่ก็ทำได้เพียงกลืนน้ำลายลงคอ
เอาเถอะ ในเมื่อเขาบอกว่าจะติดต่อเธอมาอีก ถ้าอย่างงั้นรอครั้งหน้าค่อยถามก็แล้วกัน
เพียงแต่ว่าคนนี้เป็นใครกันแน่ จู่ๆ ก็มาปรากฏตัวขึ้นและทำดีกับเธอขนาดนี้ มันทำให้เธอไม่อยากจะเชื่อเลย
มายมิ้นท์มองไปยังภาพโปรไฟล์จิ้งจอกที่อยู่ในรายชื่อนั้น ในใจเธอก็รู้สึกเหมือนฝันไป
เช้าวันต่อมา มายมิ้นท์ตื่นขึ้นเนื่องจากเสียงโทรเข้าของลาเต้
“ที่รัก ตื่นหรือยังครับ? ผมรออยู่ที่ข้างล่างแล้ว” ลาเต้นั่งอยู่ในรถสปอร์ตสีแดงสดของเขา แล้วเงยหน้าขึ้นไปมองดูอาคารด้านบน
มายมิ้นท์อ้าปากหาวแล้วตอบว่า “กำลังจะตื่นเดี๋ยวนี้แหละค่ะ”
“โอเคงั้นรีบหน่อยนะ ผมรออยู่ในรถ” ลาเต้พูด
มายมิ้นท์ตอบรับเบาๆก่อนจะวางสายลง จากนั้นเธอก็เปิดผ้าห่มออกเพื่อลงจากเตียง
หลังจากล้างหน้าแปรงฟันเรียบร้อยแล้ว เธอก็หยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพายและใช้ไม้ค้ำเดินไปที่ประตู
เมื่อเปิดประตูออก ก็มีจดหมายฉบับหนึ่งหล่นลงมาจากบริเวณมือจับด้านนอกของประตู
มายมิ้นท์หยิบมันขึ้นมาด้วยความสงสัย เมื่อมองไปยังตัวอักษรบนจดหมายแล้วจึงพบว่านี่คือจดหมายที่เธอเขียนคุยกับเพื่อนทางจดหมายที่ชื่อว่าข้าวก้อง
ทำไมถึงมาอยู่ข้างนอกได้?
มายมิ้นท์กำจดหมายฉบับนั้นเอาไว้และมองออกไปด้านนอกประตู จู่ๆเธอก็นึกถึงปีโป้ขึ้นมา
ปีโป้เคยเอาจดหมายฉบับหนึ่งไป และบอกว่าจะคืนให้กับเธอ คาดว่านี่จะเป็นจดหมายตี้ปีโป้เอากลับมาคืน
แต่ครั้งที่แล้วเธอบอกให้ปีโป้เอาทิ้งไป
คาดไม่ถึงว่าเขาไม่ได้ทิ้งมัน
มายมิ้นท์มองดูจดหมายฉบับนั้น ก่อนจะนำมันใส่ไปในกระเป๋าอย่างลวกๆ ตั้งใจว่ากลับมาตอนเย็นแล้วค่อยนำไปใส่ในลิ้นชักจดหมาย
เมื่อเธอเดินลงมาถึงด้านล่าง
ลาเต้ก็โบกมือให้เธอพูดว่า “ที่รัก ทางนี้”
มายมิ้นท์ใช้ไม้ค้ำพยุงเดินเข้าไปหาเขาช้าๆ “อรุณสวัสดิ์ค่ะ”
“อรุณสวัสดิ์ครับ อันนี้อาหารเช้า” ลาเต้หยิบถุงที่วางอยู่ข้างหลังตนเองออกมายื่นให้เธอ “ซาลาเปาและน้ำเต้าหู้ของร้านทองสุกคุณชอบกินมันที่สุด”
เมื่อสัมผัสไปพบว่ายังร้อนอยู่ ในใจมายมิ้นท์ก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมา เธอยิ้มแล้วตอบว่า “ลาเต้ คุณดีกับฉันจัง”
“เหอะๆ ใครสั่งให้คุณเป็นที่รักของผมล่ะ รีบขึ้นรถเข้าเถอะ” ลาเต้เปิดประตูรถทางด้านหลังให้แก่เธอ
ระหว่างทาง มายมิ้นท์กำลังกินซาลาเปาและจู่ๆ ก็นึกขึ้นมาได้จึงเอ่ยถามเขาว่า “ลาเต้คะ คุณรู้จักใครในวงการแฮกเกอร์ที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับเราและชอบจิ้งจอกไหม?”
เมื่อลาเต้ได้ยินคำพูดนี้ ดวงตาของเขาก็เป็นประกาย “ที่รัก คุณถามเรื่องนี้ทำไมกัน?”
“เมื่อคืนนี้ฉันโทรศัพท์คุยกับชายเจ้าเล่ห์ ก็คือคนที่ลักพาตัวส้มเปรี้ยวไปน่ะค่ะ” มายมิ้นท์ดื่มน้ำเต้าหู้เสร็จแล้วตอบเขา
ลาเต้ส่ายหน้า “ผมไม่รู้จักครับ พวกเราโตมาด้วยกัน ถ้าคุณไม่รู้จักแล้วผมจะรู้จักได้ยังไง ว่าแต่เขาพูดอะไรกับคุณเหรอ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...