“ไม่ ฉันไม่ไป!” ขนมผิงส่ายหน้าอย่างรวดเร็วและเดินถอยหลังหนี
เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสองคนทำท่าทางเคร่งขรึมพูดว่า “ถ้าคุณไม่ยอมไปกับเรา หมายความว่าคุณตั้งใจหลบหนีการจับกุม และจะเพิ่มคดีอาชญากรรมขึ้นอีกหนึ่งคดี”
ขนมผิงตกใจมากเธอรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นแนบหูแล้วพูดว่า “ส้มเปรี้ยว ตำรวจมาจับตัวฉันไปแล้ว เธอช่วยฉันด้วย ช่วยฉัน!”
แต่อีกฝ่ายหนึ่งไม่มีเสียงตอบสนองกลับมา ขนมผิงจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาดูและพบว่าปลายสายถูกวางไปตั้งนานแล้ว
วินาทีนี้จิตใจหัวใจของขนมผิงเยือกเย็นลงถึงขั้นสุด เธอทรุดลงนั่งกองที่พื้น
ตำรวจทั้งสองคนมองหน้ากันแล้วเข้าไปจับกุมตัวเธอออกไปจากที่นั่น
“สวัสดีครับคุณมายมิ้นท์” เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจขึ้นรถ ตำรวจคนที่แสดงบัตรประจำตัวเมื่อสักครู่ก็ติดต่อกับมายมิ้นท์ “ตอนนี้เราจับตัวผู้ร้ายได้แล้วครับ”
“ค่ะ รบกวนพวกคุณด้วยนะคะ” มายมิ้นท์ยิ้มแล้วเอ่ยขอบคุณ
จากนั้นก็สิ้นสุดการสนทนา
ลาเต้หยิบถ้วยกาแฟวางไว้ด้านหน้าเธอ “ใครน่ะ?”
“คนจากสถานีตำรวจค่ะ” มายมิ้นท์ยกแก้วกาแฟขึ้นมาจิบไปอึกหนึ่ง
ลาเต้เข้าใจได้ทันที “ติดต่อเรื่องจับกุมขนมผิงเหรอ?”
“ใช่แล้ว” มายมิ้นท์พยักหน้า
ลาเต้หัวเราะออกมาอย่างมีความสุข “ผมรู้มาว่าท่านประธานตระกูลมหาเอกรัตนาอยากจะให้ขนมผิงแต่งงานกับบริษัทมั่งคั่งมาโดยตลอด ตอนนี้ขนมผิงเกิดเรื่องแบบนี้เข้า ตระกูลมั่งคั่งที่ไหนอยากจะเอาตนเองเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องแบบนี้กัน อีกอย่าง เหตุการณ์ในครั้งนี้ ส่งผลกระทบ ต่อ บริษัทตระกูลมหาเอกรัตนาด้วย คาดว่าประธานตระกูลมหาเอกรัตนา คงจะเกลียดลูกสาวคนนี้เข้ากระดูกดำเลยล่ะ”
“คุณพูดได้ถูกต้องเลยล่ะค่ะ” มายมิ้นท์หัวเราะขึ้น
ทันใดนั้นเองประตูห้องทำงานก็ถูกเคาะ ซินดี้โผล่ศีรษะเข้ามา “ประธานมายมิ้นท์คะ มีทนายความคนหนึ่งอยากจะเข้ามาพบค่ะ”
“ทนายความเหรอ?” มายมิ้นท์เลิกคิ้วขึ้นจากนั้นหันไปถามลาเต้ว่า “คุณหามารึไง?”
ลาเต้ส่ายหน้า “ผมจะไปเอาทนายความมาทำไมเล่า?”
ซินดี้ตอบกลับมาว่า “ทนายชัชวาลบอกว่ามาจากแผนกกฎหมายของนวบดินทร์กรุ๊ปค่ะ
“นวบดินทร์กรุ๊ป?” ลาเต้หรี่ตาลง “ที่รัก เป็นคนของเปปเปอร์ เมื่อเช้าที่คุณไปเปิดโปงเรื่องราวเหล่านั้น ทำให้เปปเปอร์ขุ่นเคืองใจ และจะฟ้องคุณรึเปล่า?”
มายมิ้นท์เม้มริมฝีปาก “จะใช่หรือไม่เดี๋ยวพบกันก็รู้ เชิญเขาเข้ามาได้”
“ค่ะ” ซินดี้พยักหน้า
ประมาณหนึ่งนาทีต่อมา ทนายชัชวาลก็เดินตรงเข้าไปด้านใน เขาโค้งคำนับมายมิ้นท์และลาเต้เล็กน้อย “ประธานมายมิ้นท์ประธานลาเต้ สวัสดีครับ!”
“เชิญท่านทนายนั่งก่อนสิคะ” มายมิ้นท์ทำท่าทางเชิญชวน
ทนายชัชวาลกล่าวขอบคุณและดึงเก้าอี้ที่อยู่ตรงข้ามกับเธอเพื่อนั่งลง
ลาเต้รินน้ำชาให้เขาแก้วหนึ่ง
ทนายชัชวาลกล่าวขอบคุณอีกครั้งก่อนจะเอ่ยถึงวัตถุประสงค์ที่เดินทางมาในวันนี้ว่า “ประธานมายมิ้นท์คงจะทราบแล้วว่าผมคือคนที่ประธานเปปเปอร์ส่งมาใช่ไหมครับ?”
“เขาจะฟ้องร้องฉันเหรอคะ?” มายมิ้นท์เอนกายไปที่พนักพิง สายตาจับจ้องไปที่เขา
ทนายชัชวาลยิ้มแล้วส่ายหน้า “ไม่ใช่หรอกครับ การที่ผมเดินทางมาในครั้งนี้เนื่องจากได้รับคำสั่งจากประธานเปปเปอร์ให้จัดการทรัพย์สินชดเชยการหย่าร้างให้คุณใหม่”
“ทรัพย์สินชดเชยหย่าร้าง?” ลาเต้อุทานออกมา
มายมิ้นท์เองก็ตกตะลึงเช่นกัน
ทนายชัชวาลหยิบเอกสารออกมาจากกระเป๋าฉบับหนึ่งแล้วพูดว่า “ประธานมายมิ้นท์ครับ นี่คือเอกสารการชดเชยในกรณีหย่าร้าง มีคฤหาสน์ห้าหลัง อพาร์ทเม้นท์สองหลัง รถห้าคัน และเงินชดเชยจำนวนสองร้อยล้าน เชิญคุณอ่านรายละเอียดครับ”
เขายื่นเอกสารไปให้เธอด้วยมือทั้งสองข้าง
แต่มายมิ้นท์ไม่ได้เอื้อมมือไปรับมัน
ด้านทนายชัชวาลก็ไม่ได้รู้สึกเขินอายแต่อย่างใด เขาวางเอกสารไว้บนโต๊ะแล้วยื่นไปตรงหน้าเธอ แต่กลับถูกลาเต้หยิบขึ้นมาอ่านก่อน
ลาแต่เปิดเอกสารดูแล้วหัวเราะอย่างเยือกเย็น “แค่นี้นะเหรอ? เปปเปอร์ทำได้แค่นี้หรือไง? ในเมื่อหย่าร้างกันแล้วทรัพย์สมบัติก็ควรจะแบ่งครึ่งสิ ถ้าอย่างนั้นหุ้นส่วนครึ่งหนึ่งของนวบดินทร์กรุ๊ปก็ควรจะแบ่งมาให้ที่รักของผมสิ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...