รักต่างวัยของเจ้านายจอมเก๊ก นิยาย บท 14

เมื่อรถพยาบาลวิ่งเข้ามาถึง บุรุษพยาบาลรีบเข็นนาราเข้าห้องฉุกเฉินอย่างรีบร้อน เพราะตอนนี้เธอเริ่มหายใจแผ่วเบาลงเรื่อยๆ หมอและพยาบาลวิ่งกันให้วุ่น เมื่อประตูห้องฉุกเฉินปิดลง หัวใจของผมมันกระวนกระวาย ผมกลัวว่านาราจะเป็นอะไรไป ผมนั่งไม่ติด ไม่สิผมไม่นั่งเลยต่างหาก ผมเดินไปเดินมาไม่รู้กี่ร้อยรอบ หัวใจของผมในเวลานี้ มันช่างเจ็บปวดเหลือเกิน ผมพาเธอมาพบเจอกับสิ่งที่เลวร้ายที่สุดในชีวิต ผมสัมผัสได้ถึงความกลัวของเธอ

เมื่อนาราโดนน้ำเมานั่นสาดใส่หน้า แววตาของเธอมันบ่งบอกและแสดงออกมาชัดเจนว่าเธอกำลังกลัว ไม่ต่างจากผมในเวลานี้ที่กลัวว่าเธอจะจากไป ผมเห็นแววตาของเธอแบบนั้น มันยิ่งทำให้หัวใจของผมแทบแตกสลาย เธอโชคร้ายถูกบิดาทิ้งไปในวัยเด็ก เธอต้องเผชิญกับความเจ็บปวดอะไรมาบ้าง

เธอเคยแพ้แบบนี้มาแล้วเกือบตาย และวันนี้ทำไมเธอต้องมาเผชิญเคราะห์กรรมซ้ำๆ ซากๆ ทั้งๆ ที่ผมยืนอยู่ตรงนั้นแท้ๆ กลับช่วยอะไรเธอไม่ได้เลย "พี่ภูพี่นั่งลงก่อนเถอะพี่สะใภ้ถึงมือหมอแล้วอยังไงก็ต้องปลอดภัย" ผมรู้คำพูดของน้องสาว มันเป็นเพียงแค่คำพูดปลอบเท่านั้นเพื่อให้ผมสบายใจขึ้น แต่ความเป็นจริงนารากำลังเผชิญและต่อสู้กับความตายอยู่เพียงลำพัง

ตอนนี้ใจของผมมันร้อนรุ่มไปหมดแล้ว เธออยู่ในห้องนั้นนานเท่าไหร่ผมก็ไม่รู้ แล้วอยู่ๆ พยาบาลคนหนึ่งก็วิ่งออกมา สวนกับหมออีกคนที่วิ่งเข้าไป มันดูวุ่นวายไปหมด

"คุณพยาบาลภรรยาของผมเป็นอย่างไรบ้างครับ"

“คุณใจเย็นๆ ก่อนนะคะ คนไข้หัวใจหยุดเต้นคุณหมอกำลังปั๊มหัวใจ เพื่อช่วยชีวิตเธออยู่ ดิฉันขอตัวก่อนนะคะ" เมื่อพยาบาลคนนั้นวิ่งออกไป

ผมถึงกับทรุดตัวลงกับพื้น เงินทองมากมายที่ผมมี ในเวลานี้ ไม่สามารถทำอะไรได้เลย อยู่ๆ น้ำตาของลูกผู้ชายก็ไหลออกมา ทั้งที่มันเคยไหลครั้งสุดท้ายและครั้งเดียวก็คือวันที่บิดาของผมเสียชีวิตลง แม้แต่พลอยผู้หญิงที่ผมเคยรักทิ้งผมไปมีรักใหม่กับชายอื่น ผมก็ไม่เคยเสียน้ำตาให้กับเธอแม้แต่หยดเดียว แต่เวลานี้น้ำตาของผมมันไหลออกมาราวกับเขื่อนแตก ถ้าไม่มีนาราผมไม่รู้เลยว่าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ยังไง

 นับดาวนั่งมองพี่ชายสุดที่รักด้วยความรู้สึกสงสาร ซึ่งเวลานี้เธอสุดที่จะกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้ พี่ชายของเธอคงได้ตกหลุมรักเด็กคนนี้เข้าให้แล้วเต็มเปา น้องสาวนั่งลงไปโอบปลอบพี่ชาย ก่อนจะลูบที่หลังเบาๆ เพื่อปลอบโยน

"พี่ภูน้องรู้ว่าพี่รักนารามาก แต่พี่ช่วยมีสติกว่านี้หน่อยจะได้ไหม น้องขอร้อง น้องทนเห็นพี่เป็นแบบนี้ไม่ได้แล้ว" นับดาวพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ หญิงสาวพยายามกอดปลอบพี่ชาย แต่ตัวเองกลับพูดออกมาปนเสียงสะอื้น ในขณะที่นับดาวกำลังปลอบพี่ชายอยู่นั้น ผู้เป็นมารดาก็เดินปรี่เข้ามาหน้าห้องฉุกเฉิน

"ตาภูนี่แกจะเสียใจอะไรนักหนา รู้ไหมว่าแกทำให้บริษัทของเราขาดทุนเป็นพันล้าน! พ่อหนูเจสซี่เขายกเลิกออเดอร์ทั้งหมด ฉันไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่าแกดี"

"แม่! แม่ไม่เห็นเหรอว่าพี่ภูกำลังเสียใจ พี่สะใภ้ก็ยังไม่ออกมาจากห้องฉุกเฉิน"

"ก็แค่เด็กคนเดียวจะอะไรกันนักหนา" ภูตะวันที่ฟังอยู่ตอนนี้ความเสียใจของเขายิ่งทวีคูณ เมื่อผู้เป็นมารดา เห็นชีวิตของผู้หญิงที่เขารักเป็นเพียงแค่ผักปลาเท่านั้น

"ชีวิตของนารามีค่ากว่าเงินทองพวกนั้น ถ้าแม่จะมาเพียงเพราะธุรกิจของแม่ ผมขอร้อง แม่กลับไปเถอะครับ" คำพูดของมารดามันไม่ต่างอะไรกับหอกดาบ ที่กำลังทิ่มแทงลงมาที่ขั้วหัวใจของผม กำลังใจที่ผมได้รับจากคนเป็นแม่คือคำพูดที่ไม่แยแสต่อคนป่วย ซึ่งนารากำลังนอนรักษาชีวิตให้รอดจากความตาย ในห้องสี่เหลี่ยมนั่น ทำไมแม่ถึงใจร้ายแบบนี้

เงินทองเรามีเยอะแยะแค่ความสุขเล็กๆ น้อยๆ ของผม แม่ก็ให้ไม่ได้หรือยังไง แม่จะรู้ไหมว่าผมเจ็บปวดแค่ไหน กับคำพูดที่ไม่รักษาน้ำใจของผมเลยสักนิด ภูตะวันเดินไปยืนอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน ภายในในใจของเขาได้แต่ภาวนา อย่าให้นาราเป็นอะไรไปเลย

เวลาผ่านไปผู้คนมากมายที่นั่งอยู่บนศาลา นั่นเป็นเพราะว่าผมเป็นถึงประธานบริษัท จึงเป็นที่รู้จักของคนจำนวนมาก พวกเขามาโดยที่ผมไม่ได้แจกนามบัตรการ์ดเชิญ

ผมนั่งมองรูปนาราที่ตั้งอยู่หน้าโลงศพ ผมร้องไห้ปิ่มจะขาดใจ น้ำตาของลูกผู้ชายไหลออกมาอย่างไม่อายใคร เธอเข้ามาทำให้ชีวิตของผมมีสีสัน แต่เวลานี้เธอกำลังจะทำให้ชีวิตของผมมืดมน ไม่ว่าใครจะทำอะไรหรือพูดอะไร ผมก็เอาแต่จ้องรูปของเธอไม่มีอีกแล้วยัยจอมจุ้นของผม

"พี่ภูทานอะไรหน่อยสิ พี่ไม่ทานอะไรมาหลายวันแล้วนะ เดี๋ยวก็ไม่สบายเป็นอะไรไปอีกคนหรอก" คำพูดของนับดาวไม่ได้มีผลอะไรกับผมเลยสักนิด ผมยังคงนั่งที่เดิมไม่ไปไหน ยังคงจดจ่ออยู่ที่รูปของนารา ผมไม่มีแม้กระทั่งแรงจะหายใจด้วยซ้ำในเวลานี้

"ตาภูหนูนาราเธอไปดีแล้ว เธอไปสบายแล้ว เราต้องอยู่ให้ได้ แม่เข้าใจ แม่ก็เคยสูญเสียคนที่แม่รักไปเหมือนกัน" คำพูดของมารดามันก็เป็นเพียงแค่ปลอบประโลมเท่านั้น ผมอยู่กับเธอทุกวันแม้จะเป็นเพียงแค่ระยะเวลาสั้นๆ แต่เธอก็ทำให้ผมรักจนหมดใจได้ไม่ยาก เธอจะเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวในชีวิต นับต่อจากนี้จะไม่มีใครมาแทนที่เธอได้อีก ขณะที่ผมนั่งเหม่ออยู่นั้น ก็มีผู้หญิงวัยกลางคนเดินตรงมา เธอจับจ้องมองผมด้วยแววตาที่โกรธแค้น

"ลูกสาวฉันต้องมาตายเพราะคุณ คุณเป็นคนทำให้นาราต้องตาย!" ไม่มีคำพูดใดๆ เปล่งออกจากปากของผม ผู้หญิงคนนี้พูดถูก ผมเป็นคนทำให้นาราต้องตาย นาราต้องมาตายเพราะผม ใช่! นาราต้องตายเพราะผม ผมร้องไห้สะอึกสะอื้นท่ามกลางแขกที่มาร่วมงานหลายร้อยคน ผมไม่อายใครเลยสักนิด เมื่อชีวิตของผมไม่มีเธอ

ผมยังคงก้มหน้าก้มตาร้องไห้สะอึกสะอื้นจนตัวสั่นเทา ไม่มีอีกแล้วนาราของผม นับต่อจากนี้ชีวิตของผมจะเป็นยังไง มันคงไม่มีค่าไม่มีความหมาย ถ้าหากไม่มีนารา ผมจะนอนหลับตาลงได้ยังไง ในคืนที่เหน็บหนาว ผมคงจะผ่านมันไปไม่ได้ ชีวิตที่ไม่เคยคิดจะเอาใครเข้ามาพันผูก แต่เวลานี้ผมกลับถูกนาราขโมยหัวใจไปครอบครองจนสิ้นแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักต่างวัยของเจ้านายจอมเก๊ก