รักต่างวัยของเจ้านายจอมเก๊ก นิยาย บท 13

ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง นั่นคือวันเกิดของผม ผมกำชับนับดาวให้ดูแลนาราเป็นอย่างดี วันเกิดผมปีนี้รู้สึกมารดาของผมจะจัดยิ่งใหญ่กว่าทุกปี ไม่รู้ว่าแม่กับเจสซี่ร่วมมือกันคิดจะทำอะไรบ้าง นับดาวจัดการแปลงโฉมให้กับนารา ยังกะคนละคน เธอดูสวยสง่าสมกับเป็นภรรยาของท่านประธานเสียจริง

"น้องต้องดูแลนาราให้ดี ห้ามเอาเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ให้เธอและห้ามให้เธอเข้าใกล้ เพราะเธอแพ้แม้แต่กลิ่นของมัน"

"โอ้โห! ขนาดนั้นเชียเหรอพี่ เธอแพ้แม้กระทั่งกลิ่นเนี่ยนะ นาราคือผู้โชคดีหนึ่งในล้านชัดๆ เดี๋ยวน้องจะดูแลเมียของพี่ มดไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม น้องจะยอมตายแทนเธอเองโอเคไหมคะพี่ชาย"

"ดีมากน้องรัก"

"น้องประชด! พี่รีบออกไปเถอะแขกทยอยมาเต็มงานแล้ว เดี๋ยวคุณแม่ก็เอ็ดเอาอีก" ก่อนออกไปที่ห้องจัดงาน ผมกลับเข้าไปหานาราอีกครั้ง เพราะตอนนี้เธอแต่งตัวรออยู่ในห้องของโรงแรม ผมรู้สึกเป็นห่วงเธอ ไม่รู้ว่าวันนี้จะเจอกับอะไรบ้าง

"จำได้ไหมที่บอก ระวังอย่าเข้าใกล้แอลกอฮอล์เป็นอันขาด”

"ลุงบอกฉันในรอบที่ร้อยแล้วนะ วันนี้ฉันจำขึ้นใจแล้วแหละ"

“นี่! บอกแล้วไงห้ามเรียกลุง"

"ก็มันติดปากไปแล้วนี่นา"

"ฉันขอแค่วันนี้วันเดียว เธอต้องเรียกฉันว่าพี่ภู แล้วแทนตัวเองว่านาราเข้าใจไหม"

"เข้าใจแล้ว"

"ไหนลองเรียกดูซิ"

"พะ..พะ..พี่ภู"..ฉันพูดติดอ่างจนได้ ก็คนมันไม่เคยเรียกนี่นา

"เอาใหม่ไหนลองพูดตามฉัน พี่ภูนาราจะเชื่อฟังที่พูดค่ะ"

โอ๊ย! อะไรของเขาก็ไม่รู้ ฉันเขินเป็นเหมือนกันนะ เมื่อใช้สรรพนามใหม่ๆ ใจฉันมันเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะ เมื่ออยู่ใกล้กันสองต่อสองในห้องนี้ แล้วเขาก็ก้มหน้าเข้ามาใกล้ ขอย้ำว่าใกล้มาก เขาจะทำให้ฉันเขินไปถึงไหนเนี่ย

"เร็วสิรีบพูดตาม" "พี่ภูนาราจะเชื่อฟังพี่ภูค่ะ พอใจหรือยัง" ฉันพูดพร้อมกับเงยหน้าขึ้น ลืมไปว่าใบหน้าของเขากับฉันอยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ ในเวลานี้ทั้งสองต่างมองหน้าและสบตากัน มันมีความหมายลึกซึ้งภายใต้ดวงตา ของเขาและเธอ นี่แหละที่เขาเรียกว่าดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ

ใบหน้าของหญิงสาวที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางเพียงบางๆ แต่ด้วยใบหน้าที่สดใสและสวยอยู่แล้ว ทำให้เธอยิ่งสวยเพิ่มขึ้น มันยิ่งทำให้ชายหนุ่มหลงใหลในใบหน้าและความงามของเธอ จนชายหนุ่มอดใจไม่ไหว เขาค่อยๆ โน้มใบหน้าลงต่ำ ก่อนจะทาบริมฝีปากลงไปที่เรียวปากได้รูปอย่างนุ่มนวล สัมผัสของเขาทำให้หญิงสาวเคลิ้มตามชั่วขณะ เมื่อเธอได้สตินาราผลักเขาออก แล้วเบือนหน้าหนีอย่างเขินอาย ใบหน้าที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางสีชมพูอ่อนๆ นั่น

แต่ในเวลานี้มันแดงเป็นลูกตำลึงสุก เธออายเสียจนพูดอะไรไม่ออก เมื่อเสียจูบแรกให้กับชายตรงหน้า ภายใต้ความเงียบงันภูตะวันจึงเอ่ยขึ้น เพื่อคลายความเขินอายให้กับหญิงสาวตรงหน้า

"ขอโทษนะ แต่จูบเมื่อครู่นี้ฉันตั้งใจ นับดาวจะเข้ามาดูแลเธอนะ แล้วอย่าเข้าใกล้แอลกอฮอล์ พี่ไปก่อนแล้วเจอกันที่งาน" เขาพูดพร้อมกับลูบที่เส้นผมเงาของเธอเบาๆ ก่อนจะเดินออกไป

นาราทำเพียงแค่พยักหน้าให้เขาเท่านั้น และยังคงหลบสายตาคมไม่กล้ามองหน้าเขา จูบแรกที่ภูตะวันได้ไป เวลานี้มันยังตราตรึงติดอยู่ภายในใจของเธอ

"ยิ่งอยู่ใกล้ยิ่งอันตรายตาลุงบ้า" ฉันพูดคนเดียวเบาๆ ก่อนจะได้ยินเสียงคนเปิดประตูเข้ามา

"พร้อมไหมคะพี่สะใภ้" "คุณนับดาวเรียกนาราเฉยๆ ก็ได้ค่ะ"

"ไม่ได้พี่สะใภ้ก็คือพี่สะใภ้และห้ามเรียกว่าคุณนับดาว เรียกว่านับดาวเฉยๆ ก็พอ"

"แต่นาราว่ามันไม่เหมาะ"

"ไม่มีแต่แล้วค่ะ พร้อมหรือยังคะพี่สะใภ้ งานจะเริ่มแล้วเราไปกันเถอะ ไม่ต้องกลัว พี่ภูให้นับดาวมาดูแลพี่สะใภ้อย่างดีวางใจได้" นับดาวพานาราเดินเข้ามาในงาน ท่ามกลางความสงสัยของเหล่าบรรดาแขกที่มาร่วมงาน เพราะใครต่างก็รู้จักนับดาว ทายาทคนเล็กของ x x y group จำกัด

แต่ที่ทุกคนจับจ้องกลับเป็นหญิงสาวในชุดราตรียาว ที่สวยสะดุดตา ซึ่งเดินคู่มากับนับดาวนั้นต่างหาก เพราะนาราดูสวยเสียจนคนมองไม่อยากละสายตาไปทางอื่น แล้วนับดาวก็พานาราไปยังกลุ่มเพื่อนของเธอที่นั่งรออยู่แล้ว

"ทางนี้นับดาว"

"เพลงจบแล้ว เจสซี่ว่าเราไปที่เวทีกันดีกว่าค่ะ”

"ต่อไปเวลาที่ทุกคนรอคอยมาถึงแล้วนะคะ ขอเชิญทุกท่านเตรียมร้องเพลงวันเกิดให้กับคุณภูตะวันด้วยค่ะ" พิธีกรพูดจบพร้อมกับแสงไฟก็ดับมืดลง เวลานี้มีเพียงประกายไฟจากแสงเทียนในเค้กเท่านั้น ทุกคนต่างร้องเพลงสุขสันต์วันเกิด ให้กับท่านประธานหนุ่มอย่างพร้อมเพรียงกัน พอเพลงจบแสงสว่างก็กลับมาอีกครั้ง โดยมีผู้เป็นมารดาและเจสซี่ยืนอยู่ข้างๆ ภูตะวัน

"ขอให้ลูกมีความสุขมากๆ สมหวังในทุกเรื่อง เจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน สุขภาพแข็งแรง แม่รักลูกนะ" พูดจบมารดาของเขาก็โอบกอดลูกชายเอาไว้ ก่อนจะหอมแก้มซ้ายขวาของลูกชายคนโต ด้วยความรักในความเป็นภูตะวัน

"ขอให้พี่ภูมีสุขภาพแข็งแรง หล่อแบบนี้ตลอดกาล และเป็นคนที่น่ารักแบบนี้ตลอดไป เจสซี่รักพี่ภูนะคะ" แล้วไฮไลท์ของงานก็เริ่มขึ้น เมื่อมีเด็กสองคนชายหญิง ถือช่อดอกไม้ขึ้นไปบนเวทีแล้วส่งให้ภูตะวันส่วนเด็กชายข้างๆ ยื่นกล่องตลับแหวนเพชรเม็ดโตให้กับชายหนุ่ม ภูตะวันยังคงมีท่าทียืนงงและยังนิ่งกับสิ่งที่เกิดขึ้น

"แม่อยากให้ภูหมั้นกับหนูเจสซี่ไว้ก่อน” พูดจบนางก็หยิบแหวนออกมา ทุกคนด้านล่างและบนเวทีต่างก็ถือแก้วไวน์ไว้ขึ้นดื่ม เตรียมแสดงความยินดีกับคนทั้งคู่ เนื่องจากมารดาและเจสซี่ได้เตรียมการไว้แล้ว ภูตะวันเดินไปหยิบไมค์จากพิธีกร เพราะเขาไม่สามารถทำตามคำขอของผู้เป็นมารดาได้ ที่สำคัญหัวใจทั้งสี่ห้องไม่เคยรับเจสซี่เข้ามาเลยด้วยซ้ำ เมื่อมันได้กลายไปเป็นของนาราไปแล้ว

"ผมคงหมั้นกับคุณเจสซี่ไม่ได้ ผมต้องขอโทษคุณเจสซี่และคุณพ่อของคุณเจสซี่ รวมทั้งคุณแม่ของผม พร้อมทั้งแขกผู้มีเกียรติทุกท่านที่มาร่วมงานด้วยนะครับ" ตอนนี้เจสซี่โกรธมาก เธอยืนตัวสั่นกำมือแน่น เก็บอาการแทบไม่อยู่กับสิ่งที่ภูตะวันประกาศออกไป

"ทำไมแกจะหมั้นกับหนูเจสซี่ไม่ได้ อธิบายมาซิ" ภูตะวันส่งซิกให้กับนับดาว เพื่อพานาราขึ้นมาบนเวที เมื่อขึ้นมายังเวทีนาราตื่นเต้นมาก เพราะอยู่ท่ามกลางคนหลายร้อย ภูตะวันพอจะเข้าใจสถานการณ์เขาจึงโอบไหล่เธอไว้ เพื่อคลายความตื่นเต้นให้กับนารา จากนั้นเขาได้ประกาศเสียงกึกก้องให้บรรดาแขกทุกคนได้รู้จักกับนารา ภรรยาของเขา

"ผมขอแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักนารา ภรรยาของผม เราคบกันได้สักพักแล้ว เธอไม่ชอบออกงานและเธอมักจะเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน เราเลยจดทะเบียนสมรสกันเงียบๆ ครับ" พอภูตะวันพูดจบ มารดาของเขาไม่พอใจมาก เจสซี่ที่ยืนฟังด้วยความโกรธแค้น เธอคว้าเอาแก้วในมือพิธีกร แล้วสาดน้ำแอลกอฮอล์อยู่ในนั้นใส่หน้านาราเต็มๆ

"เจสซี่คุณทำอะไรลงไปคุณรู้ตัวหรือเปล่า" ภูตะวันพูดปนตะคอกด้วยความโกรธ เพราะเขาเป็นห่วงนารามาก ก่อนจะรีบเอาผ้าซับหน้าให้กับเธอ สักพักนาราก็ล้มลงอยู่ภายใต้อ้อมกอดของท่านประธานหนุ่ม ร่างกายของเธอเริ่มหมดแรง การหายใจเริ่มหอบถี่ขึ้น เหมือนคนกำลังจะสิ้นใจ

"นารา! นารา! เธออย่าเป็นอะไรไปนะ เธอเป็นอะไรไม่ได้นะ! ใครก็ได้เรียกรถพยาบาลให้ที นับดาวโทรเรียกรถพยาบาล!" นับดาวรีบกดโทรศัพท์เรียกรถพยาบาล แขกในงานต่างตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ มารดาของภูตะวันกับเจสซี่ก็ยังยืนงง

"นารามองหน้าฉัน! เธออย่าเป็นอะไรนะมองหน้าฉันไว้..เดี๋ยวรถพยาบาลก็มาแล้วห้ามหลับ อย่าหลับเป็นอันขาดนะนารา ฉันขอร้อง" ภูตะวันเอามือลูบลงที่แก้มของเธอเบาๆ ไปมา เพื่อพยายามเรียกสติของเธอไม่ให้หลับ

"นาราหายใจไม่ออก พี่ภูนาราหายใจไม่ออกแล้ว"

นาราเอามือกุมไว้ที่อก เสียงของเธอแผ่วเบา ยิ่งทำให้ผมร้อนรนใจ เวลานี้เพียงนาทีกับการมาของรถพยาบาลก็ช้ามากสำหรับผม หากเธอเป็นอะไรไป ผมจะไม่ให้อภัยตัวเอง ผมโมโหที่กำชับให้นับดาวดูแลเธอให้ดีๆ แต่ผมที่ยืนอยู่ข้างๆ เธอแท้ๆ กลับดูแลและปกป้องเธอไม่ได้เลย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักต่างวัยของเจ้านายจอมเก๊ก