ทั้งรู้สึกภูมิใจและประสบความสำเร็จเมื่อเห็นเขาเกิดอารมณ์จนยากจะควบคุมเพราะตัวเองและไร้ทางปลดปล่อยนั่น
เมื่อทนไม่ไหวเย่เซียวจะพลิกตัวคร่อมเธอที่แสนซุกซนไว้ใต้ร่าง มือหนึ่งตะครุบสองมือเธอพลางพูดตักเตือน ‘ถ้าซนอีก ผมจะจัดการคุณจริงๆ แล้วนะ!’
เวลาไฟราคะกำลังกลืนกินตัวเขา ดวงตาคู่นั้นแทบพ่นไฟออกมาให้ได้
เธอจะหัวเราะอย่างได้ใจ ดวงตาฉ่ำวาวเป็นประกาย ‘ฉันไม่กลัว ฉันมียันต์ป้องกันตัว’
‘รอญาติของคุณกลับไปก่อนเถอะ ผมมีโอกาสสั่งสอนคุณอีกเยอะ’
‘แต่ฉันยังอายุน้อยอยู่เลยนะ คุณทำใจรังแกฉันลงเหรอ?’ เห็นได้ชัดว่าเธอถูกตามใจจนเกินไป รู้ว่าเขายอมรักและเอาใจเธอเช่นนี้ เขาถอนหายใจ ‘เพราะฉะนั้นคุณก็รีบๆ โตสักที ผมกลัวจะรอไม่ถึงสองปี…’
เมื่อนั้นบางครั้งไป๋ซู่เย่เคยคิดจะทุ่มทั้งตัว มอบตัวเองในวัยสิบแปดให้เขาเพราะเธอรู้ดีว่าระหว่างพวกเขา…อีกไม่ถึงสองปี…
จะไม่มีอนาคต…
“คุณคงไม่คิดว่าเหม่อลอยแล้วผมจะปล่อยคุณไปหรอกนะ?”
เสียงของเขาฉุดสติเธอกลับมา
นึกถึงอดีตแล้วกลับมาดูปัจจุบันเธอก็รู้สึกแสบจมูกและรู้สึกขมขื่นในใจ แต่ใบหน้ากลับจุดยิ้มจางๆ “สิบปีมาแล้ว ไม่คิดว่าความจำคุณจะดีขนาดนี้”
เย่เซียวหมดความอดทนเต็มทีโดยเฉพาะกับบางเรื่องที่คิดไม่ได้ หากนึกถึงแค่เห็นปากแดงระเรื่อขยับไปมาของเธอก็รู้สึกว่านั่นเป็นการยั่วยวน กระตุ้นเขา เขาต้องการให้เธอทำ! เพราะฉะนั้นไม่สนว่าคำพูดของเธอกำลังประชดประชันเขาอยู่หรือไม่ก็ทำแค่ขมวดคิ้วอย่างเจ็บปวด ครางฮึมในลำคอ “อย่าพูดมาก ยอมทำก็รีบทำ ไม่อยากทำก็ไสหัวออกไป!”
“ได้ ฉันตกลง” ไป๋ซู่เย่ลุยออกไปแล้ว เธอรู้ว่าเย่เซียวจงใจทำให้เธอขายหน้าจึงหาโจทย์ยากให้เธอ บางทีคิดว่าคงทำให้เธอล่าถอยไปได้ หรือบางทีนี่อาจทำให้เขารู้สึกดีขึ้น แต่เธอไม่ใช่คนที่จะยอมถ่าลอยได้ง่ายๆ
ปัดผมลอนยาวที่เพิ่มความเย้ายวนนั่นไปด้านหลัง เรียกกำลังใจให้ตัวเองก่อนย่อตัวนั่งกับพื้น
เธอไม่อยากให้เขารู้ว่าขณะที่นิ้วมือตัวเองแตะโดนขอบกางเกงเขา ปลายนิ้วและลมหายใจสั่นระริก เธอเตรียมใจไว้อย่างดีแล้วแท้ๆ แต่พอทุกอย่างปรากฏต่อหน้าตัวเองเธอก็รู้สึกมึนไปชั่วขณะ ลมหายใจขาดห้วง
เธอในอดีต ทำไมถึง…ใจกล้าได้ขนาดนั้น และหน้าไม่อายได้ขนาดนั้น?
เธอนั่งย่อกับพื้น ผมสยายลงถึงเอว เสื้อผ้าบนตัวไม่เป็นระเบียบ ปากอุ่นร้อนเข้าใกล้เขาอย่างยิ่ง
ท่าทางเช่นนี้แค่ดูแวบเดียวก็ทำเอาเลือดในกายของชายหนุ่มพลุ่งพล่าน
เขาสามารถรับรู้ถึงลมหายใจที่ปนกลิ่นหอมหวานของเธอแตะโดนจุดที่อ่อนไหวที่สุดของเขา เขาหายใจหนักอึ้งมากขึ้น ความต้องการฉายให้เห็นผ่านแววตาจนเขาแทบบ้ากับความรู้สึกนี้
…………………………
หนึ่งนาทีหลังจากนั้น…
“****!” เสียงสบถต่ำหลุดออกมาปนเสียงครางผะแผ่วที่แว่วมา
จากนั้นเป็นรอยยิ้มจางๆ อย่างสมน้ำหน้าของหญิงสาว
ผู้หญิงบ้านี่ นี่เอาใจเขาที่ไหนกัน?! กล้ากัดเขางั้นหรอ!
ความเจ็บที่ทำให้ขนลุกไปทั่วหนังศีรษะ
เขากัดฟันกรอด ใช้สายตาดุดันแบบอยากฆ่าคน จ้องเธอ “ไป๋ซู่เย่ อยากตายหรือไง!”
“ดูเหมือนว่าจะทำต่อไม่ได้แล้ว” มองจุดที่อ่อนลง เธอลุกขึ้นกะพริบตาที่ปริ่มด้วยหลากหลายความรู้สึก “ซอรี่นะ ไม่ได้ทำนานเกินไป ไม่ค่อยมีประสบการณ์น่ะ”
รอยยิ้มนั่น…
เย่เซียวยืนนิ่งค้าง
ท่าทางน่ารักอย่างนั้นอีกแล้ว…
อยู่ๆ เหมือนเขาตกลงแม่น้ำสายยาวแห่งความทรงจำ ทำเขาแยกไม่ค่อยถูกว่าตอนนี้เป็นเวลาปัจจุบันหรืออดีต หรือแยกไม่ออกระหว่างความจริงกับภาพลวงตา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก!