ไป๋ซู่เย่กลับมาถึงห้องของตัวเองกำลังชั่งใจว่าควรเตรียมของอะไรไปที่บ้านเขาบ้าง
ไป๋หลางโทรมา “รัฐมนตรี เป็นยังไงบ้าง? เย่เซียวกับซ่งกั๋วเหยาร่วมมือกันจริงหรือครับ?”
“เปล่า”
“คุณโน้มน้าวเขาได้เหรอ?”
“อืม”
“คุณโน้มน้าวเขายังไง?” ไป๋หลางถามด้วยความสงสัย “จากความสัมพันธ์ของพวกคุณ เขาไม่น่าจะโน้มน้าวได้ง่ายขนาดนั้นนะ”
“นายถามมากขนาดนี้ วันนี้ว่างเหรอ?”ไป๋ซู่เย่ไม่อยากพูดเรื่องของตัวเองกับเย่เซียวไปมากกว่านี้
“งานยุ่งจนหัวหมุนเลย”
ไป๋หลางโอดครวญทีก่อนวางสายไป แต่ตระกูลซ่งไม่มีเย่เซียวเป็นแรงสนับสนุนนับว่าช่วยลดความสุ่มเสี่ยงแก่พวกเขาได้บ้างทีเดียว
ไป๋ซู่เย่เองก็ไม่มีของอะไรต้องเก็บมาก ยี่สิบแปดวันเองไม่จำเป็นต้องเอาของไปเยอะ หรือบางที…อาจไม่ถึงยี่สิบแปดวันเย่เซียวก็อาจจะรำคาญเธอเสียก่อน
…………………………
สามชั่วโมงต่อมาเมื่อไป๋ซู่เย่ลากกระเป๋าเดินทางมาถึงปราสาทของเย่เซียว น่าหลันกำลังวาดรูปอยู่ในห้องโถง ไป๋ซู่เย่ยืนอยู่ข้างนอกมองเข้าไปเห็นสี กระดานวาดและอุปกรณ์หลากหลายรูปแบบเต็มห้องโถง เธอก็นิ่งไปชั่วขณะ
เมื่อก่อนตัวเธอชอบวาดรูปมาก นักวาดที่ชื่นชอบมากที่สุดคืออเล็กซ์ เย่เซียวเคยซื้อภาพวาดของอเล็กซ์ ในราคาสูงลิ่วเพื่อมอบให้เธอเป็นการปลอบโยน
เพียงแต่ภายหลัง…
บ้านหลังที่เคยเก็บความทรงจำทั้งหมดของเธอล้วนกลายเป็นเถ้าผงในกองเพลิง จนวันนี้เหลือเพียงเศษซากความทรงจำในอดีตของพวกเขา…
“โอเค เสร็จแล้ว!” น่าหลันวางพู่กันลงพรูลมหายใจยาว อาชิงพูดชม “คุณน่าหลัน คุณมีพรสวรรค์อย่างที่นายท่านเคยบอกไว้เลย”
“ฉันรู้ ในสายตาเธอไม่ว่าอะไรฉันก็ดีไปหมด น่าปวดหัวจริงๆ” น่าหลันส่ายหัวอย่างระอา
“แต่ไม่ใช่แค่สายตาดิฉันนะคะ ในสายตาของนายท่านคุณเองก็ดีไปหมด แถมยังดีที่สุดด้วย” อาชิงพูดอย่างอิจฉา “คุณดูในบ้านหลังนี้สิ มีอย่างไหนบ้างที่ไม่ใช่สิ่งที่คุณชอบ? แม้แต่นาฬิกาตั้งพื้นนั่น หยูอันต้องมาถามความเห็นคุณก่อนถึงลากกลับมา ยากที่จะคิดได้จริงๆ ว่าคนที่เย็นชาอย่างนายท่านจะใส่ใจกับคนคนหนึ่งได้ขนาดนั้น”
น่าหลันหัวเราะ เหมือนหญิงสาวที่กำลังมีความสุขคนหนึ่ง
ไป๋ซู่เย่กวาดมองรอบข้างและเพิ่งจะรู้ว่าที่แท้การตกแต่งของบ้านหลังนี้ล้วนเป็นไปตามรสนิยมของน่าหลัน
ไม่อาจปฏิเสธได้ว่ารสนิยมของเธอไม่แย่เลยจริงๆ
และปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เย่เซียว…ตอนที่รักใครสักคนก็จะรักจนสุดหัวใจ…
“หือ? คุณมาได้ยังไง?”
อาชิงหันกลับมาก็เห็นไป๋ซู่เย่ที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตู
ไป๋ซู่เย่เพียงผงกหัวให้น่าหลันถือเป็นการทักทายเล็กน้อยก่อนจะถือกระเป๋าเดินทางเล็กๆ เดินเข้าไปข้างใน
“คุณทำอะไร?”อาชิงขวางทางเธอ “เมื่อวานโดนนายท่านไล่ไปยังไม่สำนึก วันนี้กลับถือกระเป๋าเดินทางมาแล้วเหรอ?”
กับความไม่เป็นมิตรจากอีกฝ่ายไป๋ซู่เย่ไม่แม้แต่ย่นคิ้วสักนิด แค่เชยตามองเธอนิ่งๆ แวบหนึ่ง
ทั้งที่ไร้อารมณ์ใดๆ แต่พอเห็นแววตานั่นอาชิงก็ชะงักนิ่ง จู่ๆ ก็ใจแป้วลงอย่างไม่ทราบเหตุผล
เธอขยับปากน้อยๆ สุดท้ายก็ทำแค่เบี่ยงตัวหลบทางให้
มีบางคนก็เป็นเช่นนี้ ไม่ต้องพูดอะไรและไม่ต้องทำอะไรก็ทำให้คนยอมจำนนได้ ออร่าเย็นชาแต่สูงส่งนั่นมาจากข้างใน ไม่ใช่สิ่งตกแต่งจากภายนอก
“คุณ…” พอได้สติ ไป๋ซู่เย่ก็เดินเข้ามาในปราสาทเสร็จสรรพ อาชิงหันกลับไปมองน่าหลัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก!