แต่เขาเพียงกวาดสายตาผ่านตัวเธอไปอย่างเฉยชาและเรียบนิ่งโดยไม่หยุดชะงักแม้แต่ชั่วพริบตา จากนั้นก็หันไปจรดสายตาที่เหมยอู่หลาง
เหมยอู่หลางก้าวไปข้างหน้ากอดกับเขา
“เพื่อนเก่า ไม่ได้เจอกันนานเลย”
เย่เซียวตบหลังเขาที “ไม่ได้เจอกันนาน”
“คุณเย่เซียวต้องไม่ได้เจอคุณเหมยนานแล้วแน่ๆ ถ้าไม่รังเกียจนั่งด้วยกันไหมครับ?” มีคนเสนอความคิด
ไป๋ซู่เย่คิดว่าเย่เซียวต้องปฏิเสธแน่นอน ในเมื่อไปคนละทางก็ไม่มีอะไรให้ต้องคุยกัน อีกทั้งบรรยากาศตอนนี้ออกจะอึดอัดไปนิด แต่ไม่คิดว่าเย่เซียวกลับพยักหน้าเบาๆ “ก็ดี”
ดังนั้น…
ทุกคนต่างลุกออกสละที่ตัวเองให้ ไป๋ซู่เย่ไม่อยากให้ตัวเองโดดเด่นจึงลุกตามทุกคนแม้ตอนนี้สติจะพร่ามัวมากก็ตาม ทีนี้ทุกคนได้ให้เขาเลือกจริงๆ แล้ว ซึ่งเกียรติแบบนี้คิดว่านอกจากประธานาธิบดีไป๋เย่ฉิงก็ไม่มีใครอื่นได้รับอีก
ภายใต้สายตาที่มองมาของทุกคน เย่เซียวนั่งลงข้างไป๋ซู่เย่ คนของกระทรวงความมั่นคงสีหน้าย่ำแย่ไม่เว้นแต่ละคน ไป๋ซู่เย่เองยังตกใจ
เย่เซียวกลับทำเหมือนไม่รู้สึกอะไรพลางกวาดสายตามองรอบข้าง “ทำไมทุกท่านไม่นั่งล่ะ?”
“อา นั่งๆๆ ทุกท่านนั่งเถอะ”
บนโซฟาตัวเดียวเดิมทีนั่งกันอยู่หกคนก็อึดอัดมากพอแล้ว ตอนนี้พอเย่เซียวมานั่งเพิ่มอีกคน รูปร่าสูงใหญ่และท่าทางน่าเกรงขามของเขานั่นยิ่งเรียกให้ไป๋ซู่เย่เริ่มหายใจลำบาก
ยิ่งเดาทางไม่ถูกถึงจุดประสงค์ที่เขามาที่นี่ ในเมื่อมาเพราะเหมยอู่หลางไม่ว่าอย่างไรก็ควรไปนั่งข้างเขาสิถึงจะถูก
เย่เซียวถูกกลุ่มคนพวกนั้นรุมล้อมอย่างอบอุ่น ทุกคนต่างขอชนแก้วอย่างกระตือรือร้นทำให้สถานการณ์คึกคักขึ้นมาทันตา เธออดพรูลมหายใจตามไม่ได้
เวลานี้เหมยอู่หลางเองก็ไปพูดคุยกับพวกเขาแล้ว แต่ยังเหล่สายตามาทางเธอเป็นระยะๆ ตอนนี้เธอกลับไม่คิดสนใจเพียงแค่เขยิบเข้าไปหาเย่เซียวอย่างไม่รู้ตัว ร่างกายเป็นไปตามอัตโนมัติเหมือนเมื่อสิบปีก่อนที่รู้สึกว่าขอแค่มีเขาอยู่ก็เหมือนมีภูเขาลูกใหญ่หนุนหลังอยู่ ตอนนี้ไม่ต้องการให้ไป๋หลางมาช่วยรับมือแทนเธอด้วยซ้ำ
เย่เซียวฟังคนทั้งกลุ่มคุยกันอย่างออกรสด้วยความตั้งใจแต่กลับรู้สึกได้ว่าหญิงสาวข้างกายขยับเข้าหาตัวเองเงียบๆ พื้นที่สำหรับเจ็ดคนเดิมทีก็ไม่พออยู่แล้ว พอเธอใกล้เข้ามาอีกจนร่างอ่อนนุ่มนั้นแนบชิดเขา กลิ่นหอมสดชื่นปนกลิ่นแอลกอฮอล์ก็ลอยคลอเคล้ามาทำให้แววตาเขาเข้มขึ้นเล็กน้อย หันกลับมาก็สบกับสายตาไม่ประสงค์ดีของเหมยอู่หลางพอดี
สีหน้าเย็นชาขึ้นทันที
เหมยอู่หลางเห็นแววตาคู่นั้นของเขาแล้วชะงักไปครู่ก่อนจะรีบถอนสายตาหลบหนี
“ไม่สบายเหรอ?” เย่เซียวก้มถามหญิงสาวข้างๆ เบาๆ ระยะห่างที่ใกล้เกินไปจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจของเขาที่ปะทะลงใบหูหญิงสาว ภาพนี้ดูแล้วชวนให้คิดไปไกลหน่อยๆ
“…มึนหัวนิดหน่อย แล้วก็ร้อนด้วย” เธอเมาแล้ว เสียงอ่อนลงเล็กน้อย ไม่เหลือท่าทางแข็งกร้าวเหมือนตอนเผชิญหน้ากับเขาอย่างปกติ
ได้ยินน้ำเสียงอ่อนลงของเธอเหมือนบางจุดของหัวใจเย่เซียวถูกจี้อย่างแรง ใจอ่อนลงทันที
เขาอดจะก้มมองเธออีกทีสองทีไม่ได้
ผมยาวสลวยของเธอสยายออก บางส่วนปรกลงมาตรงหน้า ดวงตาที่ซ่อนอยู่หลังเส้นผมล่องลอย แค่กลอกตามองเพียงนิดก็เหมือนการยั่วเย้าที่ไร้เสียง
ผู้หญิงคนนี้!
เมาทุกครั้งเลย
และอยู่กับผู้ชายกลุ่มหนึ่งตลอด?
คราวก่อนถูกหยูอันวางยาจนหมดสภาพขนาดนั้น เห็นได้ชัดว่ายังไม่จดจำบทเรียน!
ครั้งนี้โดนแมลงวันจอมตื๊ออย่างเหมยอู่หลางซะได้!
มีไฟนิรนามกำลังแผดเผาในอกเขา
“…เย่เซียว” จู่ๆ เธอขานเรียกชื่อเขาเบาๆ
เสียงเบามาก มีเพียงพวกเขาสองคนได้ยิน ยิ่งเหมือน…ชื่อเรียกจากปากคนรักมากกว่าเดิม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก!