อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก! นิยาย บท 640

“…ขอบคุณ”ระหว่างทานอยู่ในที่สุดไป๋ซู่เย่ก็ชิงเอ่ยทำลายความเงียบนี้ก่อน

“ไม่ต้องขอบคุณหรอก ผมไม่ได้ทำเพราะความหวังดี” เย่เซียวเชยตามองเธอแวบหนึ่ง “อย่าคิดว่าป่วยแล้วผมจะปล่อยคุณไป”

เธอยิ้ม “ฉันก็รู้ว่าคุณไม่ได้หวังดีแต่ก็ต้องขอบคุณ ไม่ว่ายังไงฉันดีขึ้นได้เพราะคุณให้ยาลดไข้”

“ยาพวกนั้นในกล่องยา…” เย่เซียวกล่าวถึงตรงนี้ก็หยุดมือที่ทานข้าวอยู่ มองเธอด้วยสีหน้าประชดน้อยๆ “ทำไม เรื่องสิบปีก่อนสร้างแผลในใจให้ท่านรัฐมนตรีไป๋อย่างนั้นเหรอ? ทำเรื่องแบบนั้นไปก็กลัวผีมาเคาะประตูกลางดึกเลยนอนไม่หลับ ซึมเศร้า มีปัญหาทางจิต?”

เขาไม่อยากยอมรับว่าน้ำเสียงของตนนั้นแฝงการลองเชิงปนคาดหวังอยู่บางส่วน

ปีที่แยกจากกันสำหรับเธอแล้วมีผลกระทบมากแค่ไหน? หรือว่าคนที่เจ็บปวดมาตลอดมีเพียงคนเดียว

แค่เขาคนเดียว?

ไป๋ซู่เย่ลมหายใจขาดห้วง

เธอไม่คิดว่าจะถูกเขาเห็นยาลับๆ เหล่านั้นของตัวเองเข้า เธอเป็นคนรักในศักดิ์ศรี ด้านที่อ่อนแอของตนหรือมุมที่ย่ำแย่ ไม่อยากให้คนอื่นรู้ โดยเฉพาะเขาไม่ได้เด็ดขาด

“ถึงฉันจะใจเหี้ยมแต่สิบปีก่อนก็มีคนตาย บางครั้งตอนนึกถึงเลยอดรู้สึกแย่ไม่ได้ แต่ไม่ถึงขั้นที่คุณคิดหรอก ยาพวกนั้นเป็นยาที่สายลับอย่างเราต้องพกติดตัว คุณไม่ต้องคิดมาก” ไป๋ซู่เย่จงใจแสดงท่าทีสบายๆ ตักโจ๊กข้าวปากหนึ่งคำก่อนจะกล่าวต่ออย่างไม่รีบร้อนอะไร “ตอนนั้นฉันแค่ปฏิบัติภารกิจตามคำสั่งของเบื้องบน ด้านหนึ่งฉันไม่ได้ทำผิดต่อรัฐ อีกด้านก็ทำตามหน้าที่ให้สมกับเงินภาษีของประชาชน ฉันจะต้องกลัวอะไรล่ะ?”

ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าเธอต้องมีปฏิกิริยานี้…ไร้ความปรานี สุขุมและโหดเหี้ยม แต่ขณะที่คำพูดเหล่านั้นกลั่นออกมาจากปากเธอนั้นยังคงทิ่มแทงโสตประสาทการรับรู้ของเขาอยู่ดี

“คุณไม่ได้ทำผิดต่อรัฐและประชาชน ถ้างั้น ไป๋ซู่เย่ คุณทำผิดต่อผมไหม?” จู่ๆ เขาคิดว่าการที่มาดูแลเธอที่นี่มันช่างเป็นการหาเรื่องใส่ตัวจริงๆ! “ผิดต่อลูกน้องที่ตายไปทั้งหมดของผมไหม?”

ทุกถ้อยคำคล้ายเล็ดลอดออกจากไรฟัน ใบหน้าฉายแววคุกรุ่นเต็มที ปลายนิ้วบีบปลายคางเธออย่างแรง

ไป๋ซู่เย่ในตอนนี้อ่อนแอเป็นทุนเดิมอยู่แล้วพอถูกเขาบีบเข้าสีหน้ากลับแย่ลงกว่าเดิมแต่ไม่ได้ขัดขืน แค่ใช้มือจับข้อมือเขาเบาๆ สายตาแน่วแน่สบตาเขานิ่ง “เรื่องความภักดีกับคุณธรรมมันอยู่คู่กันไม่ได้มาตั้งแต่อดีตกาลแล้ว ต่อหน้าผลประโยชน์ของประเทศชาติ ความสัมพันธ์พี่น้อง พ่อแม่ลูก คุณคิดว่า…เทียบกันได้ไหม?”

เทียบกันได้ไหม?! หมายความว่าในสายตาเธอ ความรักที่เขามอบให้ ล้วนเป็นแค่อาวุธที่เธอใช้ทำลายเขา!

“ฉะนั้น หากย้อนเวลากลับไปได้ คุณก็จะเลือกทางเดิม? ใช่ไหม?” ลมหายใจเขาหอบหนักขึ้นเรื่อยๆ

ขนตาเธอกะพริบสั่น สุดท้ายคำที่เปล่งเสียงออกมาจากระหว่างปากคือ “…ใช่”

หากเลือกใหม่ได้เธอจะเลือกอย่างไร? สิบปีมานี้ไป๋ซู่เย่เคยถามตัวเองมานับครั้งไม่ถ้วน สัจจะกับหน้าที่ สุดท้ายคงอนุญาตให้เธอเลือกหน้าที่สินะ…

เย่เซียวกระชับแรงที่มือจนเส้นเลือดตรงหน้าผากปูดโปน ดวงตาแดงก่ำทำให้เขาดูโกรธเกรี้ยวและป่าเถื่อน เขาอยากจะบีบเธอให้ตายทั้งอย่างนี้เสียจริง!

แต่ท้ายที่สุดก่อนที่อารมณ์จะอยู่เหนือการควบคุม เขาสะบัดมือปล่อยเธอก่อนจากไปด้วยความเย็นชา

ประตูกระแทกปิดรุนแรง ไป๋ซู่เย่นั่งอยู่ตรงนั้นและหายใจเข้าออกแรงๆ หลายทีลมหายใจถึงกลับมาลื่นไหลเหมือนเดิม แต่หน้าอกเหมือนยังมีก้อนหินมหึมากดทับไว้อยู่

ความจริงการที่ทั้งสองคนไม่เข้ากันเหมือนไฟกับน้ำแบบนี้ก็ดี ไม่อย่างนั้นอีกยี่สิบสองวันที่เหลืออยู่จะให้เธอปล่อยวางความสัมพันธ์นี้ได้อย่างไร แล้วจะโล่งอกได้อย่างไร?

เธอไม่มีความมั่นใจเลยสักนิด…

ไม่รู้ว่านั่งอยู่นานเท่าไรจวบจนโจ๊กบนโต๊ะเย็นหมดแล้ว โทรศัพท์เธอดังขึ้นเพียงครู่ หยิบมาดูเห็นว่าเป็นข้อความสั้นๆ

ช่วงนี้อย่าโผล่มาให้ผมเห็นหน้า ไม่อย่างนั้นรับผิดชอบผลเอง!

แม้อยู่ตรงหน้าจอโทรศัพท์ยังสัมผัสได้ถึงความขุ่นเคืองในน้ำเสียงเขาได้ ไป๋ซู่เย่วางโทรศัพท์ลงเงียบๆ

ดูเหมือนว่าสามสิบวันแสนสั้นนี้ เธอจะได้เปรียบเสียแล้ว…

………………………………

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก!