“ไป รีบไปเช็คสายไฟเร็ว!”
ภายในงานตกสู่ความมืดไม่เห็นกระทั่งปลายนิ้ว ทำให้เกิดความโกลาหลขึ้นกะทันหัน
ไป๋ซู่เย่กับอวิ๋นช่วนเองก็หยุดเต้นรำ “ดูเหมือนจะไฟดับ”
“อืม หรือว่าเรากลับกันตอนนี้เลย? อาจจะใช้เวลาสักพักไฟถึงจะมา”
“ก็ดี”
“คุณจับมือผมไว้ เผื่อคลาดกัน” อวิ๋นช่วนเอ่ยเตือนเธอ
ขณะที่ไป๋ซู่เย่ยกมือจะกุมมือเขากลับถูกมือที่พุ่งมาจากไหนไม่รู้ว่าคว้าข้อมือไว้ ไม่รอให้เธอได้ทันตั้งตัวจากนั้นมีแรงมหาศาลกระชากตัวเธอออกมาจากกลุ่มคนที่อยู่ฟลอร์เต้นรำ
รอเธอได้สติเจ้าตัวก็ถูกร่างแกร่งที่ร้อนผ่าวของชายหนุ่มผลักติดเสาสไตล์โรมันอย่างแรง
กลิ่นอายอันคุ้นเคยของชายหนุ่มโอบล้อมเธอ
ไม่ต้องถาม เธอก็รู้ว่าคือใคร
“เย่เซียว ฉันควรกลับไปแล้ว” เธอดันไหล่เขาลองเชิงทีหมายจะขืนตัวหลุดจากเขา แต่นอกจากจะไม่สำเร็จกลับถูกมือใหญ่ของเขาโอบเอวคอดไว้ “ไม่ได้ทรมานคุณมาหนึ่งสัปดาห์ ดูเหมือนคุณจะสนุกมากนะ”
เขากดเสียงต่ำพูดชิดข้างหูเธอ
ในพื้นที่มืดสนิทเช่นนี้ เสียงทุ้มของชายหนุ่มให้ความรู้สึกเซ็กซี่อย่างบอกไม่ถูก ไอร้อนปะทะหน้าเธอและเธอรู้สึกว่าใบหูเริ่มร้อนผ่าว
เพิ่งนึกถึงภาพเหล่านั้นก็เกิดความรู้สึกเจ็บแปลบในใจ เธอเบี่ยงหน้าหลบอย่างดื้อรั้น หนีการรุกล้ำของเขา สองมือยันหน้าอกเขาไว้อย่างระแวง “ถึงจะไม่ได้ทรมานฉัน แต่มีน่าหลันอยู่กับคุณ คุณเองก็ดูมีความสุขดีไม่ใช่เหรอ?”
“ผมเคยเตือนคุณไว้ว่าถ้าปรากฏตัวต่อหน้าผมอีกทีก็รับผิดชอบผลของมันเอง คุณทำเป็นหูทวนลมเหรอ?” เย่เซียวเชยปลายคางเธอขึ้น “แล้วยังกล้าส่งสายตาพลอดรักกับผู้ชายอื่น ไป๋ซู่เย่ ผมอนุญาตหรือยัง?”
เธอกับอวิ๋นช่วนส่งสายตาพลอดรัก?
ถ้าหากพวกเขาถือว่าส่งสายตาพลอดรัก แล้วเขากับน่าหลันเรียกว่าอะไร? ตบะแตกต่อหน้าผู้คนหรือ?
ไป๋ซู่เย่รู้สึกอัดอั้นในใจ ความคุกรุ่นบางอย่างที่ตัวเองจัดการไม่ถูกเริ่มก่อตัว
กับการซักถามและกล่าวโทษอย่างไร้ที่มาที่ไปของเขา อารมณ์ของเธอแย่ลงในทันที
“เย่เซียว ตั้งแต่แรกจนจบ ฉันแค่เซ็นข้อตกลงกับคุณ ให้คุณเรียกเมื่อไหร่ก็ไปเมื่อนั้น แต่ในสัญญาไม่ได้กำหนดว่าคุณจะก้าวก่ายชีวิตส่วนตัวของฉันได้” ไป๋ซู่เย่แกะมือที่บีบตัวเองจนเจ็บออก กลัวคนรอบข้างได้ยินจึงลดเสียงให้เบาลง แต่กลับโต้เถียงกับเขาด้วยเหตุผล “เขาเป็นเพื่อนฉัน และอาจจะเป็นแฟนในอนาคตของฉัน เราคบกันปกติ ส่งสายตาพลอดรักกันเมื่อไหร่? อีกอย่างต่อให้ส่งสายตาพลอดรักจริงๆ แล้วยังไง? ระหว่างเราพูดให้น่าฟังหน่อยก็คือความสัมพันธ์ที่ผูกพันกันตามสัญญา บอกให้น่าเกลียดหน่อยก็คือเราสองคนเป็นแค่คู่ขาบนเตียง ตอนคุณอยากมีอะไรกับฉัน ฉันไปหาคุณก็พอ คุณเคยเห็นคู่นอนที่ไหนก้าวก่ายเรื่องความรักของอีกฝ่ายบ้างล่ะ?”
เย่เซียวใช้สายตาเย็นชาคู่นั้นจ้องเธอคล้ายจะดึงเส้นเอ็นดึงกระดูกออกมาให้รู้แล้วรู้รอด ดื่มเลือดเธอกัดกินเนื้อหนังของเธอ เขารู้ว่าเธอใจร้ายแต่ไม่คิดว่าเรื่องมาถึงจุดนี้แล้วเธอกลับใจเย็นกว่าเขา มีสติกว่าเขา! ทั้งๆ คนที่แค้นคือตัวเองแต่ต้องให้เธอมาย้ำเตือนว่าระหว่างพวกเขาเป็นเพียงความสัมพันธ์คู่นอนกันเท่านั้น!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก!