เธอยังกระตุกวูบยามนึกถึงค่ำคืนนั้น
การกอดที่ถูกต้องอย่างแรกต้องรักกันทั้งสองฝ่าย แต่สำหรับตัวเองแล้ว…เย่เซียวคงมีแต่ความเกลียดชังและความอยากระบายที่มีให้…
เธอปล่อยวางลงบ้างไม่ได้คิดมากไปกว่านี้ พอทายาให้ตัวเองเสร็จก็หยิบชุดนอนห่อหุ้มตัวเอง
ภายใต้ชุดนอนไม่ได้สวมอะไรทั้งสิ้น บ้านตัวเองขอแค่สบายก็พอ
เดินออกไปคิดจะหยิบโน้ตบุ๊คในห้องหนังสือมาเปิดอีเมล พอมาถึงห้องนั่งเล่นกลับได้ยินเสียงทุ้มต่ำของเย่เซียวดังมาจากระเบียง
“ส่งเอกสารทั้งหมดมาที่นี่ อืม…มื้ออาหารที่นัดลูกค้าไว้สองวันนี้ก็เลื่อนวันซะ…เธอบาดเจ็บนิดหน่อย ไม่ถือว่าหนักมาก…โอเค”
ไม่ได้พูดอะไรมากก่อนจะวางสายไป
ไป๋ซู่เย่มองแผ่นหลังค้างอยู่ครู่หนึ่งก็ไม่เข้าใจเหตุผลของการที่เขาให้เอาเอกสารมาส่งที่นี่ หรือว่าเขาคิดจะทำงานในห้องเธอ?
เย่เซียววางสายหันกลับมาเห็นเธอยืนมองตัวเองจากห้องนั่งเล่น พอเลื่อนสายตาดูชุดที่เธอใส่อีกทีดวงตาเข้มล้ำลึกฉายแววอันตราย “คุณกล้ามายืนต่อหน้าผมโดยไม่ได้ใส่อะไรข้างใน เพราะมั่นใจว่าผมไม่กล้าทำอะไรคุณตอนนี้ใช่ไหม?”
ไป๋ซู่เย่ที่เพิ่งรู้ตัวว่าตอนนี้บนตัวมีเพียงกระโปรงนอนเส้นไหมสีดำ เห็นได้ชัดว่าโปร่งบางเล็กน้อยทำให้เขาเห็นเนื้อหนังข้างในทั้งหมดภายในแวบเดียว
เธอรีบถอยกลับไปเปลี่ยนเป็นชุดลำลองสำหรับอยู่บ้านออกมาในเวลาอันรวดเร็ว เย่เซียวนั่งบนโซฟา พอได้ยินเสียงเคลื่อนไหวจึงหันกลับมามองเธอนิดๆ
ชุดลำลองสีเทาทั้งตัว
ผมยาวที่เดิมทีปล่อยประบ่าถูกรวบมัดไว้หลังศีรษะด้วยยางมัดผมสีดำ ปล่อยปรอยผมปรกข้างแก้มสองสามจุก เป็นเรื่องยากที่จะเชื่อมโยงเธอเข้ากับรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงที่ปกติเป็นคนเด็ดขาด เจ้าแผนการแถมยังโหดร้ายอำมหิตคนนั้นเข้าด้วยกันได้ ตอนนี้ดูสดใสน่ารักและอ่อนเยาว์ลงไม่น้อยแต่ไม่สิ้นความสวยอันเย้ายวนใจ
ไป๋ซู่เย่รู้สึกได้ถึงสายตาเขาที่จ้องมองตัวเอง ถูกเขามองจนเริ่มทำตัวไม่ถูก
เธอเอ่ยปากก่อน “เมื่อกี้ฉันได้ยินคุณคุยโทรศัพท์ คุณให้หยูอันเอาเอกสารมาส่งที่นี่เหรอ?”
“อืม”เขาตอบกลับเสียงเรียบคล้ายกำลังอยู่บ้านตัวเองอย่างไรอย่างนั้น เปิดโทรทัศน์หยิบรีโมตกดเปลี่ยนช่องตามใจตัวเอง
“คุณไปทำงานที่บริษัทก็ได้ ฉันไม่มีอะไรให้ต้องกังวลหรอก”
ไล่เขาไปอีกแล้ว!
เขาขมวดคิ้วตีหน้าขรึม “คุณไม่ต้องสนใจผม”
“…”ไป๋ซู่เย่เอือมระอาจริงๆ นี่บ้านของเธอนะ เธอจะไม่สนใจได้อย่างไร?
แต่เธอเองก็รู้ดีว่าเย่เซียวได้ตัดสินใจแล้ว ใครเล่าจะเปลี่ยนใจเขาได้? อีกอย่างหากเขาคิดได้จริงๆ ว่านี่คือบ้านเธอก็ไม่มีทางปั๊มกุญแจไว้โดยพลการ แต่หากตัวเองพูดมากไปก็ต้องเปลืองน้ำลายสูญเปล่าแน่ เผลอๆ อาจทำให้เขาโกรธขึ้นมา พอคิดอย่างนี้แล้วไป๋ซู่เย่จึงไม่ได้พูดอะไรอีก กล่าวเพียง “งั้นฉันไปทำงานของฉันก่อน”
…………………………
แค่ไม่กี่วันกล่องอีเมลก็เต็มไปด้วยอีเมลฉบับใหม่
สองชั่วโมงเธอเพิ่งจัดการไปได้เพียงสองสามฉบับเท่านั้น เสียงกริ่งประตูดังขึ้นจากข้างนอก เธอรู้สึกมึนหัวหน่อยๆ จึงลุกขึ้นบิดขี้เกียจ
เปิดประตูห้องหนังสือออกไป ได้ยินเสียงหยูอันดังเป็นอันดับแรก
“นายท่าน นี่เป็นเอกสารที่ต้องรีบจัดการให้เสร็จวันนี้ ส่วนกองนี้ไม่จำเป็นต้องรีบ”หยูอันยกเอกสารกองหนึ่งเข้ามาวางไว้บนโต๊ะเตี้ย ด้านหลังมีคนถือเสื้อเชิ้ตตัวเรียบ เสื้อสูท เนกไทเข้ามา “นายท่าน เสื้อผ้าให้วางไว้ไหนครับ?”
ไป๋ซู่เย่ที่เงียบเสียงมาตลอด ในที่สุดตอนนี้ก็ได้สติกลับมาเสียที
“เย่เซียว นี่คุณทำอะไร?”
“ตู้เสื้อผ้าของคุณอยู่ในห้องนอนหมดเลยเหรอ?” เย่เซียวไม่ตอบแต่ถามกลับ
“ใช่ แต่…”
“งั้นก็วางไว้ตรงนี้แหละ เดี๋ยวให้เธอเก็บ” เย่เซียวบอกให้คนที่ถือเสื้อผ้าเข้ามา ไป๋ซู่เย่คิดว่าหากเธอไม่ได้ตีความหมายผิดไปเอง ‘เธอ’ ที่เขาพูดถึงน่าจะหมายถึงตัวเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก!