เย่เซียวมุ่นคิ้ว เธอกลับยอมรับได้หน้าตาเฉย
“หยุดนะ! ห้ามไปไหนทั้งนั้น!” เย่เซียวเรียกเธอไว้ด้วยเสียงเย็นชา “ผมอยู่นี่ไม่ใช่เพื่อเข้าครัวให้คุณ!”
เขารู้สึกว่าความรู้สึกแบบนี้มันแปลกมากๆ เดิมทีอยากมาทรมานเธอมากกว่า แต่อยู่ดีๆ ทำไมถึงกลายเป็นเขาที่ต้องมาปรนนิบัติเธอ?!
“ถ้าคุณไม่อยากทำก็วางไว้เถอะ ฉันทำเองก็ได้” ไป๋ซู่เย่ไม่อยากฝืนใจเขา
เย่เซียวเหลือบมองมือของเธอแวบหนึ่งด้วยสีหน้าที่เรียบนิ่งเฉยชามาแต่ต้น กล่าวคำสั่งเรียบๆ “ต้มน้ำ ผมหิวน้ำ!”
ไป๋ซู่เย่ไม่รู้ว่าเขาหมายความว่าอย่างไรจึงหันกลับไปต้มน้ำอย่างเชื่อฟัง เย่เซียวเองก็ไม่ได้วางงานในมือที่ทำมาแต่แรกลงและวุ่นต่อไป ห้องครัวไม่ถือว่ากว้างใหญ่มาก เมื่อก่อนมีเพียงเธอพื้นที่จึงเหลือถมไป แต่ตอนนี้เย่เซียวยืนอยู่ในนี้ด้วย ทั้งบริเวณนี้เลยดูคับแคบเป็นพิเศษ เธอยืนอยู่ข้างหลังเขา มองแผ่นหลังเขาอย่างหลงใหลหน่อยๆ คอยดูท่าทางยุ่งเหยิงของเขา ดมกลิ่นหอมที่โชยมาจากตัวเขา
ทั้งที่เบียดมากแต่ไม่อยากออกไปทั้งอย่างนี้ อยากใกล้ชิดเขาแบบนี้ต่อไป ดูเขาทำงาน กลับรู้สึก…มีความสุขหน่อยๆ…
ไม่รู้ว่าสิบปีนี้…เขาเคยเข้าครัวให้ผู้หญิงอีกมากแค่ไหน…
เธอปล่อยให้ความคิดหลุดลอยไปไกล เย่เซียวกำลังผัดกับข้าวจะหาจาน ไม่คิดว่าหันหลังกลับมาจะปะทะหน้ากับเธอเข้าอย่างจังพอดี อีกทั้งอกแกร่งกระแทกศีรษะเธอพอดิบพอดีจนเธอครางฮึมในลำคอ รู้สึกเพียงหัวหมุน ใช้มือกุมศีรษะก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว ส่วนด้านหลังนั่นเป็นตู้เย็น เย่เซียวเผลอกลั้นหายใจโยนตะหลิวในมือทิ้ง ถลาเข้าไปใช้มือรองหลังศีรษะเธอไว้โดยแทบไม่ต้องคิด
เพราะมีมือเขารองอยู่เลยทำให้หลังศีรษะที่บาดเจ็บของเธอไม่โขกใส่ตู้เย็น แต่ก็เจ็บจนหลุดเสียง ‘โอ๊ย’ ออกมาเสียงหนึ่ง ย่นคิ้วเข้าหากันพลางเงยหน้าพบว่าใบหน้าคมเข้มหล่อเหลาของเย่เซียวอยู่ไม่ห่างจากหน้าตัวเอง ลมหายใจแทบรดใส่ปลายจมูกของตัวเองด้วยซ้ำ เธอเผลอกลั้นหายใจ ลืมถอนสายตาไปพักใหญ่
เขากวาดสายตาเรียบนิ่งมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า ลมหายใจหนักหน่วงขึ้นเล็กน้อย อ้าปากเตรียมเอ่ยถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า แต่คำพูดที่ออกจากปากกลับเป็น “ถ้าไม่มีอะไรก็อย่ามาเป็นภาระผมที่นี่”
เย็นชา แข็งขืน
ประโยคเดียวเรียกสติของไป๋ซู่เย่กลับมาทั้งหมด ความหวั่นไหวเมื่อสักครู่ถูกแทนที่ด้วยความใจเย็นและสติของเธอ
เธอหลังแนบตู้เย็นยืนหลังตรง ขยับศีรษะออกจากมือของเขา “ฉันมาต้มน้ำให้คุณเพราะคำสั่งของคุณ น้ำเดือดแล้ว เดี๋ยวคุณเทน้ำเองแล้วกัน ฉันออกไปก่อน”
พูดจบก้าวออกไปจากห้องครัวอย่างไม่รอช้า
เพียงแต่…
ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าอยู่ด้วยกันกับเขา ความหวั่นไหวที่หลงคิดว่าจะไม่มีทางเกิดขึ้นอีก กลับยังเหมือนดังสิบปีก่อนไม่มีผิด
ยิ่งไปกว่านั้น…
อาจเป็นเพราะวันเวลาที่ผ่านไปนานขนาดนี้ถึงได้เข้มข้นกว่าอดีตมากโข และบ้าคลั่งกว่าเดิม
…………………………
เย่เซียวทำอาหารกลางวัน ไป๋ซู่เย่ชิมคำหนึ่ง เป็นรสชาติจืดจางทั้งหมด
“คุณชอบรสชาติจืดจางขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?” ไป๋ซู่เย่ถามเย่เซียว
“หรือคุณยังจำได้ว่าเมื่อก่อนผมชอบรสชาติไหน?” เย่เซียวแค่นเสียงไปที ชำเลืองมองผ้าก๊อซบนหัวเธอแวบหนึ่ง ในเมื่อมีแผลย่อมต้องทานจืดๆ หน่อย
“จำได้อยู่แล้ว” ไป๋ซู่เย่ขยับปากตอบ “ฉันเคยบอกคุณแล้วว่าข้อมูลของคุณอยู่ในมือเราทั้งหมด ตั้งแต่หนึ่งวันคุณนอนกี่ชั่วโมงถึงธุรกิจเหล่านั้นในมือคุณ เจอผู้คนอะไรมาบ้างในทุกวัน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก!