กับน้ำเสียงเยาะเย้ยแบบนี้
ไป๋ซู่เย่กำลังจะอธิบายบางอย่างได้ยินเพียงเสียงของคุณหญิงไป๋ดังจากข้างนอก “ฉันโทรมาแล้ว ซู่ซู่ต้องอยู่บ้านแน่ๆ มาสิ อวิ๋นช่วน ช่วยฉันถืออันนี้หน่อย ฉันหากุญแจห้องแป๊บหนึ่ง ฉันมีกุญแจ”
จากนั้นได้ยินเสียงพวงกุญแจดัง ‘แกร๊ง’
ไป๋ซู่เย่ยอมแล้ว รีบพลิกตัวลงจากตัวของเย่เซียว คว้ามือเย่เซียว “เย่เซียว คุณเข้าไปในห้องฉันก่อน”
เย่เซียวลุกนั่งบนโซฟากวาดแขนยาวรั้งตัวเธอให้โถมตัวเข้าหาตัวเอง
โน้มตัวประสานสายตากับเธอ เธอขมวดคิ้วเบาๆ
“ทำไมต้องหลบพวกเขา กลัวผู้ชายคนนั้นเห็นเหรอ?” เขารู้สึกว่าความรู้สึกแบบนี้มันแย่มากๆ เหมือนพวกเขากำลังแอบคบชู้และถูกแฟนหนุ่มของหญิงสาวมาไล่จับคาหนังคาเขา!
“…”ไป๋ซู่เย่เงียบไปอึดใจก่อนจะใช้สายตาสับสนมองเขาแวบหนึ่งถึงเอ่ยปากตอบ “ไม่ได้กลัวเขา แต่กลัวแม่ฉันเห็น”
เขาทำหน้าสีหน้าเย็นชา “ผมมีอะไรให้ต้องหลบซ่อนงั้นเหรอ?” ผู้ชายคนนั้นกลับเจอพ่อแม่เธอได้!
เขากลับไม่ทันสังเกตตัวเองเลยว่ากำลังเปรียบเทียบตัวเองกับผู้ชายคนนั้นอยู่ตลอดเวลา
“…เปล่า แค่…คุณเป็นสายมืด ส่วนฉันสายสว่าง” ไป๋ซู่เย่ถอนหายใจ “ฉันไม่อยากให้แม่ฉันเป็นห่วงฉัน”
สิบปีก่อนเธอหนีจากความตายมาเฉียดฉิวเพราะเกือบไม่รอดจากอาการนอนไม่หลับรุนแรงและโรคซึมเศร้า ทำให้ครอบครัวในตอนนั้นแทบเป็นบ้า คุณหญิงไป๋ต้องเสียน้ำตาอาบหน้าทุกวัน ตอนนี้หากรู้ว่าเธอมีปฏิสัมพันธ์กับเย่เซียว เกรงว่า…
เย่เซียวกระชับมือเธอแน่นจนใบหน้าแน่นตึง เส้นทางมืดและสว่างเป็นสิ่งที่อยู่ตรงกันข้ามอยู่แล้ว! ฉะนั้นความสัมพันธ์ของพวกเขาถึงได้เดินทางมาถึงก้าวนี้ได้!
ไป๋ซู่เย่ไม่แน่ใจว่าตนจะพูดเกลี้ยกล่อมเขาได้หรือไม่ ผู้ชายคนนี้ดื้อรั้นเหมือนเธอไม่มีผิด เธอถึงกับเผื่อใจไว้อย่างเลวร้ายที่สุดแล้ว แต่ยังดี…
หลังเย่เซียวถลึงตาใส่เธอด้วยดุดันแวบหนึ่งจากนั้นเขาก็ลุกขึ้น
แต่ไม่ใช่เพียงลำพัง กลับกระชากเธอให้เดินเข้าไปในห้องนอนด้วย
ไป๋ซู่เย่ถาม “ทำไม?”
เธอถูกเขาดึงตัวเข้าไปในห้องนอนโดยหลังจากนั้นเย่เซียวกระแทกปิดประตูเสียงดัง กวาดสายตาเย็นชาผ่านตัวเธอ “เปลี่ยนชุดนอนซะ!”
ไป๋ซู่เย่ถึงรู้ตัวว่าเมื่อครู่เธอรีบร้อนไปหน่อยถึงได้ไม่ทันเปลี่ยนชุดนอนด้วยซ้ำ ชุดนอนชุดนี้ไม่เหมาะที่จะใส่ไปเจออวิ๋นช่วนจริงๆ
“ซู่ซู่ เราเข้ามาแล้ว ลูกอยู่ไหนน่ะ!”
คุณหญิงไป๋ได้เข้ามาในห้องเรียบร้อยโดยกำลังกวาดสายตาหาคนอยู่ข้างนอก ไป๋ซู่เย่แอบนึกโชคดีอยู่ในใจว่าได้เก็บเสื้อผ้าของเย่เซียวไว้ล่วงหน้าทุกอย่าง รองเท้าเองก็เก็บใส่ตู้รองเท้าแทนที่จะวางบนชั้นวางรองเท้า อีกทั้งถ้วยชามในห้องครัวถูกเย่เซียวล้างสะอาดไปตั้งแต่เที่ยงแล้วเช่นกัน
ขอแค่ไม่เข้าไปเจอโน้ตบุ๊คและของของเขาในห้องหนังสือ น่าจะไม่มีปัญหาอะไร
“แม่คะ รอหนูข้างนอกแป๊บหนึ่ง หนูกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า” เธอตะเบ็งเสียงบอกคุณหญิงไป๋ที่อยู่ข้างนอกก่อนจะล็อกประตูห้องจากข้างใน
“อืม อวิ๋นช่วนก็มาด้วย” คุณหญิงไป๋ตอบกลับ
ไป๋ซู่เย่กำลังคิดว่าทำไมอวิ๋นช่วนถึงมาด้วยกันกับคุณหญิงไป๋ได้โดยไม่ทันสังเกตเห็นสายตาเย็นยะเยือกจากใครบางคน เย่เซียวเดินออกไปตรงประตูที่เชื่อมห้องนอนกับระเบียงไว้แล้วเดินไปสูบบุหรี่ตรงระเบียง ไป๋ซู่เย่มองแผ่นหลังเขาถึงรับรู้ว่าเหมือนเขาอารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไร อยากพูดอะไรแต่สุดท้ายกลับเงียบ ได้แต่หยิบเอาชุดลำลองอยู่บ้านออกมาเดินไปเปลี่ยนในห้องน้ำเงียบๆ
ออกจากห้องอาบน้ำไม่คิดว่าเย่เซียวจะดักรอตัวเองตรงประตู ระยะห่างที่ประชิดจนกลิ่นควันบุหรี่แผ่เข้ามา เธอเงยหน้ามองเขาอย่างฉงน ดวงตาเขาล้ำลึกคล้ายบ่อน้ำที่ลึกจนไม่เห็นพื้น ไม่รอเธอได้ถามอะไรจู่ๆ เขากระชากเธอเข้าไปก่อนโน้มหน้าจูบปากแดงอิ่มของเธอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก!