ตอนเที่ยงคืนเธอทิ้งตัวนอนบนเตียง สิบวันนั้นในต่างประเทศที่ได้นอนอยู่บนเตียงไม่คุ้นเคยทุกคืน เห็นหน้าต่างที่ไม่คุ้นเคยก็รู้สึกหัวใจว่างเปล่า พลิกตัวไปมายากจะหลับใหล ตอนนี้นอนอยู่ที่นี่มองหน้าต่างตรงข้าม รู้สึกได้ถึงความเจ็บตรงไหล่ ความว่างเปล่าในใจกลับลดน้อยลง เธอหลับตากระชับผ้าห่มให้ตัวเองผล็อยหลับไป
กลางดึก
จู่ๆ ก็เจ็บแผลอย่างรุนแรงทำให้เธอค่อยๆ ตื่นขึ้นมาสะลืมสะลือโดยหลงคิดว่ายังอยู่ในบ้านตน พอเอียงหัวมองไปนอกหน้าต่าง เห็นหน้าต่างบานนั้นที่เปิดม่านขึ้นพร้อมไฟในห้อง เธอถึงรู้ตัวว่ากำลังอยู่ที่ใด
วินาทีถัดมายิ่งตกใจหนักเข้าไปใหญ่
ห้องที่เย่เซียวพักอยู่กลับเปิดหน้าต่าง!นี่ชักจะแปลกเกินไปแล้ว!ในเวลาฉุกเฉินแบบนี้หน้าต่างทุกบานล้วนกันกระสุน ความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายหากเปิดหน้าต่างจึงเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องบอก
กลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเขา ไป๋ซู่เย่รีบเด้งตัวลุกจากเตียงอย่างไม่รอช้า ควักเลนส์ส่องทางไกลขนาดเล็กที่พกติดตัวเสมอจากหน้าปัดนาฬิกาข้อมือเพื่อส่องไปที่ห้องนั้น
ในห้องมีคนมากมายเดินเข้าออก และเป็นคุณหมอเสื้อกาวน์สีขาวทั้งหมด
เธอจำถังซ่งได้
ข้างเตียงมีหยูอันยืนอยู่
ฉะนั้น…เย่เซียวเป็นอะไร?
ไป๋ซู่เย่นึกถึงคำที่ถังซ่งบอกว่าหันกระสุนยังทิ้งอยู่ในหัวใจเขา หน้าอกเริ่มบีบรัด
ความกังวลต่างๆ ทำให้เธอเปิดประตูออกไปอย่างเร่งด่วนจนไม่ทันใส่เสื้อคลุมตัวนอกโดยใส่แค่ชุดนอนที่พวกเขาเตรียมไว้ให้กับรองเท้าแตะคู่เดียว
วิ่งออกจากเรือนรองถึงเห็นว่าฝนกำลังตก ลมหนาวที่มาพร้อมกับสายฝนกระหน่ำ ราวกับใบมีดที่กรีดกรายลงมา ในฤดูนี้อุณหภูมิที่ต่ำลงเรื่อยๆ ทำให้อากาศหนาวเย็นนั่นซึมเข้าแผลจนรู้สึกเจ็บราวกับถูกบดขยี้หัวใจ แต่เธอไม่ได้ลังเล ฝ่าฝนวิ่งไปที่เรือนหลักอย่างรีบร้อนใจ
……………………
เธอขึ้นไปชั้นสามโดยตรง
ตีสามที่ชั้นสามมีทหารเฝ้าเวรอยู่เช่นเคย เดิมทีคิดว่าจะถูกคนขวางไว้แต่หลี่สือแค่มองเธอแวบเดียวและไม่ได้ห้ามเธอ
เธอผลักประตูสับเท้าเดินไป
ได้ยินเสียงทุ้มของถังซ่งกำลังคุยกับผู้ช่วยข้างๆ “เกิดอาการหัวใจเต้นผิดปกติ เปิดหน้าต่างให้กว้างที่สุดให้อากาศถ่ายเทตลอดเวลา เปิดประตูด้วย!หยูอัน พวกนายออกไปให้หมด อย่ายืนใกล้หัวเตียงเขา!”
น้ำเสียงของถังซ่งหนักอึ้งมาก แค่ฟังน้ำเสียงนี้ไป๋ซู่เย่ย่อมรู้ได้ทันทีว่าอาการของเขาไม่สู้ดีนัก
หยูอันรับคำ เดิมทีจะหันหลังไปเปิดประตูแต่เหลือบเห็นไป๋ซู่เย่ที่ยืนตรงหน้าประตูพอดี หยูอันที่ตาแดงเพราะเส้นเลือดฝอยและหัวใจที่แทบจะหมดเรี่ยวแรง ทั้งเห็นเธอวิ่งมาในสภาพผมกับเสื้อผ้าเปียกโชกก็ไม่มีใจจะขับไล่เธอ แค่เอ่ยปากพูดประชด “คุณกระตือรือร้นกว่าใครเลยกับสถานการณ์นี้ของนายท่าน”
ไป๋ซู่เย่ไม่คิดจะเกิดความบาดหมางกับเขาในเวลานี้ แค่เปิดประตูตามคำสั่งของถังซ่ง ถามหยูอันเสียงเบา “เขา…เป็นยังไงบ้าง?”
“ไม่ดีเท่าไหร่อย่างที่คุณหวังไว้”
“…” สายตาของไป๋ซู่เย่มองเลยหยูอันไปยังชายหนุ่มที่นอนสะลึมสะลือบนเตียง
ตำแหน่งหัวใจของเขาคล้ายจะทรมานมาก มือใหญ่กุมหน้าอกไว้ตลอดต่อให้ตรงนั้นจะมีแผลก็ตามเขาไม่ได้ผ่อนแรงเลยสักน้อย ใบหน้าซีดเซียวไร้เลือดฝาดขณะนี้เต็มไปด้วยเหงื่อ
ไป๋ซู่เย่หอบหายใจหนัก เธอยืนมองห่างออกไปหลายเมตรแต่ราวกับรู้สึกไปพร้อมกัน หน้าอกอึดอัดจนหายใจไม่ออก
แพขนตาเธอสั่นไหว ก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว
หยูอันมุ่นคิ้วแทบจะยกแขนขึ้นขวางเธอไว้โดยอัตโนมัติ ไป๋ซู่เย่ชะงักฝีเท้าและดันมือเขาออกไปช้าๆ “ฉันไม่มีทางทำร้ายเขา…”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก!