ไม่รู้ว่ารู้สึกไปเองหรือเปล่าที่เย่เซียวเหมือนใจตายไปในคืนเดียว…ราวกับว่าการมีชีวิตอยู่ต่อหรือไม่นั้นไม่ได้สำคัญอีกต่อไป…
สาเหตุที่หยูอันคิดได้ก็มีแค่ผู้หญิงที่ชื่อไป๋ซู่เย่เท่านั้น…
……………………
ประเทศ S
เมืองที่เข้าสู่ฤดูหนาว ลมหนาวเย็นเข้ากระดูก
วันที่ 18 เดือน 11 วันเกิดของเธอ
ฮูหยินไป๋โทรมาตั้งแต่วันที่สิบห้าว่าเธอต้องเว้นช่วงเวลามื้อเย็นของวันที่สิบแปดไว้ ส่วนงานเลี้ยงของเพื่อนร่วมงานเลยถูกเลื่อนไปเป็นเวลากลางคืนของวันที่สิบแปด
พวกไป๋หลางดีใจกว่าเธอเสียอีกและได้วางแผนทุกอย่างของคืนวันที่สิบแปดไว้หมดแล้ว
เธอที่เป็นตัวหลักของงานกลับไม่รู้สึกสนุกสนานด้วยแต่แค่ไม่อยากขัดอารมณ์ทุกคน วันที่สิบเจ็ดหลังเลิกงานไป๋ซู่เย่ขับรถไปที่ภูเขามู่เจี้ยเพียงลำพังหลายชั่วโมง เธอจอดรถในโซนให้บริการของเมืองมู่ ลงมานั่งตำแหน่งที่เขาเคยนั่ง ทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปคนเดียว
รอบข้างยังคงมีคู่รักประปรายเช่นเคย เธอเงยหน้ายิ้มให้พวกเขา
จากนั้นลุกขึ้นเดินฝ่าลมหนาวจากไปเพียงลำพัง
เธอปีนเขามู่เจี้ยคนเดียว นั่งตรงจุดชมวิวคนเดียว ดูพระอาทิตย์ขึ้นคนเดียว นั่งอยู่ตรงนั้นตลอดคืนนิ่งๆ รอแสงตะวันปกคลุมเขาทั้งลูก ขณะหิมะสีขาวโพลนได้แปรเปลี่ยนเป็นสีทองอร่ามนั้นเธอก็เดินลงเขาทีละก้าวๆ คนเดียว…
ไม่มีใครอุ้มเธอขึ้นเขาอีก และไม่มีใครจะแบกเธอลงเขาอีก…
มีบางประสบการณ์ที่อาจมีเพียงครั้งเดียวในชีวิต ซึ่งไม่ว่าอย่างไร…ก็ไม่มีทางลืมไปชั่วชีวิต…
…………………………
ไม่ได้พักสายตาสักนาทีเดียวก็ขับรถกลับกระทรวงความมั่นคงหลายชั่วโมงก่อนจะทำงานต่อ หนึ่งเดือนนี้เธอเหมือนหุ่นยนต์ที่ไม่รู้จักเหนื่อย เครื่องจักรทำงานตลอดไม่มีพัก
เมื่อมาถึงห้องทำงานของขวัญจากเพื่อนร่วมงาน ลูกน้องหรือหัวหน้าต่างกองพะเนินเทินทึกบนโต๊ะเธอ
“รัฐมนตรี สุขสันต์วันเกิด!” เลขาอุ้มช่อดอกไม้หนึ่งเข้ามา “คุณอวิ๋นเป็นคนให้ค่ะ”
“ขอบคุณ” เธอยิ้มตอบบางๆ
รับดอกไม้มาดม
ทั้งที่หอมมากแต่เธอกลับไม่ได้กลิ่นของความสุข
ของขวัญที่ไป๋หลางให้เธอนั้นเป็นน้ำมันหอมหนึ่งกล่องที่แบกมาจากอีกฟากของโลก
“คืนนี้คุณอย่าลืมจุดอันนี้นอนนะ ผมเคยถามมาว่ามันได้ผลดีต่อการนอนหลับที่สุด”
“ขอบคุณ” ไป๋ซู่เย่ดมเทียนหอม “คืนนี้ก็จะลองจุดดู”
ไป๋หลางมองเธอหลายที ไป๋ซู่เย่ไม่รู้สึกถึงสายตาของเขา ปลายนิ้วเกี่ยวผมที่ปรกข้างแก้มไปหลังหูและเปิดโน้ตบุ๊คไปพูดไปพลาง “ทำไม ไม่คิดจะทำงาน คิดจะมาจ้องหัวหน้าของนายทั้งวันอยู่ตรงนี้เหรอ?”
“เมื่อคืนคุณไม่ได้นอนอีกแล้วใช่ไหม?” ไป๋หลางอดถามไม่ได้
ไป๋ซู่เย่ระอาเล็กน้อย “นายถามคำถามนี้ทุกวัน มาติดตั้งกล้องวงจรปิดบ้านฉันเลยดีไหม”
“ไม่ใช่แค่ตาแดงแต่ยังขอบตาดำขนาดนี้ ผมเดาว่าคุณไม่ได้นอนเลยสักนาทีเดียว”
ไป๋ซู่เย่ไม่อยากถูกเขามองออกเลยแสร้งออกปากไล่อย่างหงุดหงิด “พอแล้ว นายรีบออกไปเถอะ คืนนี้ต้องเลิกงานเร็วหน่อย ฉันยุ่งมาก”
ไป๋หลางถอนหายใจพยักหน้าเตรียมหันหลังเดินออกไป
แต่พอเดินได้ก้าวเดียวสุดท้ายก็อดไม่ได้ หันกลับมามองเธอแวบหนึ่ง “รัฐมนตรี คุณรู้ไหม…”
ประโยคกล่าวถึงนี่ก็หยุดชะงัก
“มีอะไร?” ไป๋ซู่เย่เงยหน้าขึ้นมา
“ช่างเถอะ ไม่มีอะไร”
“ไป๋หลาง มีอะไรก็พูด!”
“…เขา จะแต่งงานแล้ว”
กลางคืน
งานฉลองวันเกิดกับเพื่อนร่วมงาน
ไป๋ซู่เย่ที่ควบคุมดูแลตัวเองมาตลอดคืนนี้กลับไม่เคยวางแก้วน้ำเมาลงสักครู่เดียว
ทุกคนล้วนสังเกตถึงความผิดปกติแต่ช่วงนี้รัฐมนตรีไป๋ก็ผิดปกติอยู่แล้ว แม้จะมาทำงานเหมือนเช่นเคย ยิ้มให้ทุกคนไม่ว่าใครก็ตาม แต่เห็นได้ชัดว่าทรุดโทรมกว่าเมื่อก่อนและหนักขึ้นเรื่อยๆ
ทุกคนต่างคาดเดาว่าจะได้รับความสะเทือนใจจากอะไร
แต่ผู้หญิงดั่งสวรรค์ฟ้าประทานอย่างรัฐมนตรีไป๋ ราบรื่นทุกอย่างทั้งเรื่องครอบครัวและการงาน จะมีอะไรที่กระทบใจเธอได้? ความรัก?
แต่คุณอวิ๋นที่ตามจีบเธอ ทุกคนก็รู้ว่าเป็นคนประสบความสำเร็จตั้งแต่ยังหนุ่มยังแน่น สมบูรณ์แบบไร้ที่ติ
ไป๋ซู่เย่เมาอย่างสมบูรณ์แบบ
ไป๋หลางมองแล้วรู้สึกแย่แต่กลับเป็นคนที่รู้สาเหตุดีที่สุด และไม่กล้าแม้แต่จะปลอบใจ
ชำระเงินให้ทุกคนสนุกต่อไป ส่วนตัวเองกลับพยุงเธอที่เมามายไม่ได้สติออกไปจากคลับแห่งนี้
“ผมจะส่งคุณกลับไปก่อน”
ไป๋ซู่เย่ปัดมือเขา ดวงตาหยาดเยิ้มและรื้นด้วยน้ำใสบางๆ “ไม่ต้องให้นายไปส่ง ฉันไม่ได้เมา”
คนที่เมาแล้วควรไม่รู้สึกอะไรอีก…
หัวใจต้องไม่เจ็บขนาดนี้…
เจ็บเหมือนปริแตกออก…กลับมาเหมือนเดิมไม่ได้อีก…
“คุณกลับไปนอนดีๆ สักตื่น พอตื่นมาพรุ่งนี้ก็ไม่มีเรื่องอะไรอีกแล้ว!” ไป๋หลางนึกปวดใจ อยากแบกเธอไปที่รถ
“ให้ฉันเดินคนเดียวสักพัก…” ไป๋ซู่เย่ไม่ยอมขึ้นรถ แค่ใช้ดวงตาแดงก่ำร้องขอเขา “ให้ฉันอยู่คนเดียวสักพัก ได้ไหม? นายอย่ามาสนใจฉัน”
…………………………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก!