ไป๋หลางใจสะท้านเล็กน้อย
เธอไม่เคยคุยกับเขาเช่นนี้มาก่อน ไม่เคยดูไร้ที่พึ่งพิง หมดแรงและอ่อนแอขนาดนี้…
ราวกับว่าไป๋ซู่เย่ในอดีต…รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงคนนี้ คนที่ใส่เสื้อเกราะทั้งตัวหายไปในพริบตา ผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาในยามนี้ แค่ผู้หญิงธรรมดาที่ต้องการความปกป้อง ต้องการความทะนุถนอม ต้องการความรักคนหนึ่ง
ไป๋หลางทำใจไม่ได้ แต่ก็พยักหน้ายอมปล่อยเธอ
ความรักช่างเป็นสิ่งที่สร้างความทรมานแต่ดันควบคุมมันไม่ได้ วางไม่ได้แต่ก็ลืมไม่ลง…
……………………
ไป๋ซู่เย่เดินอยู่ท่ามกลางลมหนาวเพียงลำพัง ผมยาวปลิวสะพัดไปตามลมและเสื้อกันหนาวเนื้อบาง พวงแก้มที่ขึ้นสีระเรื่อเพราะดื่มแอลกอฮอล์มามาก ท่ามกลางแสงหลากสียามค่ำคืนยิ่งเกิดความรู้สึกเย้ายวนใจที่ยากจะอธิบายไปอีกแบบหนึ่ง ผู้หญิงแบบนี้เดินบนถนนดึกดื่นเพียงลำพัง โดยเฉพาะที่มีสีหน้าใจแตกสลายจนคนมองนึกสงสาร ทำให้ผู้ชายไม่น้อยที่เดินผ่านอดมองตามไม่ได้
ไป๋หลางขับรถคอยตามหลังเธออยู่อย่างระมัดระวัง พอมีคนเพ่งเล็งเขาจะโผล่หัวออกมาใช้สายตาตักเตือนจ้องอีกฝ่ายจนคนเหล่านั้นล่าถอยไป
เธอเหยียบรองเท้าส้นสูงเดินตากลมไปเหมือนดวงวิญญาณที่ล่องลอยอยู่บนท้องถนนอย่างไร้ที่สิงสถิต คอยมองแสงไฟสว่างไสวเหล่านั้น แต่กลับไม่รู้ว่าตนมาจากไหนและควรไปที่ใด
เดินไปเดินไปจนถึงใต้ตึกใหญ่แห่งหนึ่งโดยไม่รู้ตัว ยืนอยู่ตรงนั้นแหงนหน้ากลับเห็นแค่ความมืดที่ไร้พรมแดน
ไป๋หลางจอดรถอยู่ห่างออกไป เขารู้ว่าตึกนี้เป็นบริษัทของเย่เซียว เพียงแต่บัดนี้…เขาไม่อยู่ที่นี่ตั้งนานแล้ว…
ไป๋ซู่เย่นึกถึงผู้ชายคนนั้นในสภาพสติพร่ามัว เธอล้วงโทรศัพท์จากกระเป๋าออกมา
เลื่อนแตะจอไปตามสัญชาตญาณ เพราะดื่มมามากทำให้นิ้วมือสั่นระริกน้อยๆ แต่หมายเลขนั่นก็ถูกเธอกดออกมาได้อย่างสมบูรณ์ นี่เป็นเบอร์ที่จดจำขึ้นใจมาตลอดสิบปีแต่กลับเป็นเบอร์ที่ไม่กล้าโทรสักครั้ง
……………………
อีกฟากหนึ่ง
เมืองโยว
ท้องฟ้ายามรัตติกาลมืดสนิท
ในห้องที่ไม่ได้เปิดไฟ ชายหนุ่มยืนอยู่ริมหน้าต่างสูบบุหรี่ ทั้งที่ห้าทุ่มแล้วแต่เขากลับไม่รู้สึกง่วง
วันนี้เมื่อสิบปีก่อน…
เขากลับยังจำได้ดี
เขาให้การ์ดไร้วงเงินจำกัดแก่เธอหนึ่งใบทำเอาเธอโกรธจนงอนเขาไปสองวัน แต่ผู้หญิงโง่คนนี้กลับไม่รู้ว่าการ์ดใบนั่นเป็นการ์ดที่เขาให้ทางธนาคารเตรียมมาให้โดยเฉพาะ หมายเลขบนการ์ดเป็นเลขวันเกิดของเขาและเธอ 00198631219881118 ที่มีเพียงใบเดียวทั้งโลก หลังจากนั้นการ์ดใบนั้นถูกเธอเก็บไว้ในลิ้นชักห้องหนังสือ ต่อมารอเขาจะมอบให้ในปีถัดไป ระหว่างพวกเขาก็ไม่มีต่อมาอีกเลย…
เย่เซียวเปิดกระเป๋าเงิน ในกระเป๋าเงินนอกจากรูปใบนั้นยังมีการ์ดใบนั้นอยู่เหมือนเดิม
สิบปีผ่านไปไม่ว่าจะรูปถ่ายเธอหรือการ์ดธนาคารใบนั้นก็เก่าคร่ำครึไปแล้ว
เขาดับบุหรี่ดึงรูปถ่ายและการ์ดธนาคารออกมาพร้อมกัน เงียบไปอึดใจก็ล้วงไฟแช็กออกมาจุดไฟ แสงสีฟ้าสะท้อนกลางอากาศและกำลังเผาไหม้ปล่อยไอร้อนออกมา ในเมื่อทุกอย่างกลับไปเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว ทำไมไม่ปล่อยให้ทุกอย่างกลายเป็นเถ้าถ่านไปล่ะ? ไม่ว่าจะรูปภาพ การ์ด หรือว่า…ความทรงจำที่เคยจำฝังใจ…
หายใจหนักอึ้งราวกับได้ตัดสินใจเด็ดขาด
แต่ขณะที่ปลายเปลวไฟเข้าใกล้รูปภาพ เสียงร้อง ‘เย่เซียว รับสายเร็ว’ ก็แผดเสียงขึ้นกลางห้อง
เขาตัวสะท้านเฮือกและขอบตาแดงก่ำ หันหน้าไปมองต้นทางของเสียงอย่างไม่อยากจะเชื่อ หลงคิดว่าต้องเป็นเสียงหูแว่วของตัวเองแน่ๆ
แต่ว่า…
เสียงนั่นไม่หยุด ยังดังต่อไม่หยุด…
‘เย่เซียว รับสายเร็ว’ ‘เย่เซียว รับสายเร็ว’…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก!