ไป๋ซู่เย่เปิดซองบัตรเชิญ บัตรเชิญหล่นออกมาจากข้างใน
เป็นบัตรเชิญอย่างที่คิดไว้เลย
สีแดงฉาน เป็นมงคลน่ายินดีนัก…
บนนั้นเขียนไว้สองชื่อ ‘เย่เซียว’ กับ ‘น่าหลัน’
เธออ่านไปอ่านไปก็รู้สึกตาใกล้จะแดงเต็มทีแล้ว
“คุณอย่าเศร้าไป ผมจะเอาบัตรเชิญนี้ไปทิ้งถังขยะให้เดี๋ยวนี้เลย!” ไป๋หลางว่าแล้วทำท่าจะเอาบัตรเชิญไปทิ้ง
“บัตรเชิญดีๆ จะทิ้งไปทำไม?” ไป๋ซู่เย่เอาบัตรเชิญกลับแล้วสอดไว้ใต้หมอน จากนั้นโยนโทรศัพท์ตัวเองให้ไป๋หลาง ไป๋หลางมองเธออย่างฉงนใจ “ทำไมเหรอ?”
“โทรศัพท์ฉันเหมือนจะเสียเพราะตกพื้น นายเอาไปซ่อมให้หน่อย ข้างในมีอีเมลเยอะมาก ให้คนของกระทรวงความมั่นคงจัดการก็พอ”
“แล้วบัตรเชิญนี่…” ไป๋หลางรับโทรศัพท์มาแล้วมองเธอด้วยความกังวลใจหลายที
“ฉันจะปรึกษากับท่านผู้นำเอง นายไม่ต้องเป็นห่วงฉัน”
ไป๋หลางอยากพูดอะไรแต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดมันออกมา ได้แต่กล่าวเพียง “คุณหมอฟู่ให้คุณนอนโรงพยาบาลสักสองวัน สองวันนี้คุณไม่ต้องไปไหน อยู่โรงพยาบาลเฉยๆ ก็พอ”
“ได้ ฉันรู้แล้ว” นานทีไป๋ซู่เย่จะเชื่อฟังขนาดนี้
ไป๋หลางปิดประตูออกไปแล้ว
ชั่วขณะห้องพักขนาดใหญ่นี้เหลือเพียงเธอคนเดียว ภายในห้องเงียบสงัด เงียบเสียจนน่าหวั่นใจ เธอคลำบัตรเชิญใต้หมอนมาอีกครั้งแล้วนั่งมองนิ่งๆ อยู่พักใหญ่
ความจริงวันนี้ก็ต้องมาถึงในไม่ช้าก็เร็ว…
เพียงแต่ตอนมาถึงจริงๆ ความเจ็บปวดในหัวใจกลับไม่อาจเก็บซ่อนได้…
……………………
หลังจากนั้นหลายวันไป๋ซู่เย่ออกจากโรงพยาบาลก็จดจ่อกับงานเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกวันไป๋หลางจะแอบมองเธอด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ ไป๋ซู่เย่กำลังรอปลัดกระทรวงมาหาเธอด้วยตัวเอง และเป็นไปตามที่คิดเมื่อสองวันก่อนวันหมั้นเธอถูกเรียกไปที่ชั้นบนสุด
“งานหมั้นครั้งนี้ คุณมีความคิดยังไง?” ปลัดถามเธอด้วยน้ำเสียงเป็นกันเองเหมือนกำลังพูดคุยเรื่องสัพเพเหระ
“ไฟเรนเซ่เคยมีข้อบาดหมางกับกระทรวงเรา ไม่รู้ว่าคิดจะทำอะไรครั้งนี้ถึงเชิญเราไป ถ้ามีทางเลือกได้ ฉันย่อมเลือกที่จะไม่ไป”
สายตาปลัดกระทรวงกวาดมองประเมินเธออยู่พักหนึ่งราวกับกำลังเดาใจเธอ สุดท้าย “ไปเถอะ ถึงความจริงเรากับไฟเรนเซ่จะเหมือนไฟกับน้ำ แต่ก็ต้องไว้หน้าอยู่ดี ในเมื่อเขากล้าเชิญเราไป ก็ต้องไม่กล้าทำอะไรเราอยู่แล้ว”
“ในเมื่อคุณอยากให้ฉันไป งั้นฉันก็จะไป” ไป๋ซู่เย่พยักหน้าตามใจอีกฝ่าย
ปลัดกระทรวงแสดงความพึงพอใจกับคำตัดสินใจนี้อย่างเห็นได้ชัด “ให้ไป๋หลางกับรองปลัดไปกับคุณ ส่วนของขวัญที่ให้ว่าที่คู่แต่งงานใหม่ ทางกระทรวงจะเตรียมเอง คุณไม่ต้องห่วง ตั๋วเครื่องบินพรุ่งนี้เช้า วันนี้คุณกลับไปเตรียมตัวก่อน”
……………………
วันรุ่งขึ้น
ที่เมืองเยียว
อุณหภูมิเมืองเยียวในวันนี้ต่ำกว่าอุณหภูมิของเมือง S หลายองศา
โรงแรมที่พวกเธอมาพักเป็นไปตามการจัดการของไฟเรนเซ่ล่วงหน้าทั้งหมด—โรงแรมนี้เป็นกิจการภายใต้การดูแลของเย่เซียวซึ่งเป็นโรงแรมทรงเรือระดับเจ็ดดาวโดยมีทำเลที่ตั้งใจกลางเมืองเยียว โรงแรมนี้เองก็มีชื่อเสียงระดับโลกที่ครองอันดับแถวหน้า
ไป๋หลางถือกระเป๋าเดินทางตามหลังเธอพลางกวาดมองโรงแรมแล้วพูดด้วยเสียงอึ้งทึ่ง “ได้ยินมานานแล้วว่าไฟเรนเซ่กับเย่เซียวมีทรัพย์สินพอๆ กับประเทศหนึ่ง พอมาดูแล้วไม่ได้โกหกสักนิดเลย”
ไป๋ซู่เย่ไม่ได้สนใจสิ่งเหล่านี้ ความจริงคนในกระทรวงความมั่นคงรู้เกี่ยวกับกิจการเปลือกนอกเหล่านี้ของเย่เซียวเป็นอย่างดี โรงแรมนี้เธอก็คุ้นเคยดี
เธอหันมองโรงแรมรอบหนึ่งพบว่าในโรงแรมถูกจัดแต่งให้มีบรรยากาศมงคล
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก!