ตอน ตอนที่ 709 จาก อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก! – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
ตอนที่ 709 คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายRomantic อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก! ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
ไป๋ซู่เย่เปิดซองบัตรเชิญ บัตรเชิญหล่นออกมาจากข้างใน
เป็นบัตรเชิญอย่างที่คิดไว้เลย
สีแดงฉาน เป็นมงคลน่ายินดีนัก…
บนนั้นเขียนไว้สองชื่อ ‘เย่เซียว’ กับ ‘น่าหลัน’
เธออ่านไปอ่านไปก็รู้สึกตาใกล้จะแดงเต็มทีแล้ว
“คุณอย่าเศร้าไป ผมจะเอาบัตรเชิญนี้ไปทิ้งถังขยะให้เดี๋ยวนี้เลย!” ไป๋หลางว่าแล้วทำท่าจะเอาบัตรเชิญไปทิ้ง
“บัตรเชิญดีๆ จะทิ้งไปทำไม?” ไป๋ซู่เย่เอาบัตรเชิญกลับแล้วสอดไว้ใต้หมอน จากนั้นโยนโทรศัพท์ตัวเองให้ไป๋หลาง ไป๋หลางมองเธออย่างฉงนใจ “ทำไมเหรอ?”
“โทรศัพท์ฉันเหมือนจะเสียเพราะตกพื้น นายเอาไปซ่อมให้หน่อย ข้างในมีอีเมลเยอะมาก ให้คนของกระทรวงความมั่นคงจัดการก็พอ”
“แล้วบัตรเชิญนี่…” ไป๋หลางรับโทรศัพท์มาแล้วมองเธอด้วยความกังวลใจหลายที
“ฉันจะปรึกษากับท่านผู้นำเอง นายไม่ต้องเป็นห่วงฉัน”
ไป๋หลางอยากพูดอะไรแต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดมันออกมา ได้แต่กล่าวเพียง “คุณหมอฟู่ให้คุณนอนโรงพยาบาลสักสองวัน สองวันนี้คุณไม่ต้องไปไหน อยู่โรงพยาบาลเฉยๆ ก็พอ”
“ได้ ฉันรู้แล้ว” นานทีไป๋ซู่เย่จะเชื่อฟังขนาดนี้
ไป๋หลางปิดประตูออกไปแล้ว
ชั่วขณะห้องพักขนาดใหญ่นี้เหลือเพียงเธอคนเดียว ภายในห้องเงียบสงัด เงียบเสียจนน่าหวั่นใจ เธอคลำบัตรเชิญใต้หมอนมาอีกครั้งแล้วนั่งมองนิ่งๆ อยู่พักใหญ่
ความจริงวันนี้ก็ต้องมาถึงในไม่ช้าก็เร็ว…
เพียงแต่ตอนมาถึงจริงๆ ความเจ็บปวดในหัวใจกลับไม่อาจเก็บซ่อนได้…
……………………
หลังจากนั้นหลายวันไป๋ซู่เย่ออกจากโรงพยาบาลก็จดจ่อกับงานเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกวันไป๋หลางจะแอบมองเธอด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ ไป๋ซู่เย่กำลังรอปลัดกระทรวงมาหาเธอด้วยตัวเอง และเป็นไปตามที่คิดเมื่อสองวันก่อนวันหมั้นเธอถูกเรียกไปที่ชั้นบนสุด
“งานหมั้นครั้งนี้ คุณมีความคิดยังไง?” ปลัดถามเธอด้วยน้ำเสียงเป็นกันเองเหมือนกำลังพูดคุยเรื่องสัพเพเหระ
“ไฟเรนเซ่เคยมีข้อบาดหมางกับกระทรวงเรา ไม่รู้ว่าคิดจะทำอะไรครั้งนี้ถึงเชิญเราไป ถ้ามีทางเลือกได้ ฉันย่อมเลือกที่จะไม่ไป”
สายตาปลัดกระทรวงกวาดมองประเมินเธออยู่พักหนึ่งราวกับกำลังเดาใจเธอ สุดท้าย “ไปเถอะ ถึงความจริงเรากับไฟเรนเซ่จะเหมือนไฟกับน้ำ แต่ก็ต้องไว้หน้าอยู่ดี ในเมื่อเขากล้าเชิญเราไป ก็ต้องไม่กล้าทำอะไรเราอยู่แล้ว”
“ในเมื่อคุณอยากให้ฉันไป งั้นฉันก็จะไป” ไป๋ซู่เย่พยักหน้าตามใจอีกฝ่าย
ปลัดกระทรวงแสดงความพึงพอใจกับคำตัดสินใจนี้อย่างเห็นได้ชัด “ให้ไป๋หลางกับรองปลัดไปกับคุณ ส่วนของขวัญที่ให้ว่าที่คู่แต่งงานใหม่ ทางกระทรวงจะเตรียมเอง คุณไม่ต้องห่วง ตั๋วเครื่องบินพรุ่งนี้เช้า วันนี้คุณกลับไปเตรียมตัวก่อน”
……………………
วันรุ่งขึ้น
ที่เมืองเยียว
อุณหภูมิเมืองเยียวในวันนี้ต่ำกว่าอุณหภูมิของเมือง S หลายองศา
โรงแรมที่พวกเธอมาพักเป็นไปตามการจัดการของไฟเรนเซ่ล่วงหน้าทั้งหมด—โรงแรมนี้เป็นกิจการภายใต้การดูแลของเย่เซียวซึ่งเป็นโรงแรมทรงเรือระดับเจ็ดดาวโดยมีทำเลที่ตั้งใจกลางเมืองเยียว โรงแรมนี้เองก็มีชื่อเสียงระดับโลกที่ครองอันดับแถวหน้า
ไป๋หลางถือกระเป๋าเดินทางตามหลังเธอพลางกวาดมองโรงแรมแล้วพูดด้วยเสียงอึ้งทึ่ง “ได้ยินมานานแล้วว่าไฟเรนเซ่กับเย่เซียวมีทรัพย์สินพอๆ กับประเทศหนึ่ง พอมาดูแล้วไม่ได้โกหกสักนิดเลย”
ไป๋ซู่เย่ไม่ได้สนใจสิ่งเหล่านี้ ความจริงคนในกระทรวงความมั่นคงรู้เกี่ยวกับกิจการเปลือกนอกเหล่านี้ของเย่เซียวเป็นอย่างดี โรงแรมนี้เธอก็คุ้นเคยดี
เธอหันมองโรงแรมรอบหนึ่งพบว่าในโรงแรมถูกจัดแต่งให้มีบรรยากาศมงคล
“คุณ ถึงแล้ว” คนขับรถจอดรถ
ไป๋ซู่เย่จ่ายเงินลงจากรถ ตรงหน้าเป็นสุสานแห่งหนึ่ง ป้ายสุสานแต่ละป้ายที่เรียงอยู่ตรงนั้นราวกับมีดคมที่จะปาดคอเธอทีละเล่มๆ
เธอสูดหายใจลึก หมุนตัวเดินไปที่ร้านดอกไม้ข้างๆ ร้านดอกไม้ขายดีไม่น้อย สักพักถึงมีพนักงานว่างออกมาต้อนรับเธอ
“คุณ อยากซื้อดอกอะไรบ้าง?”
“ดอกเดซี่สีขาว” เธอพูดภาษาของประเทศ T ได้อย่างคล่องแคล่ว “เดี๋ยวจัดให้ฉันยี่สิบห้าช่อ”
“เยอะขนาดนั้นเชียว?” เจ้าของร้านตกใจหน่อยๆ
เธอแย้มปากยิ้ม “ใช่ ยี่สิบห้าช่อ”
เมื่อนั้นลูกน้องยี่สิบห้าคนของเย่เซียวที่ตายอย่างอนาถในสนามรบ สุดท้ายเถ้ากระดูกถูกฝังไว้ที่นี่ด้วยกันทั้งหมด
“งั้นคุณรอสักครู่นะ เดี๋ยวฉันจะรีบเอาของจากโกดังมาให้”
“ได้ค่ะ ไม่รีบ”
ไป๋ซู่เย่พยักหน้ารับและรออยู่ที่ร้านดอกไม้เป็นเวลายี่สิบนาทีถึงยกช่อดอกไม้ทั้งยี่สิบห้าช่อขึ้นไป ดอกไม้เต็มไม้เต็มมือจนแทบจะตกพื้นเรียกสายตาคนเดินผ่านไปมาต้องหันมามองอย่างสงสัยไม่ได้
สุสานทั้งยี่สิบห้าเธอได้นำช่อดอกไม้เดซี่วางไว้ทีละสุสานอย่างจริงใจและรู้สึกผิด เธอคุกเข่าลงตรงหน้าป้ายสุสานทุกป้ายแล้วก้มหัวโขกพื้นเสียงดัง รอก้มเสร็จป้ายที่ยี่สิบห้านั้นหน้าผากก็ถลอกเป็นแผลใหญ่จนเลือดไหลเสียแล้ว
เธอรู้ว่าถึงแบบนี้ก็ไม่อาจชดเชยอะไรแก่คนที่ยังอยู่ได้ ไม่อาจได้รับการยกโทษจากพวกเขาที่หลับใหลไปตลอดกาลได้ ยิ่งไม่อาจชุบหัวใจที่ถูกความรู้สึกผิดทรมานมายาวนานนับสิบปี…
แต่นี่กลับเป็นสิ่งเดียวที่เธอทำได้
……………………………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก!