ไม่ใช่ประโยคคำถามแต่เป็นประโยคบอกเล่า
เย่เซียวรู้ว่าตัวเองคิดอย่างไร ในเมื่อปิดบังเขาไม่ได้เลยไม่ได้ปฏิเสธ
“แกกำลังชั่งใจว่าครั้งนี้อยู่ๆ เธอก็มาที่นี่ จุดประสงค์บริสุทธิ์มั้ย?” ไฟเรนเซ่มองเย่เซียวแวบหนึ่ง“เย่เซียว ไม่มีเรื่องที่บังเอิญขนาดนี้หรอก ทำไมกระทรวงความมั่นคงต้องทำลายงานแต่งงานของแกใจแกรู้ดี พวกเขาแค่จงใจใช้แผนเดิม ให้ไป๋ซู่เย่มาจัดการแก นี่เป็นหลุมกับดัก ถ้าแกคิดจะกระโดดลงในนั้นอีกก็ต้องคิดให้ดี—คิดให้ดีว่าเธอมีใจให้แกมากเท่าไหร่กันแน่ คิดให้ดีว่าครั้งนี้ถ้าไม่ใช่เพื่อสัญญาสองฉบับนั่นวันนี้เธอจะปรากฎตัวต่อหน้าแกหรือเปล่า”
ไฟเรนเซ่มองเขาที่คงสีหน้าเรียบเฉยเย็นชามาแต่แรก“เธอมีใจต่อแกมากเท่าไหร่ เย่เซียว คิดว่าใจแกก็ไม่มั่นใจสักนิดสินะ?”
ประโยคของเขาแทงใจดำของเย่เซียวตรงจุด
ใช่ เขาไม่มีความมั่นใจเลย เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าผู้หญิงคนนั้นเคยรักตัวเขาหรือไม่ ถ้า—ถ้านี่ไม่ได้คิดไปเอง—เธอเคยรักจริงๆ แล้วรักมากขนาดไหน? หรือว่าในโลกของเธอ ผลประโยชน์ย่อมอยู่เหนือกว่าความรักที่เธอมีแต่เขาเสมอ?
ในเมื่อ…
การลองใจทั้งหมดในอดีตล้วนทำให้เขาผิดหวังมาแล้ว
ต่อให้วันนี้เขาให้หยูอันเอาบัตรเชิญมาให้เธอ ขณะที่เขาจูงมือน่าหลันเดินบนพรมแดง เธอไม่เคยพูดคำว่า‘อย่าแต่งงาน’ออกมา–เขากลับยังคาดหวังอยู่
เพราะเธอหัวรั้นเกินไป หรือว่า…ความรักของเธอ สู้ความหัวรั้นของเธอไม่ได้?
“ท่านสบายใจได้ ผมไม่หลงกลอีก” ในที่สุดเย่เซียวเอ่ยปากกล่าวเสียงเรียบนิ่ง “สัญญาครั้งนี้ ไม่มีการเจรจา”
เขาอยากรอดูจริงๆ ถ้าภายใต้สถานการณ์ที่ไม่เปิดให้เจรจา เธอจะยังอยู่ในโลกของตัวเองอยู่หรือเปล่า หรือบางที…เธอ…จะเลือกฆ่าเขาเหมือนเมื่อสิบปีก่อน ไม่ว่าจะเลือกทางไหนระหว่างนี้ เขาจะตายใจได้ทั้งหมด
……………………
วันรุ่งขึ้น
เธอที่ต้องพึ่งยาถึงจะนอนหลับได้นั้นตื่นมาอีกทีก็เป็นเวลาเก้าโมงกว่าในตอนเช้า เพิ่งลืมตาก็แทบจะล้วงโทรศัพท์มาจากใต้หมอนทันที กดเปิดหน้าจอ
มีสายโทรเข้าหลายสายรวมถึงข้อความ
เธอเลื่อนดูรอบหนึ่ง หัวใจที่ลอยสูงดิ่งลงอย่างผิดหวังอีกครั้ง
ไม่มีคนที่เธอกำลังรอ
เธอนิ่งไปชั่วขณะ เริ่มกังวลเล็กน้อยว่าหากตนโทรไปตอนนี้จะทำให้เขาเข้าใจผิดว่าที่ตนร้อนใจขนาดนี้เป็นเพียงเพราะเรื่องสัญญา แต่สุดท้ายก็อดใจไม่ไหว
สูดอากาศเข้าลึกๆ กดโทรไปยังเบอร์หมายเลขที่ดูรอบเดียวก็ท่องจำขึ้นใจ
แต่…
เสียงที่ดังเข้าโสตประสาทกลับเป็นเสียงผู้หญิงอย่างอัตโนมัติ “เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารติดต่อได้ กรุณาติดต่อใหม่ในอีกสักครู่”
ไป๋ซู่เย่กำโทรศัพท์แนบข้างหูฟังสองรอบ ท้ายที่สุดก็วางโทรศัพท์ลงช้าๆ หลับตาลงใหม่แต่ยามนี้กลับไม่รู้สึกง่วงแม้แต่นิดเดียว
…………
เย่เซียวบินไปยังประเทศอีกฟากของโลกจากประเทศ T
นั่งเครื่องบินกว่าสิบชั่วโมง รอเปิดเครื่องอีกทีก็มีทั้งสายโทรเข้าและข้อความที่พลาดรับไป จำนวนมากเสียจนนับไม่ถ้วน เขากลับอาศัยพริบตาเดียวก็จำเบอร์ที่คุ้นเคยยิ่งกว่าเบอร์ไหนๆ ได้
สิบกว่าชั่วโมง เธอโทรมาหนึ่งสาย
เขาจ้องมองอยู่ไม่กี่วินาที
“นายท่าน ขึ้นรถได้แล้วครับ” เสียงหยูอันเตือนเขา
เขารับคำ‘อืม’ ทีพลางเก็บโทรศัพท์โดยไม่ได้โทรกลับ
………………
ห้าวันผ่านไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก!