ไป๋ซู่เย่ได้ยินเสียงเคาะประตู ฝืนหยัดตัวจากเตียงมากล่าว “เข้ามาเถอะ”
“คุณไป๋ อาหารเช้าของคุณค่ะ” พยาบาลยกโจ๊กร้อนกรุ่นเข้ามา
ความจริงไป๋ซู่เย่ไม่อยากอาหารเท่าไร ตอบกลับเพียง “ขอบคุณ คุณวางไว้ข้างๆ ก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันค่อยทาน”
“ก็ได้ค่ะ คุณพักผ่อนสักหน่อย ฉันไม่รบกวนแล้ว”
“รอเดี๋ยว” ไป๋ซู่เย่เรียกพยาบาลไว้แล้วถาม “ฉันออกโรงพยาบาลได้หรือยัง?”
“ยังไม่ได้ค่ะ วันนี้คุณต้องตรวจร่างกายหลายที่แหนะ!คุณหมอประจำเคสก็ยังไม่มา หลายวันนี้คุณจะต้องฉีดยาหรือเปล่าก็ขึ้นอยู่กับคุณหมอตัดสิน”
ไป๋ซู่เย่ถอนหายใจ “งั้นก็ได้ รอคุณหมอมาแล้วรบกวนคุณช่วยเรียกคุณหมอมาหาฉันที”
เธอไม่ชอบนอนโรงพยาบาล อยู่ภายใต้สภาพแวดล้อมนี้เพียงลำพัง อารมณ์โดดเดี่ยวน่าสงสารจะยิ่งรุนแรงมากกว่าเดิม
ไป๋ซู่เย่รอคุณหมอมาหาในห้องรอจนเบื่อหน่ายเลยเปิดโทรทัศน์ฆ่าเวลา
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร ประตูห้องถูกเคาะใหม่อีกครั้ง
หลงคิดว่าคุณหมอมาเลยบอกให้อีกคนเปิดประตูเข้ามาได้เลย ขณะที่ประตูถูกเปิดออกแล้วร่างที่คุ้นเคยย่างกรายเข้ามาทำเอาเธอชะงักไปอึดใจ
เย่เซียวชำเลืองมองมาทางเธอแวบหนึ่งก็ละสายตาไป หันไปกล่าวต่อคุณหมอผู้รับผิดชอบที่ยืนอยู่ข้างๆ “จัดการเสร็จหมดหรือยัง?”
“ครับ ก็รอคุณมา ทีมพยาบาลได้เตรียมไว้แล้ว” คุณหมอพยักหน้า
“คุณไปก่อน เราจะตามไป”
อีกฝ่ายพยักหน้ารับก่อนถอยออกจากห้องไป
รอสายตาเย่เซียวมองมาทางเธออีกครั้งก็พบว่าสายตาเธอยังไม่ละจากตัวเขา ทั้งคู่สอดประสานสายตา ไป๋ซู่เย่ถึงดึงสติกลับมาได้ “คุณ…คุณมาได้ยังไง?”
“ผมมาไม่ได้?” ใบหน้าเย่เซียวเรียบนิ่งไม่สื่ออารมณ์ใด ก้าวมาข้างเตียงช้าๆ
“ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น”
เย่เซียวเหลือบมองอาหารเช้าบนหัวเตียงแวบหนึ่ง เวลานี้คงเย็นหมดแล้ว
“ไม่ได้ทานอาหารเช้า?”
“…ลืม”
เขามุ่นคิ้วแล้วพูดต่อ “ในเมื่อไม่ได้ทานก็ช่างเถอะ เดี๋ยวต้องเจาะเลือด”
“เจาะเลือด? ทำไมต้องเจาะเลือด?” ไป๋ซู่เย่สงสัย “คุณหมอบอกว่าฉันแค่อาการร่างกายอักเสบ ไม่ถึงกับ…”
เธอยังพูดไม่จบผ้าห่มบนตัวก็ถูกเย่เซียวเลิกออกก่อน ความเย็นที่จู่โจมเข้ามากะทันหันทำให้เธอหยุดประโยคเมื่อครู่ไว้ตรงนั้น
“คุณทำอะไรเนี่ย?” เธอสะดุ้งเพราะความหนาวเผลอซุกตัวเข้าหากองผ้าห่มที่ถูกเขาเลิกไปกองไว้ตรงมุมเตียงโดยไม่รู้ตัว
เธอออกมาด้วยชุดนอนทั้งตัว เรียวขาคู่เปลือยเปล่า
สายตาเย่เซียวเรียบนิ่ง คนที่พาเธอมาส่งโรงพยาบาลเมื่อวานไม่ได้ฉวยโอกาสเธอ!
“ไปเปลี่ยนชุดนอน ในห้องน้ำมีชุดผู้ป่วยตัวใหม่”
“ไม่ต้องหรอก” ไป๋ซู่เย่ปฏิเสธ “สุขภาพฉันไม่มีปัญหา ไม่ต้องตรวจอย่างอื่น ฉันจะทำคู่มือออกโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้”
สิ้นเสียงเธอเย่เซียวช้อนตัวเธอจากเตียงทันที ย่ำเท้าเดินเข้าห้องน้ำ
“เย่เซียว คุณได้ยินที่ฉันพูดมั้ย?” เธอนอนอยู่ในอ้อมแขนเขา ดึงเนกไทของเขาเป็นการท้วง
“ในเมื่อไม่ยอมลงมือทำเอง ผมจะช่วยคุณ” น้ำเสียงเขาราบเรียบเหลือเกิน
คนคนนี้หมายถึงว่าจะช่วยเธอเปลี่ยนชุดคนไข้อย่างนั้นหรือ?
“ได้สิ งั้นคุณช่วยฉันเปลี่ยนแล้วกัน ยังไงฉันก็ไม่เปลี่ยนเอง” แม้แต่น้ำเสียงเธอยังแสดงถึงการขัดขืน เธอจะออกจากโรงพยาบาล!ออกจากโรงพยาบาล!ตอนนี้มาเปลี่ยนเป็นชุดคนไข้ ไม่วุ่นวายหรือ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก!