“คิดจะกลับประเทศเมื่อไหร่?” เย่เซียวถามขึ้นกะทันหัน
ไป๋ซู่เย่ชะงักงัน
มือที่วางบนหน้าตักกำนิ้วเข้าหากันเล็กน้อย ผ่านไปสักพักเธอยืดตัวตรงพูดเชิงหยอก “คุณกำลังไล่ฉันไปเหรอ?”
เย่เซียวไม่ตอบ
“ตอนนี้จะว่าไปฉันก็เป็นลูกค้าโรงแรมพวกคุณ คุณเป็นเจ้าของ มีอย่างที่ไหนขับไสไล่ส่งลูกค้าบ้าง?”
เย่เซียวจอดรถหน้าไฟจราจรสีแดงถึงหันข้างมามองเธอด้วยแววตาที่ล้ำลึกขึ้นราวกับจะมองลอดผ่านดวงตาเธอให้ทะลุไปถึงหัวใจ
ไป๋ซู่เย่มองเขา “เมื่อคืน คุณมาอยู่ที่โรงพยาบาลได้ยังไง?”
“นั่นโรงพยาบาลของผม ผมอยากไปก็ไป ต้องมีเหตุผลด้วยเหรอ?”
ไป๋ซู่เย่หัวเราะที “เย่เซียว คุณส่งคนจับตาดูฉัน”
เย่เซียวกลับไม่ได้ปฏิเสธแค่ละสายตากลับไปที่ถนนตรงหน้า เงียบไปสักครู่ถึงย้อนถามเสียงเรียบ “คุณไม่ควรถูกจับตาดูเหรอ? คนของกระทรวงความมั่นคงพวกคุณคิดอยากฆ่าผมมากขนาดไหนใจคุณรู้ดี”
ไป๋ซู่เย่ไม่อาจปฏิเสธได้
เธอเบี่ยงหน้าทิ้งสายตาไปนอกรถมองภาพวิวตามรายทาง สักพักถึงถาม “คุณคิดว่า…ฉันมานี่ก็เพื่อฆ่าคุณ?”
เย่เซียวขับรถยนต์ด้วยสีหน้าเรียบขรึม “ผมไม่สนใจว่าคุณอยากฆ่าผมหรือเปล่า แต่…ถ้าคุณมาเพื่อเจรจาสัญญา เราไม่มีอะไรต้องคุยกัน ถ้าคุณอยู่ที่นี่ต่อเพียงเพราะเรื่องสัญญา…”
‘เพียงเพราะ’ สองคำนี้เขากัดฟันพูดเน้นเสียง ชะงักทีแล้วกล่าวต่อ “ได้ผลตรวจแล้วก็กลับประเทศซะเถอะ”
ไป๋ซู่เย่หันกลับมามองเขา “แล้วถ้าฉันไม่ได้อยู่ต่อเพื่อสัญญาล่ะ?”
เย่เซียวกำพวงมาลัยแน่นกว่าเดิม “แล้วคุณจะทำเพื่ออะไร?”
“เย่เซียว…”
ไป๋ซู่เย่เรียกขานเขาเสียงเบา
เขาไม่ตอบรับ
เธอพูดต่อ “ถ้าฉันบอกว่า ฉันอยู่ที่นี่ความจริงเป็นเพราะ…คุณ คุณยังจะเชื่อฉันมั้ย?”
ความรู้สึกในใจเย่เซียวกำลังพลุ่งพล่าน เขาคาดหวังคำตอบนี้จากเธอมานานเสียจนจำไม่ได้ว่าคาดหวังมานานเท่าไร แต่ ณ เวลานี้เขากลับต้องการสติมากกว่าสิ่งใด
มือที่กำแน่นคลายออกช้าๆ สะกดกลั้นอารมณ์ที่พลุ่งพล่านลงให้นิ่งสงบอย่างรวดเร็ว มองเธอแวบหนึ่ง “สองเดือนหลังจากนี้ เชื่อไม่เชื่อ คำตอบอยู่ในใจเรา”
ไป๋ซู่เย่เข้าใจความหมายของเย่เซียว
เขายังคงเป็นกังวล กลัวว่าจะตกหลุมบ่อโคลนดูด เขาทนไม่ไหวหากต้องแพ้สองครั้งติดกัน
เธอจุดยิ้มมุมปากไม่พูดต่อ ความจริงเรื่องความรักไม่ได้ใช้ปากที่จะสร้างความเชื่อแก่ใครได้อยู่แล้ว แต่ขึ้นอยู่กับการกระทำ ความทุ่มเท…
เธอไม่มีสิทธิ์ร้องขอเย่เซียวให้ละทิ้งทุกอย่างไว้ด้านหลังเพื่อเชื่อใจเธอโดยไม่สนใจสิ่งใดเป็นครั้งที่สอง
สองเดือนหลังจากนี้…
สองเดือนในช่วงที่ต้องเซ็นสัญญา หากเธอไม่ได้หักหลังเขา ไม่ทำร้ายเขา เขาคงเชื่อในสิ่งที่เธอพูดสินะ
ไป๋ซู่เย่ไม่ได้คุยเรื่องนี้ต่อแค่เบี่ยงหน้าหันไปนอกหน้าต่างเพียงเพราะรู้สึกว่าตัวเองกำลังตกอยู่ท่ามกลางความมืดมัว
ในระยะจำกัดสองเดือน กระทรวงความมั่นคงกับเย่เซียว คล้ายว่าเธอ…ต้องหักหลังฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอยู่ดี…
เธอหันมามองเย่เซียวอีกครั้งด้วยแววตาล้ำลึกราวกับจะจดจำผู้ชายคนนี้ให้ฝังลึกเข้าไปในตา ฝังเข้าไปในใจ…
ราวกับรู้สึกถึงสายตาของเธอเย่เซียวถึงได้หันหน้ามาจับสายตาเธอได้คาหนังคาเขา เธอสะดุ้งไม่ทันเบี่ยงตาหลบหนี ได้ยินเขาพูดเพียง “หลังจากนี้ไปยาพวกนั้นห้ามกินอีก!”
เป็นน้ำเสียงออกคำสั่ง
ไม่เปิดโอกาสให้เจรจา
“ยาอะไร?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก!