อีกอย่างเขารอไปถึงชั้นบนสุดไม่ไหวแล้ว
ริมฝีปากของเย่เซียวบดจูบปากแดงของเธอไปมาอย่างเอาแต่ใจ ทั้งดูดดุนทั้งไล้เลีย จูบไปไม่นานทั้งคู่ก็หายใจหอบหนัก
ทั้งที่เป็นฤดูหนาวแต่อากาศรอบตัวกลับร้อนระอุดั่งไฟแผดเผา ไป๋ซู่เย่คิดว่าเธอใกล้ละลายคาอ้อมแขนเขาอยู่รอมร่อได้แต่โอบลำคอเขาไว้เป็นที่ยึดเหนี่ยว
ไม่รู้ว่าจูบนี้ผ่านไปนานเท่าไร
ริมฝีปากของทั้งคู่ถึงค่อยๆ ผละห่างกันแต่เย่เซียวไม่ได้ถอยออกไปยังคงโอบเอวเธอไม่ปล่อย ยิ่งกว่านั้นปลายจมูกติดชิดปลายจมูกเธอ สันจมูกทั้งสองคนมีเหงื่อซึมอยู่ชั้นบางๆ
รอสักพัก…
เมื่อลมหายใจทั้งคู่กลับมาคงที่ เย่เซียวเชยตามองเธอ หลังผ่านจูบร้อนแรงใบหน้าเล็กที่เคล้าด้วยอารมณ์ของเธอยิ่งเย้ายวนใจเป็นทวีคูณ เรียกให้เย่เซียวใจสั่นรุนแรงอีกครั้ง
เขาหายใจหนักหน่วงทำท่าจะประทับจูบอีกรอบ…
ใช่ เธอเป็นดั่งดอกฝิ่น ให้เขาจูบมากเท่าไรก็ไม่พอ…
แต่โทรศัพท์กลับแผดเสียงดังในเวลาที่ผิดจังหวะนี้
ครู่เดียวเท่านั้นก็ต่างดึงสติกลับมา ไป๋ซู่เย่พิงกำแพงยืนหลังตรงเลื่อนมือลงจากไหล่เขา ใช้ดวงตาที่รื้นด้วยน้ำใสมองเขา “คุณรับโทรศัพท์เถอะ…”
เย่เซียวล้วงโทรศัพท์จากกระเป๋า
หน้าจอโชว์เบอร์ของหยูอัน
เขาใช้มือหนึ่งโอบเธอไว้และอีกมือรับโทรศัพท์
“ฮัลโหล” ต่อหน้าคนนอกเขาต้องทำน้ำเสียงให้นิ่งซึ่งอีกฝ่ายต้องไม่มีทางรับรู้ได้ว่าเมื่อสักครู่เพิ่งเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับพวกเขา
“นายท่าน ลูกค้าของประเทศ M มาถึงแล้ว และกำลังรอคุณอยู่”
“ฉันรู้แล้ว จะรีบไปเดี๋ยวนี้”
หยูอันตอบรับที เย่เซียวไม่พูดอะไรอีกพลางวางสายไป
มีเรื่องด่วนย่อมอยู่นานกว่านี้ไม่ได้
หลังเย่เซียวจ้องมองเธอนิ่งแวบหนึ่ง ถอยหลังปล่อยตัวเธอ “ไปเถอะ ผมส่งคุณเข้าไปในลิฟต์ก่อน”
“อืม” ไป๋ซู่เย่พยักหน้า
ทั้งสองคนเดินออกมาจากประตูทางออกฉุกเฉินพร้อมกันโดยที่ขณะไป๋ซู่เย่เข้าไปในลิฟต์อีกครั้งนั้นไม่ได้อาลัยอาวรณ์เหมือนเมื่อครู่ เธอโบกมือให้เย่เซียวก่อนขึ้นไปชั้นบน
เย่เซียวยืนอยู่ตรงนั้น เห็นลิฟต์ที่ทะยานสู่ชั้น 88 ถึงหมุนตัวเดินจากไป
ข้างนอกลมกำลังพัดแต่เขากลับไม่รู้สึกหนาว
ดอกหญ้าสีเขียวสองข้างทางทั้งที่มันดูเปล่าเปลี่ยวในฤดูหนาวแท้ๆ แต่ในสายตาเขาตอนนี้กลับรู้สึกอีกแบบหนึ่ง จะว่าไปก็สวยดี
……………………
หยูอันยังจับสังเกตถึงความผิดปกติของเย่เซียวได้
การเจรจาโครงการนี้กับประเทศ M ความจริงยืดเยื้อมานานตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิถึงตอนนี้ ในจุดที่ต้องแบ่งผลประโยชน์เขาไม่เคยอ่อนข้อให้
หากว่าตามปกติครั้งนี้น่าจะมีโอกาสปฏิเสธไปเหมือนเดิมถึงจะถูก แต่ไม่คิดว่าขั้นตอนการเจรจาจะดำเนินได้ราบรื่นอย่างมาก อีกฝ่ายยังรู้สึกตกใจ
หลี่สือถามหยูอัน “นี่มันเกิดอะไรขึ้น? เรื่องที่คารังคาซังมาครึ่งปีกว่าทำไมถึงจบลงง่ายๆ แบบนี้?”
“จัดการได้ก็พอ เผื่อจะได้ไม่ต้องค้างอยู่อย่างนั้น ตอนนี้เซ็นสัญญาไปแล้วทุกคนต่างก็โล่งอกได้สักที”
“เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า ทั้งที่ช่วงนี้นายท่านอารมณ์แย่มาก แต่เมื่อกี้ดูแล้วมันต่างจากเดิม สักครู่นี้เลขาเข้าไปทำแก้วแตกไปใบหนึ่ง เขาไม่แม้แต่จะขมวดคิ้วสักนิด”
หยูอันมองหลี่สือแวบหนึ่งไม่ตอบแต่ดันถามกลับ “นายคิดว่าเรื่องที่ทำให้เขาอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ จะมีใครได้อีก?”
หลี่สือก็เข้าใจทันควัน
ลอบถอนหายใจอย่างหนักอึ้ง
“นายว่า…พวกเขาจะอยู่ด้วยกันจริงๆ มั้ย?”
หยูอันไม่ตอบแค่จุดบุหรี่หนึ่งมวนสูบไปสองทีแล้วย้อนถาม “จากนิสัยของนายท่าน ถ้าเขาเลือกจะอยู่ด้วยกันกับไป๋ซู่เย่ นายว่าผลสุดท้ายจะเป็นยังไง?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก!