เธอเปลี่ยนเป็นชุดเรียบร้อย คิดอยากจะสร้างความประทับใจแก่คุณแม่ของเย่เซียว
ใบหน้าคุณแม่เย่ยังคงแต้มด้วยรอยยิ้มจางๆ ดูเป็นมิตรและเข้าหาง่าย
“คุณหญิง ไม่รู้ว่าคุณหญิงมาหาหนูเพราะมีธุระสำคัญอะไรหรือเปล่า?”
ระหว่างที่เดินเข้าลิฟต์พร้อมกับคุณหญิงเย่ ไป๋ซู่เย่ชิงถามก่อน
“ความจริงไม่มีธุระสำคัญอะไรหรอก แค่ได้ยินพวกหยูอันคุยกันถึงรู้ว่าคุณยังไม่ไปจากเมืองเยียว วันนี้ผ่านโรงแรมพอดีเลยคิดอยากจะมาหาคุณสักหน่อย” คุณหญิงเย่ไล่สายตาปรีดาผ่านตัวไป๋ซู่เย่ เธอชอบเด็กคนนี้จากใจ คนที่ทำให้ลูกชายเธอถูกใจได้ย่อมเป็นเด็กสาวที่ยอดเยี่ยม อีกทั้งตั้งแต่ครั้งแรกที่ทั้งคู่เจอกันใบหน้าอีกฝ่ายคงรอยยิ้มบางๆ เป็นกันเองแต่ก็ไม่เสียมารยาท จากจุดนี้เมื่อเทียบกันแล้วน่าหลันออกจะอ่อนด้อยกว่าหน่อย อาจจะด้วยความที่อยากทำตัวให้ดี ตั้งแต่ครั้งแรกที่น่าหลันพบเธอก็ตื่นเต้นจนแทบพูดไม่รู้เรื่อง เคอะเขินไปหมด
“ความจริงน่าจะเป็นหนูที่ไปหาคุณนายถึงจะถูก แต่ว่า…” ไป๋ซู่เย่เอ่ยปากเบาๆ พูดถึงนี่ก็หยุดชะงักไม่พูดต่อ
คุณหญิงเย่กล่าว “เข้าใจได้”
คฤหาสน์ไฟเข้าไม่ได้ง่ายๆ จริงๆ แต่ว่า… “ก็ไม่ต้องรีบร้อนหรอก จากนี้ไปน่ะเรามีโอกาสได้คุยกันอีกเยอะ”
ทั้งคู่คุยกันพร้อมลงจากชั้น 88 รอถึงหน้าประตูโรงแรมรถยนต์ได้รออยู่หน้าประตูแล้ว
“คุณไป๋ ถ้าไม่รังเกียจไปทานข้าวเย็นกับฉันดีมั้ย? ความจริงฉันอยากเจอคุณมากมาตั้งนานแล้ว อยากทำความเข้าใจคุณให้ดีสักหน่อย” ผู้หญิงที่ลูกชายชื่นชอบ เธอเองก็แปลกใจเช่นกัน
ไป๋ซู่เย่ไม่มีเหตุผลที่ต้องปฏิเสธคำเชื้อเชิญที่เป็นมิตรของผู้ใหญ่ท่านหนึ่งเลยไม่ได้บอกปัด พยักหน้าตอบรับไป
บอดี้การ์ดเปิดประตูรถ ไป๋ซู่เย่ก้าวขึ้นรถตามคุณหญิงเย่
………………
“ฉันได้ยินว่าเมื่อก่อนคุณเคยคบกับเย่เซียวของเรามาแล้ว ใช่มั้ย?” คุณหญิงเย่ยิ้มถาม
เมื่อก่อน…
นั่นน่าจะนับสินะ อย่างน้อยในใจเธอ เธอคิดว่าช่วงเวลานั้นเป็นความรักที่งดงามที่สุดมาโดยตลอด
เธอหยักหน้า “ค่ะ หลายปีก่อนแล้ว ตอนนั้นหนูกับเย่เซียวเจอกันที่เมืองเยียวนี่แหละค่ะ–สิบปีก่อน”
“ที่แท้ก็นานขนาดนั้นแล้วเชียว…” คุณหญิงเย่กล่าว “แบบนี้แล้วพวกคุณก็คือคนที่รักยาวนานกันทั้งคู่ สิบปีไม่สั้นนะ พวกคุณยังกลับมาพบเจอกันได้ พรหมลิขิตนี้ต้องรักษาไว้ดีๆ ชีวิตคนเราไม่มีเวลาที่เหลือเฟือให้วัยรุ่นอย่างพวกคุณไปฟุ่มเฟือยหรอก”
ไป๋ซู่เย่ยิ้มขมขื่นทีหนึ่ง
หากเป็นไปได้เธอเองก็อยากรักษาไว้นี่นา…
“เย่เซียวของเราใกล้จะอายุสามสิบเอ็ดแล้ว เปลี่ยนเป็นคนอื่นที่มาถึงอายุอย่างเขาคงไม่รู้ว่าลูกโตขนาดไหนแล้ว แต่เขาน่ะ…แม้แต่เรื่องแต่งงานยังทำเอาฉันปวดหัวเหลือเกิน”
ไป๋ซู่เย่ได้แต่ยิ้ม ไม่ตอบรับใดๆ
จะไม่ปวดหัวได้อย่างไร?
แต่งงานกับน่าหลันไปสองครั้งที่สุดท้ายก็มีจุดจบอันน่าเศร้า
“คุณไป๋ คุณอย่าเห็นว่าก่อนหน้านี้เย่เซียวของเราใกล้ชิดสนิทสนมกับน่าหลัน ความจริงในใจเขามีแต่คุณทั้งนั้น คำพูดนี้ออกมาจากปากคนนอกอย่างฉันอาจจะไม่น่าเชื่อเท่าไหร่ แต่เด็กนั่นชอบเก็บทุกอย่างไว้ในใจ ถ้าฉันไม่พูดแทนเขา เขาต้องไม่พูดสักประโยคแน่ๆ ฉันเห็นสภาพที่เขาเสียใจก็ปวดใจเลยอดไม่ได้ที่จะมาหาคุณ มาบอกเรื่องนี้ให้คุณ”
ความจริงไป๋ซู่เย่รู้ใจเย่เซียวดี คนอย่างเย่เซียวหากชอบใครคนหนึ่งอย่างแท้จริงจะไม่ใช้ปากในการบอกแต่มักใช้การกระทำบอกให้คุณรู้ เมื่อตอนที่เขาเสี่ยงชีวิตไปทะเลทรายซ่าเหยียน เธอก็รู้ใจเขาอย่างดีแล้ว
เพียงแต่พอมาได้ฟังจากปากคุณหญิงเย่ในตอนนี้ก็อดรู้สึกอุ่นใจไม่ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก!