ไป๋ซู่เย่ถึงได้สติ
ท่าทางที่เขาแทบจะลอกหนังเธอเป็นๆ ไม่ใช่เพราะเรื่องเอกสารเขาแต่เพราะรูปถ่ายติดบัตรใบนั้นของเธอ?
เธอเงยหน้าขึ้น “เย่เซียว คนในรูปใบนั้นคือฉัน”
เย่เซียวเงียบไปอึดใจ แล้วโต้กลับอย่างไม่รู้สึกผิด “แล้วยังไงล่ะ? เป็นคุณ คุณก็เอาไปโดยไม่ถามก่อนได้เหรอ?”
“ตอนคุณเอารูปนี้ของฉันไปก็ไม่ถามก่อนไม่ใช่เหรอ?”
“ตอนนี้คุณอยากมาเรียกร้องสิทธิ์การครอบครองสิ่งของกับผมเหรอ?” เย่เซียวใช้มือข้างที่ว่างล้วงกระเป๋าเสื้อโค้ทเธอเสร็จสรรพ เธอรีบจับมือเขาไว้ “คุณจะเอารูปฉันไปก็ได้ แต่…ฉันต้องการมีการแลกเปลี่ยน”
“แลกเปลี่ยน?”
“คุณต้องเอารูปของคุณให้ฉันใบหนึ่งถึงจะได้”
เห็นได้ชัดว่าเย่เซียวไม่คิดว่าเธอจะยื่นข้อเสนอนี้มาเลยตกใจไปครู่หนึ่ง สีหน้าอ่อนลงฮวบ “คุณจะเอารูปของผมไปทำไม?”
ไป๋ซู่เย่ไม่ตอบแต่ถาม “แล้วคุณจะให้หรือไม่ให้? ถ้าคุณไม่ให้ รูปใบนี้ของฉันก็ไม่ให้คุณแล้ว”
เธอว่าแล้วก็กระชับมือที่ซุกในกระเป๋าแน่น กำรูปไว้ในฝ่ามือจริงๆ
เย่เซียวจะปล่อยให้เธอข่มขู่แบบนี้ได้อย่างไร? กระตุกปลายนิ้วก็แกะมือที่กำแน่นของเธอได้อย่างง่ายดาย รูปถ่ายตกในมือเขาทันที
ไป๋ซู่เย่อยากแย่งกลับมาแต่เย่เซียวเร็วกว่าเธอหนึ่งก้าว หันหลังเอารูปไว้ในลิ้นชักแล้วกดล็อกรหัสทันท่วงที
ไป๋ซู่เย่จ้องเย่เซียวแล้วบ่นอุบอย่างไม่พอใจ “นี่คุณแย่งชัดๆ”
“คุณยังไม่ตอบผมเลย—ว่าคุณจะเอารูปผมไปทำไม?” ถามย้ำอีกครั้ง เย่เซียวจ้องเธอไม่ละสายตาด้วยใจที่แอบคาดหวังลึกๆ
เขาเก็บรูปเธอไว้หลายปีขนาดนี้จึงมีความหมายเสมือนยา ทุกครั้งที่รู้สึกแย่จะหยิบรูปของเธอออกมาดูเพื่อปลอบตัวเอง
แต่ในเวลานั้นความคิดถึงคำนึงหาแสนทรมานก็กรีดหัวใจเขาอยู่ทุกครั้งไป ทำให้ภายหลังเขาเก็บรูปนี้ลึกสุดของมุม ด้วยกันกับเธอ
ไป๋ซู่เย่เงียบไปครู่ ใช้สายตาซับซ้อนมองเขาด้วยใจที่วูบไหว “ถ้าเกิดว่า…จะเก็บเป็นที่ระลึก ได้มั้ย?”
“ระลึก?” ด้วยคำนี้เกิดไฟนิรนามผุดขึ้นกลางใจของเย่เซียวอย่างน่าแปลก
เวลาใดถึงต้องการระลึกถึง? ทุกครั้งที่มีการจากลา หรือไม่ทราบว่าครั้งหน้าที่จะกลับมาพบเจอกันคือเมื่อไรถึงต้องใช้คำว่า ‘ระลึก’ คำนี้!ฉะนั้นตอนนี้เธออยู่ที่นี่ยังคงคิดเหมือนเดิม พร้อมจะถอนตัวจากโลกของเขาเสมออย่างนั้นหรือ?!
แต่เมื่อครู่เขานั่งที่โต๊ะอาหารกลับยังจินตนาการถึงภาพครอบครัวสามคนในอนาคตของพวกเขาอยู่…
ความต้องการเพียงฝ่ายเดียว ความคิดเข้าข้างตัวเองมันสะท้อนให้เห็นถึงความโง่เขลา ช่างโง่เง่าจริงๆ!
เย่เซียวไม่ตอบอะไร เขากลัวว่าหากหลุดคำพูดไป อารมณ์จะอยู่เหนือการควบคุม
จุดบุหรี่ยืนริมหน้าต่างแล้วสูบเข้าไปหนักๆ สองที ไป๋ซู่เย่มองแผ่นหลังที่เย็นชาของเขา หมายจะพูดบางอย่างแต่ก็ไม่ได้พูดออกไป
รอสักพักเย่เซียวดับบุหรี่นั่นก่อนหันหน้ามา “ไปเถอะ ผมจะส่งคุณกลับไป”
ทุกคำที่เอื้อนเอ่ยช่างเย็นชาเหลือเกิน
พูดจบเดินสวนไหล่เธอไปโดยไม่แม้แต่จะหันมามองเธอสักแวบเดียว
เย่เซียวที่เป็นแบบนี้ ไป๋ซู่เย่รู้สึกปวดหนึบที่หัวใจ เธอพบว่านับวันตัวเองในช่วงนี้เริ่มทนท่าทีเย็นชาจากเขาไม่ได้
หลังกลับมาพบกับเขา เธอคิดว่าหัวใจของเธอทำจากเหล็กกล้าที่ต่อให้เขาจะประชดประชันเธอ ย่ำยีเธอ ทำให้เธอเสียใจอย่างไรเธอก็ทนได้ทั้งนั้น แต่ตอนนี้กลับใจบอบบางมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งน้อยใจง่ายขึ้นเรื่อยๆ…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก!