“เย่เซียว ถ้าเป็นไปได้ ฉันไม่อยากให้คุณเสียใจ…ฉันหวังอยากเห็นคุณมีความสุขมากกว่าใคร…”
เย่เซียวตาวาว จากนั้นประทับจูบริมฝีปากเธออย่างแรงโดยที่บนปากเธอยังปนด้วยน้ำตา ปลายลิ้นของเขาสัมผัสโดนพลางรู้สึกเจ็บไปถึงหัวใจ
เป็นความรู้สึกที่เหมือนหัวใจของเขาในเวลานี้…
เขาจูบรุนแรงและใจร้อนไม่ได้ทะนุถนอมแต่อย่างใดจนเธอเริ่มเจ็บตรงปาก แต่เธอกลับไม่ผลักเขาออก ทำใจผลักเขาไม่ได้ ยิ่งทำใจขืนจากจูบเขาไม่ได้…
กลับยกสองแขนโอบลำคอเขาไว้ เชิดหน้าคล้ายเชื้อเชิญให้เขาจูบหนักหน่วงกว่าเดิม…
“บอกผมมาว่ายังจะไปอยู่มั้ย?” เย่เซียวผละจากเธอขณะกำลังจูบอยู่ มือใหญ่จับปลายคางเธอ เขาต้องการคำยืนยันจากเธอโดยด่วน “จะมีวันหนึ่งที่คุณไปจากผมอีกมั้ย?”
“ไม่แล้ว…ขอแค่คุณไม่ไล่ฉันไป ฉันจะไม่ไปจากคุณ…” ไป๋ซู่เย่พึมพำ ดวงตามีน้ำใสบางๆ เอ่อคลอ มองเขาด้วยแววตาล้ำลึก “เย่เซียว ถ้ามีวันหนึ่งฉันไปจากคุณอีกครั้ง ฉันยอมตายต่อหน้าคุณ…”
ประโยคสุดท้ายสร้างความสะท้านแก่เย่เซียวอย่างแรง
เขากัดริมฝีปากเธอแรงๆ ทีหนึ่ง ที่ต่อให้ทำเช่นนี้แล้วยังยากจะปลอบประโลมอารมณ์ที่พลุ่งพล่านในใจเขา กัดฟันพูด “คุณกล้าตายเหรอ!ไป๋ซู่เย่ ถ้าคุณกล้าตาย ผมจะลอกเส้นเอ็นคุณออกมาแล้วดื่มเลือดคุณ!”
เธอหัวเราะทั้งน้ำตา“เย่เซียว คุณโหดร้ายเกินไปแล้ว…ถึงตอนนั้นคิดจะข่มขืนศพด้วยหรือเปล่าเนี่ย?”
เธอยังหัวเราะได้อีก!
เย่เซียวใช้สายตาเย็นชามองเธอแล้วกัดฟันกรอด“ตอนนี้ผมไม่ใช่แค่จะข่มขืนศพ แต่จะข่มขืนคุณด้วย!”
เธอหลุดเสียงร้องเบาๆ ทีหนึ่งจากนั้นก็ถูกเขาช้อนตัวทันที โยนใส่เตียงใหญ่แสนนุ่มด้านหลัง ไป๋ซู่เย่ยังไม่ทันไหวตัวทันร่างสูงใหญ่ก็พุ่งเข้ามา ตัวเธอถูกชายหนุ่มที่กำลังเดือดพล่านคร่อมทับไว้ทั้งตัว
สองมือเขายันไว้สองข้างลำตัวเธอ แสงไฟสว่างจ้าตกกระทบบริเวณเหนือศีรษะ เงาของเขาพาดลงมาดั่งผืนฟ้า
ทั้งสองคนจ้องมองกันและกันด้วยสายตาลึกซึ้ง หลังผ่านไปชั่วครู่เดียวกลับมาแลกจูบกันเหนียวแน่น ร่างกายเธอเย็นเฉียบ เย่เซียวกอดเธอไว้ในอ้อมแขนไม่ห่างเพื่อต้องการถ่ายทอดความอุ่นจากร่างกายให้เธอ
ซึ่งความจริงแล้ว…
ตัวเขาไม่เย็นเสียที่ไหนกันล่ะ? แต่ไหนแต่ไรที่เขาอาศัยเธอในการหาความอบอุ่น…
มือของไป๋ซู่เย่สอดเข้าใต้เสื้อไหมพรมบนตัวเขา ลูบไล้ตลอดตั้งแต่หน้าอกไปจนถึงแผ่นหลัง กล่าวอย่างปวดใจ “เย่เซียว คุณผอมลง…”
เย่เซียวกอดเธอยังรู้สึกได้ว่าเธอผอมลงมากกว่าตัวเองเสียอีก จะไม่ผอมได้อย่างไร? ทั้งยานอนหลับ ทั้งยาต้านโรคซึมเศร้า เธอทนมานตัวเองมาโดยตลอด!
เย่เซียวยกตัวเธอขึ้นมาให้นั่งบนหน้าขาตัวเอง ริมฝีปากขบกัดหูของเธอ แนบชิดข้างหูเธอพึมพำ “จากนี้ไปทานข้าวให้ดี!ห้ามผอมไปกว่านี้แล้ว!”
ไป๋ซู่ย่ถูกมือเขาเล่นจนตัวหมดแรงอ่อนยวบและสั่นสะท้าน
มือกระชากเสื้อไหมพรมเขาถึงจะทรงตัวไหว ประโยคที่เอ่ยออกมาขาดห้วง “งั้นคุณ…ก็เหมือนกัน…ทานข้าวดีๆ…ดูแลตัวเองหน่อย…”
“ได้ คุณอยู่เป็นเพื่อนผม” นิ้วเขาลูบไล้ระหว่างเอวเธอแผ่วเบา
แก้มไป๋ซู่เย่แต้มสีระเรื่อจางๆ เบี่ยงหน้าไปโผล่ฟันขาวสะอาดกัดปากเขาเบาๆ “ฉันอยู่เป็นเพื่อนคุณได้…แต่ ถ้าพ่อบุญธรรมคุณรู้ว่าเราสองคน…ฉันกลัวจะทำให้คุณลำบากใจ…”
“รอท่านกลับมา คุณไปพบท่านกับผม”
ไป๋ซู่เย่เบิกตากว้างมองเขา “คุณพูดจริงเหรอ?”
“ผมไม่ใช่คุณ ผมไม่เคยโกหกคุณ”
ไป๋ซู่เย่ไม่ตอบ แค่ซบหน้าตรงลาดไหล่เย่เซียว ประโยคนี้ทำเอาเธอไม่สามารถโต้กลับได้ เรื่องเมื่อสิบปีก่อนอย่างไรดีเย่เซียวก็ยังยากที่จะลืมเลือน นั่นสิ เรื่องใหญ่โตขนาดนี้ ใครเล่าจะทำเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นมาก่อนได้?
เย่เซียวทำไม่ได้ หยูอันทำไม่ได้ พี่น้องยี่สิบห้าชีวิตที่สูญเสียไปทำไม่ได้ แม้แต่เธอ…ยังไม่เคยลืมได้…
ติดอยู่ในใจเสมอมา ภายนอกดูคล้ายจะหายดีแต่ข้างในกลับยังเป็นแผลเหวอะหวะ…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก!