สุดท้ายขณะไป๋ซู่เย่วางถ้วยไว้ในเครื่องล้างจาน เย่เซียวได้ใส่เสื้อผ้าเสร็จสรรพ เขากลัดกระดุมแขนเสื้อปรายตามองเธอแวบหนึ่งแล้วกล่าว “ไปโรงพยาบาล”
“โอเค” เธอตอบรับที เดินกลับไปเปลี่ยนเสื้อที่ห้องนอน
ระหว่างที่เปลี่ยนเสื้ออยู่เธอมองตัวเองในกระจกนิ่ง อดคิดไม่ได้ว่าหากผลจากการตรวจครั้งนี้ออกมาว่าเป็นเนื้อร้าย ทุกสิ่งทุกอย่างก็ไม่เกี่ยวกับเธออีกต่อไปแล้วใช่ไหม? เธอสามารถอ้างเหตุผลสุขภาพในการขอยุติการปฏิบัติภารกิจถึงขั้นลาออก จากนี้เป็นต้นไปก็ห่างไกลจากเรื่องพวกนี้ได้?
แต่…
หากเธอไปจริง กระทรวงความมั่นคงไม่มีวันปล่อยเย่เซียวไปแน่
พอจะคาดเดาได้ว่าจะมีการปฏิบัติการลอบสังหารที่ดุเดือดมากขนาดไหนหลังจากนั้น
นึกได้เช่นนั้นไป๋ซู่เย่ก็รู้สึกตีบตันที่หัวใจ พรูลมหายใจออกมานิ่งๆ ร่างกายของเย่เซียวในตอนนี้ต้านอะไรไม่ไหวเลยแม้แต่น้อย เธอไม่กล้าเสี่ยง อย่างน้อยตอนนี้ไม่กล้า
ส่ายศีรษะห้ามตัวเองคิดมากไปกว่านี้ เปลี่ยนเสื้อผ้าออกมา เย่เซียวเห็นเธอใส่เพียงเสื้อผ้าสองชั้นก็ทำหน้าไม่พอใจ หยิบเสื้อกันหนาวคลุมไหล่เธอกระชับเสื้อเธอให้มิดชิดสีหน้าถึงดูดีขึ้นบ้าง
…………
ถึงโรงพยาบาลทำการตรวจใหม่ทุกอย่าง เย่เซียวยืนรออยู่ข้างนอกสักพัก ตัดสินใจเดินหนีออกมาเพราะรู้สึกอึดอัดตรงหน้าอก ไปสูบบุหรี่ในบริเวณสูบบุหรี่ อัดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ
ไป๋ซู่เย่ออกมาตามหาอยู่พักใหญ่ถึงเจอเขาที่บริเวณสูบบุหรี่
ภายใต้ควันบุหรี่สีหน้าเขาหนักอึ้งและท่าทางสิ้นหวัง ไป๋ซู่เย่รู้ว่าเขาเป็นห่วงตนจึงจุดยิ้มมุมปากให้ตัวเองดูผ่อนคลายให้มากที่สุด เปิดประตูเข้าไปในเขตบริเวณสูบบุหรี่
เย่เซียวได้ยินเสียงเคลื่อนไหว มองไปทางประตูเห็นเธอเลยดับไฟบุหรี่ ย่างกรายเข้าไปหาเธอ
มือใหญ่จูงมือเธอมากุมไว้อย่างเป็นธรรมชาติ
“ตรวจเสร็จแล้วเหรอ?” เย่เซียวถาม อาจจะด้วยสาเหตุที่เมื่อครู่สูบบุหรี่หนักเกินไปเสียงเลยติดแห้งเล็กน้อย
“อืม คุณหมอบอกว่าสองชั่วโมงหลังจากนี้ถึงจะรู้ผล” ไป๋ซู่เย่มองเขาครู่หนึ่ง “ถังซ่งบอกว่าร่างกายตอนนี้ของคุณแย่มาก สูบบุหรี่ไม่ได้ ฉันว่าคุณเลิกสูบจะดีกว่า”
นานทีเย่เซียวจะยอมเชื่อฟังขนาดนี้ พยักหน้ารับ “ได้”
ไป๋ซู่เย่หัวเราะทีหนึ่ง “นี่คุณสัญญากับฉันแล้วนะ คุณพูดแล้วต้องทำให้ได้”
เย่เซียวล้วงซองบุหรี่กับไฟแช็กในกระเป๋าออกมาใส่มือเธอ ความจริงแล้วทุกเรื่องที่เขาสัญญากับเธอ เขาไม่เคยผิดคำพูดมาก่อน
ไป๋ซู่เย่เห็นของที่ถูกยัดเต็มมือก็นึกดีใจ โยนทิ้งถังขยะต่อหน้าเขา เขาไม่แม้แต่จะกระตุกคิ้วสักนิด แค่เธอมีความสุขก็พอ
ทั้งสองคนเดินจูงมือเข้าลิฟต์
หลังออกจากโรงพยาบาลเดิมทีไป๋ซู่เย่นึกว่าเขาจะพาตนกลับโรงแรมแล้วเขาควรเข้าบริษัท แต่ผลปรากฎว่าเย่เซียวกลับพาเธอมาที่ห้างสรรพสินค้า
“ทำไมถึงมาที่นี่ล่ะ?”
“ซื้อของ ลงรถ”
ไป๋ซู่เย่รับคำในลำคอแล้วลงรถตามเย่เซียว
ไป๋ซู่เย่เดินเข้าร้านเสื้อผ้าสำหรับผู้หญิงถึงรู้ว่าที่แท้แล้วเย่เซียวพาตนมาซื้อเสื้อผ้า
อีกทั้งเขาไม่ดูก่อนด้วยซ้ำ แค่เลือกตัวที่หนาที่สุด
“ไปลองก่อนว่าอุ่นหรือเปล่า” เย่เซียวยัดเสื้อไหมพรมและเสื้อกันหนาวหลายตัวที่พนักงานเลือกให้ใส่มือเธอ
ไป๋ซู่เย่นึกขัน
“เย่เซียว ผู้หญิงเลือกเสื้อผ้าสำคัญที่ว่าใส่แล้วสวยหรือเปล่า อุ่นหรือไม่อุ่นมันไม่สำคัญเลยสักนิด”
“ผมคิดว่ามันสำคัญมาก” เย่เซียวโต้กลับเธอด้วยใบหน้าบูดบึ้ง
อย่างไรเสียในสายตาเขา เธอสวมชุดไหนก็สวย
แน่นอนว่าต่อให้สวยขนาดไหนก็สวยสู้ตอนเธอไม่ใส่อะไรเลยไม่ได้
“คุณคิดอะไรอยู่?” ไป๋ซู่เย่สังเกตถึงสายตาของเย่เซียวที่มองมาทางตนอย่างผิดแปลกไปเลยหรี่ตาจ้องมองเขาเย่เซียวถึงหลุดจากภวังค์ แววตาลึกซึ้งขึ้น “ถ้าคุณไม่ลองอีก งั้นผมจะช่วยคุณเอง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก!