“ความจริง ฉันฝันถึงคุณบ่อยๆ ทั้งดี ไม่ดี ทั้งหวานชื่น เสียใจ…” ไป๋ซู่เย่เอ่ย สายตาจ้องหลังมือเขาตลอดไม่ได้เงยหน้า เสียงแผ่วเบาราวกับไม่ได้พูดให้เขาฟังกลับคล้ายพึมพำเองมากกว่า “ฉันคิดถึงคุณมาก คิดถึงจนภายหลังตัวเองเริ่มผิดปกติ…”
ลมหายใจเย่เซียวหอบหนัก
แค่ไม่กี่ประโยคสั้นๆ ของเธอได้สร้างความวูบไหวแก่หัวใจชั่วขณะ
เขาแทบจับพวงมาลัยไว้ไม่แน่น
นี่ถือเป็นคำสารภาพรักไหม?
ต่อให้ช้าไปสิบปีก็ตาม
ไป๋ซู่เย่ไม่รู้อารมณ์ความคิดเขาได้แต่จมอยู่ในห้วงความคิดในอดีตของตัวเอง น้ำเสียงยิ่งน่าสงสารลงเรื่อยๆ “เพราะแบบนี้ ฉะนั้น ถึงเลยได้ทรมานตัวเองเหมือนพร้อมตายตลอดเวลา…”
สิ้นคำของเธอเย่เซียวไม่ได้ปริปากพูดอยู่ช่วงหนึ่ง ไม่แม้แต่ส่งสายตาให้เธอสักนิด แค่ขับรถต่อไปเงียบๆ
ไป๋ซู่เย่เดาไม่ออกว่าใจเขากำลังคิดอะไรอยู่ แต่คำสารภาพรักที่ไม่ได้รับการตอบรับเช่นนี้ก็เป็นเรื่องที่สร้างความผิดหวังแก่เธอ
ดังนั้นเธอไม่พูดอะไรอีก แค่เบนหน้ามองไปนอกหน้าต่างพยายามปรับอารมณ์ตัวเอง
แต่ว่า…
ผ่านไปครู่เดียวจู่ๆ รถยนต์ก็หักเลี้ยวจากนั้นได้ยินเสียงล้อเสียดสีกับพื้นดัง ‘เอี๊ยด–’ ก่อนจะจอดข้างทาง
เธอหันหน้าไปอย่างฉงน ยังไม่ทันรอรู้สาเหตุว่าเกิดอะไรขึ้นก็ถูกเย่เซียวจับปลายคางให้เธอหันหน้าไปประจันหน้าเขา
ทั้งคู่สบสายตา ใบหน้าห่างกันเพียงคืบ
ใกล้ถึงขนาดทุกสีหน้าของเขาตกอยู่ในสายตาของเธอทั้งหมด
สายตาซับซ้อนที่แฝงด้วยหลายห้วงอารมณ์ เธอเห็นมันก็รู้สึกใจวูบไหว
ลมหายใจติดขัดเล็กน้อย
“เย่เซียว…” เธอเรียกชื่อเขาเสียงเบาทีหนึ่งด้วยน้ำเสียงแหบแห้งน้อยๆ ยกมือขึ้นจับมือเขา
เสียงลมหายใจของเขาหนักอึ้งเช่นกัน “ที่พูดเมื่อกี้ เป็นความจริงใช่มั้ย? ไม่ได้โกหกผมใช่มั้ย?”
ความเชื่อใจระหว่างพวกเขายังคงมีสิ่งบางๆ บางอย่างกั้นไว้อยู่ เขาอยากเชื่อแต่ก็ลองเชิง กลัวที่จะเชื่อ
ไป๋ซู่เย่ยิ้มขมขื่นไม่บีบบังคับให้เชื่อ นี่เป็นสิ่งที่เธอทำตัวเอง
“ผ่านไปตั้งหลายปีแล้ว ฉันไม่มีทางจะพิสูจน์ให้คุณเห็นว่าเป็นความจริงหรือโกหก จะให้คุณเข้าฝันฉันเพื่อพิสูจน์ก็ไม่ได้”
เย่เซียวจ้องเธอ วินาทีถัดมากัดปากเธอแรงๆ ราวกับเป็นการลงโทษไปในตัว เป็นการกัดจริงๆ ที่ไป๋ซู่เย่รู้สึกเจ็บจนหลุดเสียงร้องออกมา “เย่เซียว เจ็บ…”
เขารีบผ่อนแรงลงแต่ยังแนบปากชิดปากเธอไม่ถอยห่าง สายตาจ้องมองเธอนิ่ง“ถ้าคิดถึงขนาดอย่างที่คุณว่า ทำไมสิบปีนี้ไม่มาหาผมเลย?”
ไป๋ซู่เย่ได้แต่กระชับมือเขาแน่น ส่ายศีรษะอย่างเจ็บปวด ไม่อาจให้เหตุผลอธิบายอะไรได้
เหตุผล พวกเขาต่างรับรู้กันดีอยู่ในใจ
ก้าวนั้นใช่ว่าจะก้าวผ่านได้ง่ายๆ? ต่อให้ผ่านไปสิบปี ยังไม่ทำให้ปมในใจพวกเขาคลายลงสักนิด
เธอยืนอยู่ในตำแหน่งที่ไร้ข้อแก้ตัวที่สุด แล้วมีสิทธิ์อะไรที่จะเป็นฝ่ายเรียกร้องก่อน?
เย่เซียวไม่ถามให้มากความ เขาไม่ได้สืบเสาะความจริงของคำพูดเหล่านี้อีก ต่อให้เธอหลอกเขาอีกครั้ง ณ เวลานี้ เขาอยากเดินตามหัวใจของตัวเอง
หากมีวันใดวันหนึ่ง—วันที่เธอทรยศหักหลังเขาอีกหน เขาจะตายไปพร้อมกับเธอ ตายด้วยกัน ถือว่าไม่ได้เสียแรงที่ยืดเยื้อกันมายาวนานถึงสิบปี
“เย่เซียว โทรศัพท์คุณดัง” เสียงเตือนของไป๋ซู่เย่ดึงสติของเขากลับมา
เขาหลุดจากภวังค์มองเธอแวบหนึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก!