พูดถึงสุดท้ายเสียงของเธอยิ่งสะอื้นหนักขึ้นจนแทบพูดต่อไม่ได้
“ผมไม่หลับ”
ไป๋ซู่เย่กัดฟันแบกเขาเดินลงเขาทีละก้าวๆ อย่างยากลำบาก ใบหน้ามีเหงื่อเม็ดใหญ่หยดลงมาเป็นเม็ดๆ กระดูกซี่โครงปวดร้าวราวกับพร้อมจะแตกหักเสมอ แต่เธอกลับกัดฟันแน่นยืนหยัดต่ออย่างยากเย็น
“ซู่ซู่ ฟังผมนะ ปล่อยผมลง…”
“ฉันไม่!” เธอไม่เคยดื้อรั้นขนาดนี้มาก่อน น้ำตาปนเหงื่อที่ไหลทะลักลงมาไม่หยุด เธอรู้สึกได้ชัดเจนดีว่าเขาที่อยู่บนแผ่นหลังเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ หนักขึ้นเรื่อยๆ…
เธอเจ็บไปทุกส่วนของร่างกายเหมือนอวัยวะภายในปั่นป่วนเข้าด้วยกัน บีบรัดแน่นให้หายใจไม่ออก
จู่ๆ เพิ่งเข้าใจความสิ้นหวังกับความหวาดผวาในใจเขาตอนก่อนที่เธอใกล้ตาย เธอไม่กล้าคาดคิดว่าหากวันนี้เย่เซียว…
ไม่!
ไม่ได้!
“เย่เซียว คุณห้ามทิ้งฉันไปนะ…คุณจะทำแบบนี้กับฉันไม่ได้…” น้ำตาเม็ดโตของเธอหล่นกระแทกพื้น สูดหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะแบกเขาให้มั่นคง
ถ้าหาก…ถ้าหากว่าเธอฟื้นมาเพียงเพื่อพบกับการลาจากอีกครั้ง เมื่อนั้นเธอยอมหลับใหลไปเช่นนั้นตลอดกาล…ยอมปล่อยให้ตัวเองไม่มีวันฟื้นขึ้นมาอีก…
ไม่รู้ว่าทนแบกเขาเดินมานานเท่าไร ในที่สุดก็มีคนใจดีเดินผ่าน
หลายคนช่วยเธอแบกเขาลงจากเขา เธอซาบซึ้งในน้ำใจจนน้ำตาไหลอาบแก้มพูดขอบคุณปนร้องไห้ เห็นท่าทางของเขายิ่งไม่กล้าชักช้า รีบขับรถตรงไปยังโรงพยาบาลประจำเมือง
โทรศัพท์หาถังซ่ง ยังไม่ทันเอ่ยปากน้ำตาก็พลั่งพรูลงมา
ถังซ่งทำการเตรียมอย่างเร่งด่วนในอีกฝั่ง
————————
หลายชั่วโมงผ่านไป
เมื่อขับรถพาเย่เซียวมาส่งถึงโรงพยาบาลของถังซ่งนั้นเธอเพิ่งสังเกตเห็นว่าฟู่ยี่เฉินก็อยู่
การผ่าตัดในครั้งนี้ต้องมีบุคคลที่มีความสามารถทัดเทียมถังซ่งเข้ามาช่วยเขาถึงจะมีโอกาสสำเร็จ เวลานี้ไปหาข่ายปินไม่ทันแล้ว ถังซ่งจำต้องหาฟู่ยี่เฉิน ยังดีที่ฟู่ยี่เฉิงเป็นคนพูดง่าย ไม่พูดพร่ำทำเพลงก็ตอบตกลงทันที
“เร็ว เข็นเขาเข้าไป รีบทำการตรวจเช็คก่อน!” ถังซ่งพูดสั่งผู้ช่วยเขาอย่างร้อนรน
ไป๋ซู่เย่ห้ามน้ำตาไม่อยู่ ได้แต่กุมมือฟู่ยี่เฉิน “พวกคุณต้องช่วยเขานะ…จะต้องช่วยเขา…เขาจะเป็นอะไรไปไม่ได้…”
“คุณวางใจได้ ผมกับคุณหมอถังจะพยายามให้ถึงที่สุด”
ไป๋ซู่เย่พยักหน้ารัว เธอรู้ว่าเธอค่อนข้างเสียมารยาท เธอจำเป็นต้องสงบสติอารมณ์แต่ ณ เวลานี้ไม่ว่าอย่างไรก็ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่
เธอถึงขั้นอยากตามเข้าไปในห้องผ่าตัดด้วยซ้ำแต่เธอรู้ว่านั่นเป็นไปไม่ได้
“คุณนั่งรอข้างนอก อาจจะต้องใช้เวลาผ่าตัดนานหน่อย” ฟู่ยี่เฉินปลอบเธอ
ไป๋ซู่เย่อยากมองหาเย่เซียวอีกสักหน่อยแต่กลัวจะรบกวนเวลาทำงานพวกเขา ได้แต่หักห้ามใจตัวเองให้ใจเย็นลง นั่งลงบนม้านั่งยาวตรงทางเดินโดยที่สภาพร่างกายปวดร้าวไปทั้งตัวคล้ายจะแตกสลาย แต่ขณะนี้ความปวดใจปนร้อนใจได้แทนที่ทุกอย่าง ให้เธอไม่อาจรับรู้ถึงความรู้สึกอื่น ภายในใจเต็มไปด้วยเรื่องของเขา…
เธอนั่งตรงนั้นมือจับแหวนแน่น ราวกับทำเช่นนี้แล้วจะส่งมอบพลังให้เธอใจสงบลงได้
“เอ่อ…คุณไป๋ คุณหมอถังบอกว่าให้คุณช่วยเซ็นชื่อหน่อย”
ผู้ช่วยยื่นหนังสือยินยอมพร้อมหนังสือรายงานอุบัติการณ์มาตรงหน้าเธอ ตัวอักษรเหล่านั้นทำให้ดวงตาของเธอพร่ามัวขึ้นมาในพริบตา แต่ไม่กล้ารีรอให้เสียเวลา จับปากกามาเซ็นชื่อ
แต่มือกลับสั่นอย่างรุนแรง
ไม่สามารถจับปากกาให้ดีด้วยซ้ำ
“คุณไป๋?” อีกฝ่ายมองเธอด้วยความเป็นห่วงแวบหนึ่ง
“ขอโทษค่ะ…” เธอพยายามอีกหน รู้สึกเพียงเจ็บที่หน้าอกอย่างหนัก ปากการ่วงจากมือตกสู่พื้น
อีกฝ่ายเก็บปากกาขึ้นมายื่นให้เธอ
ฟู่ยี่เฉินเพิ่งเปลี่ยนชุดปลอดเชื้อเดินออกมาจากข้างในและเห็นฉากนี้พอดี นึกถึงบางอย่างเข้าเลยเดินไปถาม “เมื่อกี้คุณแบกเขาเหรอ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก!