ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง นิยาย บท 203

สิ้นเสียงพยาบาล ปรมาจารย์เชวี่ยก็รีบวิ่งเข้ามาจากหน้าประตูทันที

“ปรมาจารย์เชวี่ย ในที่สุดคุณก็มาแล้ว” เจียงซานเห็นปรมาจารย์เชวี่ย แววตาก็พลันเผยแสงแห่งความหวัง เพราะเขารู้ดี ว่าปรมาจารย์เชวี่ยเป็นถึงปรมาจารย์ของวงการแพทย์แผนจีน ถ้าเขายังรักษาไม่ได้ งั้นก็จะยุ่งยากโดยสิ้นเชิงแน่

“ท่านเจียงกินยาแก้ไอแล้วหรือยัง?”

ปรมาจารย์เชวี่ยยังไม่ทันทักทายกับคนอื่นๆก็รีบมาถามไถ่ที่ข้างกายเจียงหวู่ทันที

“กินแล้วครับ เมื่อก่อนกินยังเห็นผลดี แต่ว่าครั้งนี้กลับไม่เห็นผลอะไรแล้ว” เจียงซานเอ่ยอย่างร้อนรนใจ

“ผมเข้าใจแล้ว” ปรมาจารย์เชวี่ยมองดูเจียงหวู่ที่ไออย่างรุนแรง แววตาก็เริ่มเผยแววเคร่งเครียด

ปรมาจารย์เชวี่ยใช้มือข้างหนึ่งกดที่จุดปอด ส่วนมืออีกข้างก็กดที่จุดเจี่ยวซุนของเขา ก่อนจะใช้แรงกดลงไปไม่กี่ที ทันใดนั้น อาการไอของเจียงหวู่ก็พลันค่อยๆดีขึ้น

ปรมาจารย์เชวี่ยเห็นดังนั้นก็ใช้นิ้วกดนวดต่อ และอาการไอของเจียงหวู่ก็หายไปแล้วจริงๆ เพียงแต่เจียงหวู่ในตอนนี้ใบหน้าแดงก่ำเพราะไอจากเมื่อกี้นี้

“ท่านเจียง คุณนอนลงมาพักก่อน พยายามอย่าพูด” ปรมาจารย์เชวี่ยพยุงเจียงหวู่นอนลงบนเตียงผู้ป่วย พลางพูดปลอบ

เมื่อเห็นอาการของเจียงหวู่ดีขึ้นแล้ว คนในห้องผู้ป่วยจึงจะถอนหายใจโล่งอกในที่สุด

“ปรมาจารย์เชวี่ย คุณเป็นหมอเทวดาจริงๆ” เจียงซานเห็นปู่ตัวเองถูกรักษาหายแล้วก็พลันเอ่ยอย่างตื่นเต้น

“นั่นสิ ปรมาจารย์เชวี่ยเก่งเหมือนที่เล่าลือกันจริงๆ” ต่งเหล่ยเห็นดังนั้นเองก็ถอนหายใจพูดอย่างโล่งอก

ปรมาจารย์เชวี่ยได้ยินคำพูดแบบนี้กลับยังคงเผยสีหน้าเครียด แล้วเอ่ยเสียงขรึมว่า “วิธีแบบนี้บรรเทาอาการของท่านเจียงได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น รักษาปลายเหตุแต่ไม่รักษาต้นเหตุ เดาว่าคงจะหยุดอาการได้ไม่นานนัก ต้องกำเริบอีกแน่ ๆ”

“ปรมาจารย์เชวี่ย แม้แต่คุณยังไม่มีวิธีเลยงั้นเหรอ?” เจียงซานได้ยินดังนั้น สีหน้าก็พลันเผยแววเครียดขึ้นมาทันที

“ใช่แล้ว อาการของเขาสาหัสกว่าที่ผมคิด อย่างน้อยถ้าเป็นผมก็ไม่มีวิธีอะไรเลยสักนิด” ปรมาจารย์เชวี่ยเอ่ยด้วยสีหน้าจนใจ

“แม้แต่คุณยังรักษาไม่ได้ แล้วจะยังมีใครรักษาได้อีกล่ะ?” เจียงซานเผยสีหน้ากระวนกระวายถึงขีดสุด

“เจียงซาน ผมให้คุณพาปู่คุณมาที่นี่ ไม่ใช่เพราะผมมีวิธีรักษาที่ดี แต่เพราะที่นี่มีหมอคนหนึ่งที่สามารถรักษาปู่คุณได้” ปรมาจารย์เชวี่ยเอ่ย

เจียงซานเองก็รู้ ว่าที่ปู่เขามาที่นี่ก็เพราะคำพูดของปรมาจารย์เชวี่ย ไม่งั้นคงไม่ถ่อจากเมืองหลวงมาถึงนี่หรอก ที่แท้ก็เพราะที่นี่มีหมอที่เก่งขนาดนั้นนี่เอง

“ใคร? เก่งกว่าคุณอีกงั้นเหรอ?” เจียงซานถามอย่างประหลาดใจเล็กน้อย

“เขาชื่อเจียงเฉิง รักษาเก่งกว่าผมไม่รู้กี่เท่า” ปรมาจารย์เชวี่ยยิ้มเอ่ยอย่างเสียดสีตัวเองเล็กน้อย

“เจียงเฉิง?”

เจียงซานรีบหันไปมองต่งเหล่ยที่อยู่ข้างๆทันที หมอเทวดาที่ต่งเหล่ยบอกเมื่อกี้นี้ก็เป็นชายหนุ่มที่ชื่อเจียงเฉิงไม่ใช่หรือไง ปรมาจารย์เชวี่ยยอมรับในตัวหมอนั่นขนาดนี้เชียวเหรอ?

“คุณชายเจียงซาน เป็นเจียงเฉิงคนนั้นที่ผมพูดถึงเอง ถ้าเขามาแล้วล่ะก็ ต้องรักษาท่านเจียงให้หายได้แน่ ๆ” ต่งเหล่ยเองก็เอ่ยอย่างหนักแน่น

เจียงซานได้ยินดังนั้นก็พลันเผยสีหน้าไม่สบอารมณ์ เขาไม่เชื่อหรอกว่าคนที่อายุน้อยขนาดนั้นจะเชี่ยวชาญแพทย์แผนจีนได้

“คุณต่ง ทำไมคุณชายเจียงซานถึงไม่อยากเชิญหมอเทวดาเจียงมา?” ปรมาจารย์เชวี่ยเองก็ดูออกแล้วว่าเจียงซานไม่อยากเชิญเจียงเฉิงมารักษา

“ปรมาจารย์เชวี่ย เจียงซานเขาคิดว่า เจียงเฉิงอายุน้อยขนาดนั้น ต้องไม่เชี่ยวชาญแพทย์แผนจีนแน่ ๆ เพราะฉะนั้นก็เลยไม่เชิญ” ต่งเหล่ยอธิบาย

“เหลวไหล แพทย์แผนจีนใช้อายุมาตัดสินความสามารถตั้งแต่เมื่อไหร่?”

ปรมาจารย์เชวี่ยได้ยินดังนั้นก็พูดอย่างไม่พอใจทันที

แม้เจียงซานจะไม่อยากยอมรับมากๆ แต่เห็นปรมาจารย์เชวี่ยยังให้ความสำคัญขนาดนั้น เขาก็เอ่ยว่า “เอางั้นก็ได้ ในเมื่อคุณต่งรู้จักกับเจียงเฉิงคนนั้น งั้นคุณก็โทรเรียกเขามาเถอะ”

ต่งเหล่ยได้ยินดังนั้น สีหน้าก็พลันแปรเปลี่ยนไปทันที เจียงเฉิงเป็นถึงหมอเทวดาเชียวนะ ตอนนี้มีเรื่องร้องขอให้คนอื่นช่วย แค่โทรเรียกก็ดูไม่ให้เกียรติเกินไปแล้ว

“เจียงซาน คุณไปเชิญด้วยตัวเองดีกว่า แบบนี้ดูจริงใจมากกว่า” ปรมาจารย์เชวี่ยมองเจียงซานแล้วเอ่ย

“แค่หมอแบบนั้นถึงกับต้องให้ผมไปเชิญด้วยตัวเองเลยงั้นเหรอ?” คราวนี้เจียงซานยิ่งไม่พอใจเข้าไปใหญ่ เพราะเขาคิดว่าตำแหน่งของเขาสูงมากๆ ตอนอยู่เมืองหลวงทุกคนเห็นแก่ปู่เขา ก็ไม่มีใครกล้าทำให้เขาไม่พอใจ ตอนนี้กลับจะให้เขาไปเชิญคนอื่นมาด้วยตัวเอง

เจียงซานรู้สึกยอมรับไม่ได้ในทันที สีหน้าเผยแววไม่สบอารมณ์

“เจียงซาน ปู่คุณก็ป่วยถึงขนาดนี้แล้ว หรือคุณไม่อยากให้ปู่คุณหายไวๆงั้นเหรอ?” ต่งเหล่ยเองก็พูดเตือนอยู่ข้างๆ เห็นได้ชัดว่าเจียงซานคนนี้ทะนงในตำแหน่งของตนเอง ไม่ต้องการโค้งตัวให้ใคร

“ผมจะรู้ได้ยังไงว่าเขาสามารถรักษาปู่ผมได้ แม้แต่ปรมาจารย์เชวี่ยยังหมดหนทาง” เจียงซานเอ่ยว่า “เอาแบบนี้ดีกว่า ผมเรียกรถไปรับเขา แบบนี้โอเคแล้วใช่ไหม?”

ปรมาจารย์เชวี่ยเห็นท่าทางเย่อหยิ่งของเจียงซานแล้วรู้สึกหงุดหงิดใจเช่นกัน หากไม่ใช่เพราะเขากับเจียงหวู่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ไม่งั้นเขาก็ไม่สนเรื่องนี้แล้ว

“เจียงซาน เขาอยู่ในโรงพยาบาล คุณจะเรียกรถทำไม เดินแค่ไม่กี่ก้าวมันยากขนาดนั้นเลยเหรอ?”

แม้น้ำเสียงของปรมาจารย์เชวี่ยจะไม่ได้ฟังดูแย่มาก ทว่าสีหน้ากลับเผยแววไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด

แม้ในใจเจียงซานจะรู้สึกไม่พอใจ ทว่าเขาเองก็ดูออกว่าสีหน้าของปรมาจารย์เชวี่ยเริ่มไม่สู้ดีแล้ว จึงทำได้เพียงลุกขึ้นยืนเอ่ยว่า “ได้ ผมจะไปหาเขาเดี๋ยวนี้”

“ผมไปกับคุณด้วย” ต่งเหล่ยกลัวเจียงซานไปคนเดียวแล้วจะแสดงกิริยาฉุนเฉียว ทำให้เจียงเฉิงไม่พอใจ ถ้าเป็นแบบนั้นก็แย่แน่ ๆ เพราะคนมีความสามารถมักจะรักศักดิ์ศรีตัวเอง

“หยุนเอ๋อร์ เธอรู้สถานการณ์ที่คลินิกไหม?” เจียงเฉิงส่งสวี่ฉิงจากไปแล้วเดินออกไปกับหลินหยุนเอ๋อร์

“ฉันเองก็ไม่ค่อยแน่ใจ เหมือนจะเป็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งป่วยหนักมาก” หลินหยุนเอ๋อร์เองก็พูดอย่างร้อนรน

“แล้วทำไมถึงมาหาฉัน?” เจียงเฉิงสงสัยเล็กน้อย

“ก็เพราะครั้งก่อนนายเปิดโปงกลหลอกลวงของหมอคลินิกข้างๆนั่นแหละ ซ้ำยังรักษาคนไข้ที่เป็นอัมพฤษ์ครึ่งซีกจนหาย คนที่มาคลินิกแม่ฉันในช่วงนี้มาเพราะนายกันทั้งนั้น” หลินหยุนเอ๋อร์ไขว้มือไว้ด้านหลังแล้วยิ้มเอ่ย

“ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง” เจียงเฉิงเองก็ยกยิ้ม

“แม่ฉันยังบอกด้วยว่า ถ้าในอนาคตจะมีลูกเขย ก็ขอแบบนายก็พอแล้ว” หลินหยุนเอ๋อร์หน้าแดงเล็กน้อย พลางให้คำใบ้กับเจียงเฉิง

“เธอสวยขนาดนี้ ต้องหาเจอได้แน่ ๆ” เจียงเฉิงไม่เข้าใจความหมายของหลินหยุนเอ๋อร์ พลางยิ้มเอ่ย

“นายเองก็โส......”

หลินหยุนเอ๋อร์เพิ่งจะปริปาก จู่ ๆก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งที่สวมชุดทหารขวางอยู่หน้าเจียงเฉิงกับเธอ ซึ่งก็คือเจียงซานกับต่งเหล่ยนั่นเอง

“นายก็คือเจียงเฉิงเหรอ?” เจียงซานที่สวมชุดทหารถามเสียงเย็น

“ผมเอง” เจียงเฉิงตอบ

“หมอเทวดาเจียง คนคนนี้คือแขกคนสำคัญจากเมืองหลวง เจียงซาน” ต่งเหล่ยรีบก้าวไปข้างหน้าเอ่ยแนะนำตัว

“อ้อ สวัสดีครับ” เจียงเฉิงดูออก ว่าเจียงซานคนนี้ต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่ ๆ พลางยื่นมือออกไป

เจียงซานมองเจียงเฉิงอย่างเฉยชาแวบหนึ่ง ไม่มีท่าทีจะจับมือด้วย กลับเอ่ยเสียงเย็นทีเดียวว่า “ไปกับฉัน”

เจียงเฉิงเผยสีหน้าชะงัก แล้วชักมือกลับอย่างถูกหักหน้า ถามว่า “ไปไหน?”

“ไปดูอาการป่วยให้ปู่ฉัน พล่ามอะไรเยอะแยะ? ให้นายก็ไปก็ไปสิ” เจียงซานเอ่ยด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์

“ขอโทษครับ คุณเจียง ผมนัดกับคนไข้ไว้แล้ว ไปกับคุณไม่ได้แล้วล่ะ” เจียงเฉิงพูดแล้วก็ลากหลินหยุนเอ๋อร์จากไปทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง