แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 156

ลั่วว่างซิ่งอายุหกขวบสามารถพูดได้ว่าเป็นตัวแทนตามฉบับของเด็กซน

ทันทีที่เขาเข้าไปในบ้านของตระกูลลั่ว ลั่วว่างซิ่งก็มุดเข้าไปในห้องของลั่วเสี่ยวปิงโดยไม่รู้ตัวว่าเป็นแขก และเขาก็เปิดดูตู้ทั้งหมดที่ไม่ได้ล็อค

และคนจากบ้านเก่าตระกูลลั่วไม่เพียงแต่ไม่ห้ามปราม ยังเดินตามหลังดูอีกด้วย หากพวกเขาเห็นคนจากในหมู่บ้านมา จ้าวซื่อก็จะพูดว่า “เด็กไม่เชื่อฟัง ข้าจะพาออกมา”

แต่ถึงจะพูดแบบนี้ จ้าวซื่อไม่คิดจะทำอะไร ขณะที่คนอื่นๆในบ้านเก่ากำลังมองดูการจัดวางในห้องต่างด้วยดวงตาที่เป็นประกาย เหลือเพียงไม่ได้สลักคำว่า‘โลภ’ไว้บนใบหน้าเท่านั้น

เพราะทุกคนอยากรู้เกี่ยวกับเค้าโครงบ้านของลั่วเสี่ยวปิง ดังนั้นถึงแม้ว่าตอนนี้จะเร็วไปสำหรับการกินอาหาร แต่คนในหมู่บ้านก็มากันตั้งแต่เช้า

หลังจากมอบของขวัญให้ลั่วเสี่ยวปิงแล้ว ทุกคนก็สำรวจบ้านของลั่วเสี่ยวปิงอย่างรวดเร็ว

แน่นอน พวกเขาทั้งหมดยืนดูอยู่นอกประตู แต่ก็ไม่มีใครไม่เกรงใจเหมือนกลุ่มคนในบ้านเก่าของตระกูลลั่ว

ในเวลานี้คนอื่นๆเห็นเกือบหมดแล้ว และออกจากเรือนหลัก(*บ้านแถบฝั่งเหนือ)ไปแล้ว

อย่างแรก ทุกคนนั่งอยู่ในลานบ้าน และอย่างที่สอง เนื้อสองหม้อใหญ่ในเพิงชั่วคราวตรงลานบ้านนั้นหอมมากจริงๆ

ถึงแม้ว่าคนในหมู่บ้านจะพอมีรายได้อยู่บ้าง แต่ก็ไม่มีใครยอมเสียเงินเพื่อซื้อเนื้อมากิน

ดังนั้นคนส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะนั่งในลานบ้านและดมกลิ่นหอมๆของเนื้อ รอเนื้อขึ้นโต๊ะ

และก็เพราะอย่างนี้ คนบ้านเก่าตระกูลลั่วจะได้สามารถนั่งดูเรือนหลักได้อย่างเปิดเผยไม่เกลงกลัว

ภายใต้การนำทางของลั่วว่างซิ่ง หันกลับมาจากห้องใหญ่ทางด้านซ้าย แล้วไปถึงห้องใหญ่ทางด้านขวา โครงสร้างของทั้งสองห้องนั้นคล้ายคลึงกัน ดังนั้นทุกคนในห้องที่สองจึงพักสักครู่แล้วจึงตรงไปที่ห้องของอานอาน

ทันทีที่พวกเขาเข้ามา คนจากบ้านเก่าตระกูลลั่วก็ตกตะลึงกับหนังสือที่อยู่บนชั้นหนังสือ

หนังสือมากมายขนาดนี้ จะมีมูลค่าเท่าไหร่กัน?

ลั่วเสี่ยวปิงนี่ รวยแล้วจริงๆ

“ท่านย่า ข้าอยากอยู่ห้องนี้ ข้าชอบห้องนี้” ลั่วว่างซิ่งทำสีหน้าตื่นเต้น พูดไปก็จับนู่นจับนี่ในห้อง แล้วมองไปในห้อง

จริงๆแล้วลั่วว่างซิ่งไม่ค่อยสนใจเรื่องหนังสือ เขาคิดว่าลูกพี่ลูกน้องคนที่สองของเขาอ่านหนังสือเก่ง และเวลาอยู่ที่บ้านเขาก็ได้กินอาหารอร่อยๆทั้งหมด อย่างนั้นถ้าหนังสือในห้องของเขามีเยอะ เขาจะกลายเป็นนักอ่านด้วยหรือเปล่า ของอร่อยๆในบ้านก็จะมีของเขาส่วนหนึ่งด้วยใช่หรือไม่?

ลั่วว่างซิ่งสนใจหนังสติ๊กและดาบไม้มากกว่าหนังสือ และเริ่มเล่นกับของที่อยู่ในมือของเขาอย่างวางไม่ลงทันที

“ไม่ได้ ห้องนี้ต้องเป็นห้องหนังสือของพี่รองเจ้า” ลั่วเฉินซื่อปฏิเสธหลานชายคนเล็กอย่างไม่ต้องคิด

หนังสือบนชั้นนั้นเป็นหนังสือสำเร็จ ด้วยหนังสือเหล่านี้ ไม่แน่ว่าหลานชายสุดที่รักจะสอบจู่เหรินได้ในปีหน้า

เมื่อลั่วว่างซิ่งถูกปฏิเสธ เขาก็ไม่ได้ผิดหวัง อย่างไรก็ตามสิ่งที่เขาเห็นคือหนังสติ๊กและดาบไม้ในมือของเขาเท่านั้น

แล้วก็เตียงนุ่มนั่นด้วย

ลั่วว่างซิ่งคิด ดวงตาจ้องไปที่เตียงข้างๆเขา

ถึงลั่วว่างซิ่งจะไม่สนใจ แต่จ้าวซื่อสนใจมาก “ท่านแม่ ห้องใหญ่ขนาดนี้ ให้เหอซิ่งทำเป็นห้องหนังสือคนเดียวเกินไปกระมัง?”

อันที่จริง จ้าวซื่ออยากจะพูดว่าสิ้นเปลือง แต่นางไม่กล้า

ตอนนี้จ้าวซื่อเองก็ชอบห้องตรงหน้านี้มาก นางรู้สึกว่าห้องนี้ช่างเหมาะสมกับว่างซิ่งของนางจริงๆ

จ้าวซื่ออดไม่ได้ที่จะพูดออกมา

ว่างซิ่งของนางฉลาดขนาดนี้ ด้วยหนังสือเหล่านี้อาจจะสามารถสอบซิ่วฉายหรืออะไรบางอย่างที่จะทำให้ลูกของนางกลับมาโดดเด่นได้

เมื่อฟ่านซื่อได้ยินคำพูดของจ้าวซื่อ ก็มองไปที่จ้าวซื่ออย่างดูถูก แล้วยิ้มให้ลั่วเหอซิ่งลูกชายของนาง “เหอซิ่ง ไม่อย่างนั้นลูกก็เลือกเรือนหลังเป็นห้องอ่านหนังสือเถอะ น้องหกของเจ้าชอบห้องนี่ขนาดนี้ ไม่แน่อีกหน่อยจะเป็นผู้เหมาะกับการเรียนหนังสือ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง