สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 1011

บทที่ 1011 งานแต่งงาน

บทที่ 1011 งานแต่งงาน

“เรื่องพวกนี้มอบให้ข้า ข้าจัดการเอง ท่านดูแลโถงแต่งงานทางนั้นให้ดีเถิด วันนี้ผู้ที่มาล้วนเป็นคนมีหน้ามีตา หากงานแต่งจวนลู่ของท่านพังป่นปี้ เช่นนั้นคงเป็นที่ขบขัน”

สิ้นคำ ฉีเซียวก็เลือกคนไปหลายคน พาพวกเขาไปจัดการเรื่องต่าง ๆ ที่เรือนด้านหลัง

ลู่อี้รับผิดชอบในการรับรองแขก ขณะเดียวกันยังส่งคนไปจับตาดูความเคลื่อนไหวของทั้งจวนอ๋อง

ฉีเซียวพาคนไปตรวจตราในความมืด ดูว่าผู้ใดกำลังรบกวนเรื่องมงคลของพวกเขา

มู่ซืออวี่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจเช่นกัน นับแต่ห้องครัวไปจนถึงลานหน้าบ้าน ทุกซอกทุกมุมของจวนท่านอ๋องลู่อยู่ภายใต้การสอดส่องของนาง

ในฐานะบุตรสาวของแม่ทัพ ซูจือหลิ่วดูเหมือนกำลังรับรองแขกเหรื่อฝ่ายสตรี ทว่าในความเป็นจริงแล้ว นางเปิดหูเปิดตากวาดมองทั่วทุกทิศทาง ไม่มีแม้เพียงผู้เดียวหลุดรอดสายตานางไป

ลู่จื่ออวิ๋นในฐานะคุณหนูใหญ่สกุลลู่ ธิดาบุญธรรมของฮ่องเต้ฮุ่ย ฮองเฮาอาณาจักรเฟิ่งหลินคนปัจจุบัน มีผู้คนมากมายรายล้อมนาง อย่างไรก็ตาม เนื่องด้วยมีคนมากเกินไป จึงมีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดบางอย่างขึ้น ดังนั้นจึงมีองครักษ์เงามากมายอยู่รอบกาย องครักษ์เงาบางคนซ่อนตัวอยู่ในเงามืด บางคนปลอมตัวเป็นสาวใช้ ทันทีที่มีคนจับจ้องลู่จื่ออวิ๋น ย่อมเลี่ยงที่จะตกอยู่ภายใต้การจับตามองขององครักษ์เงาไม่ได้ เห็นได้ว่าทางลู่จื่ออวิ๋นไม่น่าจะมีปัญหาใด

นอกจากนี้ยังมีเซี่ยเฉิงจิ่น ลู่เซวียน และหลี่กู่หยวน…

คนเหล่านี้ไม่ว่าผู้ใดล้วนเชี่ยวชาญแตกต่างกันไปแต่ละแขนง บัดนี้พวกเขากำลังดูแลงานแต่งนี้ หากงานแต่งนี้ไม่อาจดำเนินไปได้อย่างราบรื่น เช่นนั้นคงไม่ใช่เพียงตบหน้าจวนท่านอ๋องลู่ผู้เดียวแล้ว

“ฝ่าบาทเสด็จ”

“พระนางฮองเฮาเสด็จ!”

“องค์รัชทายาทเสด็จ!”

ทุกคนลุกขึ้นยืน มุ่งหน้าไปที่ประตูเพื่อต้อนรับผู้ยิ่งใหญ่แห่งพระราชวังทั้งสาม

ด้านหลังผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสามมีข้าราชบริพารจากในวัง พวกเขาถือกล่องมาหลายใบ เห็นได้ชัดว่าเพื่อเป็นเกียรติแก่ลู่ฉาวอวี่

“เราไม่ได้มาสายกระมัง?”

“ตอนที่กระหม่อมเอ่ยถึงเรื่องการแต่งงาน ฝ่าบาทไม่ได้ตรัสว่าจะเสด็จ” ลู่อี้กล่าว

“ข้าก็ไม่ได้กล่าวว่าจะไม่มานี่!” ฟ่านหยวนซีไม่ใช่ชายหนุ่มผู้เย่อหยิ่งในตอนนั้นอีกต่อไป ทว่านิสัยของเขาก็ไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก ขณะเอ่ยถึงการโผล่มาแบบไม่ทันตั้งตัวของตนก็ยังคงแสดงสีหน้าหยอกเย้า

“ฝ่าบาทออกจากวังมาเช่นนี้เสี่ยงเกินไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ” ลู่อี้กล่าว “วันนี้ลู่ฉาวอวี่ไปรับตัวเจ้าสาวก็ถูกคนลอบโจมตี หากท่านพบมือสังหารเหล่านั้นจะทำอย่างไรพ่ะย่ะค่ะ?”

“ข้าได้ยินเรื่องนี้มาแล้ว” ฟ่านหยวนซีลดเสียงลงกล่าว “เพียงแต่ยามนั้นข้าออกจากวังมาแล้ว ไม่อาจให้ข้ากลับวังไปกระมัง? ส่วนฮองเฮากับรัชทายาท วางใจเถิด ข้าจัดเตรียมองครักษ์เงามาเพียงพอ”

ลู่อี้จ้องมองฟ่านหยวนซี

ฟ่านหยวนซีวางแขนลงบนไหล่เขา ประหนึ่งทั้งสองเป็นพี่ชายน้องชายที่ดีคู่หนึ่ง

“ดูเหมือนฝ่าบาทจะให้ความสำคัญกับท่านอ๋องลู่จริง ๆ!” เหล่าขุนนางใหญ่กระซิบกันเสียงเบา

“หากไม่มีท่านอ๋องลู่ วันนี้จะมี…”

“ใต้เท้าหลี่ โปรดระวังวาจา”

“ข้ากล่าวอะไรหรือ? หากไม่มีท่านอ๋องลู่ จะมีอาณาจักรฮุ่ยที่สงบสุขและเจริญรุ่งเรืองของเราในยามนี้ได้อย่างไร หรือว่าข้าพูดผิดไป?”

ขุนนางทุกคน “…”

จิ้งจอกเฒ่า

ฉีเจินเดินเข้าไปถวายบังคมฟ่านหยวนซี “ฝ่าบาทเสด็จได้ทันเวลาพอดี ใต้เท้าลู่น้อยกำลังจะกราบไหว้ฟ้าดินแล้ว”

“อย่างนั้นรึ?” ฟ่านหยวนซีเอ่ย “ดูเหมือนข้าจะมาได้ถูกเวลา”

เรือนด้านหลัง ฉีเซียวมองบ่าวรับใช้หลายคนที่ถูกคุมตัวไว้ตรงหน้า แล้วเอ่ยขึ้น “เค้นความจริง”

บ่าวรับใช้สองสามคนนั้นดิ้นรน พยายามจะหลบหนี

“หักขากรรไกรของพวกมัน อย่าได้ปล่อยให้พวกมันฆ่าตัวตาย วันนี้เป็นวันมงคล อย่าทำให้ผืนดินจวนท่านอ๋องลู่สกปรก” ฉีเซียวเอ่ยด้วยท่าทีเกียจคร้าน นิ้วลูบแหวนในมือเล่น

ผู้คุ้มกันจับมือสังหารไม่ทราบที่มาสองสามคนนั้นไว้ จากนั้นก็หักแขนขาและหักขากรรไกรพวกเขาออก ปล่อยให้คนพวกนั้นไม่มีแม้แต่กำลังจะกระเสือกกระสน

หากปล่อยพวกเขาตอนนี้ นับประสาอะไรกับคลานไป แม้กระทั่งปริปากก็เกรงว่าจะไม่มีแรงแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย