สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 1013

บทที่ 1013 จังหวะที่ใจเต้น

บทที่ 1013 จังหวะที่ใจเต้น

เมื่อลู่ฉาวอวี่มาถึง ก็เห็นนักฆ่ากำลังไล่ตามสิงเจียซือ ทั้งยังใช้มีดแทงไปที่นางพอดี

สิงเจียซือกลิ้งหลบไปข้าง ๆ กริชเล่มนั้นแทงเข้าที่แขน เหลือเพียงเสียงเฉือนผ่านผิวหนังเอาไว้

ลู่ฉาวอวี่ชักกระบี่ของหยางจงเซิงที่อยู่ด้านหลังออกมาเข้าประจันหน้ากับศัตรู

เมื่อมือสังหารเห็นลู่ฉาวอวี่ก็รู้ว่าตนพลาดโอกาสไปแล้ว จึงคิดจะฉวยโอกาสนี้หลบหนี

อย่างไรก็ตาม ลู่ฉาวอวี่กับหยางจงเซิงสองคนเข้าขนาบข้างสองฝั่ง เขาจึงไม่มีโอกาสได้หลบหนีแม้แต่น้อย ยามนี้เองนักฆ่าพลันหันกริชเข้าหาคอตนเอง

ลู่ฉาวอวี่คิดจะขวาง แต่ก็สายเกินไปเสียแล้ว

ฉึก! มือสังหารฆ่าตัวตายไปต่อหน้าต่อตาเขา

“ใต้เท้า…” หยางจงเซิงเข้าไปบังอยู่ข้างหน้าลู่ฉาวอวี่

เลือดสาดกระเซ็นเปรอะเปื้อนร่างกายของเขา

ลู่ฉาวอวี่ผลักร่างของหยางจงเซิงไปข้าง ๆ จ้องมองมือสังหารที่ล้มลงกระแทกกับพื้นเสียงดังโครม

“เอาตัวมันออกไป” ลู่ฉาวอวี่เอ่ย “ส่งตัวไปที่สำนักตรวจการให้อู่จั้วชันสูตรศพ”

แน่นอนว่ามือสังหารตายอย่างไรเขาได้เห็นแล้ว เพียงแต่มือสังหารผู้นี้ตัวตนเป็นผู้ใด บนร่างมีร่องรอยใด เคยก่อเหตุใดมาก่อนหรือไม่นั้น ย่อมต้องสืบให้แน่ชัด

ลู่ฉาวอวี่สาวเท้าเข้าไปหาสิงเจียซือ

เขาช่วยพยุงสิงเจียซือขึ้นมา

แขนของสิงเจียซือได้รับบาดเจ็บ ทั้งยังหกล้ม แต่นางยังเคลื่อนไหวได้ไม่มีปัญหา นางคิดจะลุกขึ้น ทว่าถูกลู่ฉาวอวี่ห้ามเอาไว้

“อย่าขยับ”

“ใต้เท้า ข้าลุกได้”

“เรากราบไหว้ฟ้าดินแล้ว เป็นสามีภรรยากันแล้ว อยู่ต่อหน้าผู้อื่นเจ้าควรเปลี่ยนคำเรียกข้าจะดีกว่า”

ลู่ฉาวอวี่อุ้มสิงเจียซือกลับไปยังเรือนหอ

จางอี้รุดมาพร้อมกับท่านหมอ

ส่วนสาวใช้สองคนข้างนอกนั่น จางอี้ให้ท่านหมอตรวจดูพร้อมกัน ถึงได้รู้ว่าพวกนางเพียงแค่หมดสติไป จึงสั่งให้ลูกน้องพาทั้งคู่ออกไปก่อน

“โชคดีที่กริชไม่มีพิษ” ท่านหมอกล่าว “ฮูหยินเพียงแค่ต้องพักฟื้นรักษาสักระยะหนึ่ง เพียงแต่บาดแผลค่อนข้างลึกทีเดียว จนกว่าแผลจะหาย… ไม่แนะนำให้ขยับมากเกินไป”

จางอี้และหยางจงเซิงยืนอยู่ด้านหลัง สีหน้าพลันพิลึกพิลั่นขึ้นมา

ท่านหมอผู้นั้นเห็นได้ชัดว่าเอ่ยคำนี้ออกมาแล้วก็รู้สึกกระดากอายจึงเผ่นไปอย่างรวดเร็ว

สิงเจียซือหลุบตาลง “ใต้เท้า เรือนส่วนหน้า…”

“ที่นี่เสียงดังเพียงนี้ พวกท่านพ่อข้าควรจะรู้เรื่องนี้แล้ว เรือนส่วนหน้ามีพวกเขาคอยจับตาดู ไม่มีเรื่องหรอก ข้าจะรั้งอยู่เป็นเพื่อนเจ้า” สิ้นคำ เขาก็หันไปเอ่ยกับจางอี้และหยางจงเซิง “พวกเจ้าไปดูที่เรือนส่วนหน้า มีอะไรให้มารายงานข้า”

“ขอรับ”

หลังจากจางอี้กับหยางจงเซิงไปแล้ว ลู่ฉาวอวี่จึงสั่งให้บ่าวรับใช้เตรียมน้ำอุ่นให้

จากนั้นก็หาสาวใช้สองคนมาช่วยปรนนิบัติสิงเจียซือให้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า

แขนของนางได้รับบาดเจ็บ ไม่ควรให้น้ำถูกบริเวณนั้น ทว่าบริเวณที่เหลือจำเป็นต้องทำความสะอาด อย่างไรเสียหลังผ่านการต่อสู้กับมือสังหารมาเมื่อครู่ บนร่างนางก็ไม่มีส่วนไหนที่สะอาดอีกเลย สิงเจียซือเองก็รู้สึกไม่สบายตัว

สิงเจียซือนอนอยู่ในอ่าง มีสาวใช้คอยพยุงแขนที่บาดเจ็บไว้ให้ อีกด้านมีสาวใช้ที่คอยขัดถูผิวเนื้อ

ฉากเมื่อครู่นี้ปรากฏขึ้นมาในห้วงความคิดของสิงเจียซือ

ตอนลู่ฉาวอวี่วิ่งเข้ามาหานาง สีหน้าของเขากระวนกระวายเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังเข้าโจมตีมือสังหารอย่างดุเดือด…

ยามนั้นเขาเปี่ยมไปด้วยจิตสังหารจริง ๆ!

อย่างไรก็ตาม นางกลับรู้สึกอุ่นใจยิ่งนัก

สิงเจียซือรอนแรมอยู่ข้างนอกมานานหลายปี เผชิญกับความยากลำบากมากมาย เมื่อนางเหนื่อยล้า เมื่อนางตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก เมื่อนางล้มป่วยเกินกว่าจะลุกขึ้นได้ นางจินตนาการว่าจะมีคนเข้ามาช่วยเหลือเพื่อให้นางได้มีที่พึ่งพิง ทว่าผ่านไปหลายปีเพียงนี้ คนผู้นั้นกลับไม่เคยปรากฏตัว นางเองก็ไม่ใช่สิงเจียซือที่ต้องมีคนคอยปกป้องอีกต่อไป

นางคิดว่านางแข็งแกร่งมากพอ

จนกระทั่งจังหวะนั้น นางถึงได้เข้าใจว่า ที่แท้มีคนคอยปกป้องนั้นดีเพียงใด

“ฮูหยินน้อย รู้สึกอย่างไรบ้างเจ้าคะ?”

“หืม?” สิงเจียซือได้สติกลับคืนมา “ดีทีเดียว”

“รอบาดแผลของฮูหยินน้อยหายดีแล้ว บ่าวจะทาขี้ผึ้งดอกท้อให้นะเจ้าคะ ใช้ดีทีเดียวเจ้าค่ะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย