สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 1022

บทที่ 1022 ซ่งหานจือ เจ้าคนน่ารังเกียจ

บทที่ 1022 ซ่งหานจือ เจ้าคนน่ารังเกียจ

ลู่จื่อชิงจ้ำเท้าเข้ามา สายตาเหลือบมองจี้ซ่งเฉิง ดวงตาคู่นั้นของนางประหนึ่งแท่งน้ำแข็ง

จี้ซ่งเฉิงรู้สึกหนาวสะท้านตั้งแต่เท้าจนถึงขั้วหัวใจ

เขาเอ่ยกับลู่จื่อชิง “ชิงเอ๋อร์ ข้าไม่เคยเอ่ยถ้อยคำเหล่านั้น เจ้าอย่าเชื่อซ่งหานจือ เจ้าคนชั่วน่ารังเกียจผู้นี้”

“หานจือแต่ไรมาไม่เคยโกหก” ลู่จื่อชิงแค่นเสียงเย็นชา “จี้ซ่งเฉิง ไม่นึกว่าท่านจะมีความคิดเช่นนี้ ข้าคิดว่าท่านควรหยุดตามพวกเราได้แล้ว กลับแผ่นดินของท่านไปเป็นฮ่องเต้ เติมเต็มวังหลังของท่านเถอะ!”

จี้ซ่งเฉิงหันกลับไปมองซ่งหานจือ “เจ้าคนชั่วร้าย ยังไม่รีบอธิบายแทนข้าให้ชัดเจนอีก”

ซ่งหานจือยกมือขึ้นลูบผมลู่จื่อชิงเบา ๆ “ชิงเอ๋อร์อย่าโกรธเลย เขาไม่ได้มีเจตนาร้าย ไม่ว่าอย่างไร เขาก็เป็นเชื้อพระวงศ์ นับตั้งแต่เล็กก็ได้รับการอบรมบ่มเพาะจากราชวงศ์ มีความคิดเช่นนั้นก็เป็นเรื่องธรรมดา แน่นอนว่าชิงเอ๋อร์ของเราก็เป็นสตรีที่สวรรค์โปรดปราน เขาไม่ควรมีความคิดเช่นนั้นเลยจริง ๆ พวกเราไม่ต้องไปสนใจเขา ปล่อยให้เขาได้ทบทวนตนเองดีกว่า”

“พวกเราไปกันเถอะ” ลู่จื่อชิงจูงข้อมือซ่งหานจือ เดินผ่านจี้ซ่งเฉิงไปด้วยสีหน้าเย็นชา

จี้ซ่งเฉิงเขม่นตามองซ่งหานจือ “ซ่งหานจือ เจ้าคนชั่วช้า…”

ซ่งหานจือยิ้มน้อย ๆ “ท่านวางใจ ข้าจะเกลี้ยกล่อมให้ชิงเอ๋อร์หายโกรธท่าน เพื่อตอบแทน ‘ความเมตตาอันใหญ่หลวง’ เมื่อครู่นี้เอง”

อีกฝ่ายจะพาลู่จื่อชิงไปจากที่นี่ จะทำให้นางลืมเขาผู้นี้ไปหมดสิ้น แม้กระทั่งหลุมฝังศพของเขาก็ยังจะไม่ปัดกวาด ทุกประโยคล้วนทิ่มแทงเข้ากลางใจซ่งหานจือ

หากไม่ตอบแทนบุญคุณอันใหญ่หลวงนี้ นั่นจะไม่เป็นการทำให้จี้ซ่งเฉิงผิดหวังหรือ?

จี้ซ่งเฉิงโกรธเสียจนกัดฟันกรอด “หากข้ารู้แต่เนิ่น ๆ คงไม่สนใจเขาแล้ว ต้องโทษข้าที่ปากเสีย จงใจทำให้เขาหงุดหงิด คราวนี้ดีนัก ถูกเขาโต้กลับแล้ว”

ขณะกล่าวเช่นนั้น เขาก็เลียนแบบท่าทีของลู่จื่อชิงพร้อมเอ่ยประโยคนั้นออกมา ‘หานจือแต่ไรมาไม่เคยโกหก’ ฮ่องเต้อาณาจักรโบราณโมโหจนหนวดกระตุกแล้ว

ซ่งหานจือเอ่ย “ชิงเอ๋อร์ นี่ก็ดึกแล้ว เจ้ากลับไปเถอะ ข้าก็จะกลับไปพักผ่อนแล้วเช่นกัน”

ลู่จื่อชิงมองซ่งหานจือ “สีหน้าเจ้าดูไม่ดีเลย”

“ไม่เป็นไร” ซ่งหานจือกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เจ้าก็รู้ว่าผิวของข้าขาวละเอียด ก่อนหน้านี้เจ้าไม่ได้อิจฉาที่ข้าบอบบางกว่าเจ้าหรือ? นี่เป็นสีผิวปกติ”

ลู่จื่อชิงขมวดคิ้ว

“ข้าไม่เป็นไรจริง ๆ” ซ่งหานจือคว้ามือนางมาวางแนบอก “ไม่เชื่อเจ้าสัมผัสหัวใจข้าดูสิ เต้นแรงมากใช่หรือไม่?”

ลู่จื่อชิงร้อนระอุราวกับถูกไฟแผดเผา

ก่อนหน้านี้ทั้งสองเคยมีความสัมพันธ์คลุมเครือ ทว่าผ่านไปได้ระยะหนึ่ง ซ่งหานจือดูเหมือนจะไม่ได้เห็นเป็นเรื่องจริงจัง นางจึงเลิกคิดจริงจังหลังจากกระอักกระอ่วนอยู่นานหลายวัน อย่างไรเสียในตอนนั้นก็เป็นเพียงอุบัติเหตุ…

รถม้าคันหนึ่งหยุดอยู่กลางถนน คนในรถม้าเปิดม่านออก แล้วเอ่ยกับลู่จื่อชิง “ชิงเอ๋อร์”

ลู่จื่อชิงหันกลับไปเห็นผู้มาใหม่ ความประหลาดใจฉายขึ้นมาในแววตา “ฟ่านซู่”

ฟ่านซู่หัวเราะน้อย ๆ “มีเวลาว่างหรือไม่? อยากไปขี่ม้าหรือเปล่า?”

“ข้า…” ลู่จื่อชิงสนใจ ทว่าเมื่อเห็นว่าจู่ ๆ ซ่งหานจือก็โอนเอนทำท่าว่าจะล้ม นางจึงเปลี่ยนใจ “ไม่ไป ขี่ม้าไม่น่าสนใจ ข้าเบื่อแล้ว”

ลู่จื่อชิงแต่ไรมามักจะชอบเที่ยวเล่น ขอเพียงเป็นเรื่องน่าสนุก นางจะเบื่อได้อย่างไร?

เริ่มแรกนางสนใจขึ้นมาจริง ๆ เพียงแต่ทันทีที่ซ่งหานจือเดินเข้ามา นางกลับเปลี่ยนใจ

สายตาแหลมคมของฟ่านซู่มองไปทางประตู แล้วเอ่ยกับซ่งหานจือ “นั่นสหายซ่งกระมัง? ไม่ได้พบกันหลายปี เหตุใดท่านนับวันยิ่งอ่อนแอลงเรื่อย ๆ แล้ว”

ซ่งหานจือเอ่ยเสียงเรียบ “ทำให้ซื่อจื่อขบขันแล้ว หมู่นี้ต้องลมเย็น ข้าจึงรู้สึกไม่สบายอยู่บ้างจริง ๆ”

“ลมเย็นรึ สิ่งนี้จัดการได้ไม่ยาก ท่านต้องการไปขี่ม้าออกกำลังกายหน่อยหรือไม่?” ฟ่านซู่แย้มยิ้ม

“ข้ารู้สึกว่าวิธีนี้ฟังดูเข้าท่า” จี้ซ่งเฉิงเดินเข้ามา “สหายซ่งอ่อนแอ ขี่ม้าไม่ได้ ก็ไปสูดอากาศบริสุทธิ์กับพวกเราเถอะ! อยู่แต่ในห้องหับทั้งวัน ร่างกายรังแต่จะย่ำแย่ลงเรื่อย ๆ”

ซ่งหานจือเหลือบมองจี้ซ่งเฉิงแวบหนึ่ง

จี้ซ่งเฉิงเข้าไปประชิดตัวซ่งหานจือแล้วกล่าว “ผู้มาคิดไม่ดี สหาย ถึงแม้เจ้าจะบอกปัดเขาไปได้ครั้งหนึ่ง ครั้งหน้าเจ้าไม่อยู่ ยังจะบอกปัดได้หรือ? ถือโอกาสครั้งนี้ที่เจ้าอยู่ ทำให้อีกฝ่ายพ่ายแพ้อย่างราบคาบไม่ดีรึ?”

“ท่านจงใจใช้อุบายกับข้าหรือ?” ซ่งหานจือกล่าวด้วยท่าทีสงบ “เมื่อครู่นี้ข้าใช้ลูกไม้กับท่าน บัดนี้ท่านถือโอกาสนี้ใช้ลูกไม้กับข้า คิดว่าข้าจะมองท่านไม่ออกหรือ?”

“พวกเราทะเลาะกันนั่นเป็นการทะเลาะภายใน ถึงแม้จะสู้กันนั่นก็เป็นเรื่องระหว่างพี่น้อง คนผู้นี้ต่างออกไป เขาเป็นคนนอก ทั้งยังเป็นศัตรูร่วมกันของเรา” จี้ซ่งเฉิงเอ่ย “กำจัดเขาก่อน พวกเราพี่น้องค่อยต่อสู้กัน ไม่ว่าสุดท้ายผู้ใดจะชนะ อย่างไรชิงเอ๋อร์ก็ไม่อาจแต่งให้ผู้อื่นนอกจากเรา”

“พวกเจ้ากระซิบอะไรกัน?” ลู่จื่อชิงเอ่ยถาม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย