สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 1069

บทที่ 1069 มู่ซืออวี่โมโห

บทที่ 1069 มู่ซืออวี่โมโห

มู่ซืออวี่รีบร้อนเดินทาง มุ่งหน้าไปยังอำเภอลี่ซานเพื่อพบกับลู่จื่ออวิ๋น อย่างไรก็ตาม ขณะที่เดินทางไปได้เพียงครึ่งทาง ข้อมูลจากหน่วยข่าวกรองล่าสุดก็เผยว่าลู่จื่ออวิ๋นรู้ว่าเซี่ยเฉิงจิ่นอยู่ที่ใดจึงทิ้งจดหมายฉบับหนึ่งเอาไว้และพาคนออกตามหาเขา

“พระชายา ท่านวางใจเถิด องค์หญิงจะต้องปลอดภัยแน่นอน” เจ๋อหลานเห็นสีหน้ามู่ซืออวี่ดูไม่ดีจึงรีบกล่าวปลอบใจ

ชิงไต้ที่อยู่ข้าง ๆ คล้อยตามกัน “หน่วยข่าวกรองรายงานว่าองค์หญิงพาผู้คุ้มกันลับไปหลายคน เห็นได้ชัดว่าทุกอย่างจะไม่เป็นไรอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ”

“ผู้คุ้มกันลับไม่ได้ไร้เทียมทาน พวกเราเดินทางมาครานี้นำผู้คุ้มกันลับมาด้วยตลอด ทว่าสุดท้ายนางก็ถูกผู้อื่นลักพาตัวไป พวกเราเพิ่งรอดพ้นอันตรายจากที่นี่ ตอนนี้นางยังหายตัวไปอีกครั้ง แล้วข้าจะวางใจได้อย่างไร?”

“ที่อยู่ขององค์หญิงไม่แน่ชัด แม้นพวกเราจะอยากตามหานางก็เกรงว่าจะหาไม่เจอ พระชายากลับเมืองหลวงก่อนเถิดเจ้าค่ะ! ตลอดทางมานี้มีคนไล่ตามท่านจำนวนมาก เร่งเดินทางกลับเมืองหลวงจะปลอดภัยกว่า หากท่านไปหาองค์หญิง นั่นจะเป็นการพาอันตรายไปสู่องค์หญิงด้วยนะเจ้าคะ”

แม้ว่ามู่ซืออวี่จะเป็นห่วงลู่จื่ออวิ๋น แต่นางก็รับฟังคำโน้มน้าวของชิงไต้และเจ๋อหลาน นางถามผู้ที่ส่งข่าวมา จึงรู้ว่าลู่จื่ออวิ๋นได้ปิดบังที่อยู่เป็นการชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย ทำให้ไม่สามารถติดต่อนางได้ชั่วระยะหนึ่ง มู่ซืออวี่จึงทำได้เพียงยอมแพ้

“พรรคเทพจันทราไม่ได้อยากตามฆ่าข้าหรือ? ได้ เช่นนั้นข้าก็จะไม่กลับ” มู่ซืออวี่เอ่ย “จับตาดูร่องรอยของพรรคเทพจันทราให้ดี การกวาดล้างเริ่มต้นขึ้นแล้ว”

หากพรรคเทพจันทราคิดจะตามล่านาง นางก็จะเล่นกับพวกเขาสักตั้ง พรรคเทพจันทราก็แค่พวกหัวมังกุท้ายมังกรกลุ่มหนึ่ง จะได้จับพวกเขาได้พอดี ดูซิว่าลัทธินี้จะขยายตัวอย่างไร

กุบกับ กุบกับ กุบกับ! เสียงเกือกม้าดังขึ้น

คนของมู่ซืออวี่ชักอาวุธอย่างระแวดระวัง

“ต้องการร่วมมือกันหน่อยหรือไม่?” ฉีเซียวบนหลังม้ามองมู่ซืออวี่ “เหมือนอย่างในตอนนั้น”

มู่ซืออวี่ไม่คาดคิดว่าฉีเซียวจะกลับมาอีกครั้ง

“ท่านมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?”

“ได้ยินว่าเกิดเรื่องกับพระชายาแล้ว นายท่านเดิมทีใกล้จะถึงเมืองหลวงแต่ก็ยังวกกลับมาทันทีขอรับ” ลูกน้องที่อยู่ข้าง ๆ ฉีเซียวเปิดปากขึ้น

“พูดมาก” ฉีเซียวเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง

“ข้าน้อยรู้ความผิดแล้วขอรับ”

“จิ๊” ฉีเซียวกล่าวด้วยความโมโห “อย่ามานับญาติกับข้า ข้าไม่ต้องการน้องสาวเพิ่มอีกผู้หนึ่ง คนพรรคเทพจันทราเหล่านี้ไม่ได้ออกมาเพ่นพ่านเกะกะสายตาต่อหน้าข้า ไม่เช่นนั้นข้าคงไม่ปล่อยพวกมันได้มีโอกาสโอ้อวดเช่นนี้”

ณ เมืองหลวง ลู่อี้ได้รับจดหมายจากจูเฉิน หลังจากอ่านจดหมายเขาพลันขมวดคิ้ว

เป็นฉีเซียวที่เขียนมา

จากคำบอกเล่าของจูเฉิน ฉีเซียวใกล้กลับมาถึงเมืองหลวงแล้ว เขานึกตำหนิการกระทำของเจ้าเด็กน้อยคนนั้นอยู่บ้าง ในเมื่อใกล้กลับมาถึงเมืองหลวงแล้ว อีกฝ่ายไม่ควรกลับมาหารือเรื่องการเตรียมขั้นถัดไปกับเขาหน่อยหรือ?

“พี่เขย ใต้เท้าฉีได้ยินว่าเกิดเรื่องกับพี่หญิงจึงวกกลับไปขอรับ” จูเฉินกล่าว

ลู่อี้กล่าว “ข้าเข้าใจแล้ว ห้องเจ้าจัดเตรียมไว้เรียบร้อย เจ้าไปดูเถอะว่าชอบหรือไม่ หากไม่ชอบก็ให้พวกเขาเปลี่ยนให้ ไม่ต้องเกรงใจ ถือเสียว่าเป็นบ้านตนเอง”

“พี่เขยวางใจ ข้าจะไม่เกรงใจ” จูเฉินกล่าว

ผู้ติดตามที่อยู่ข้างนอกกล่าว “นายท่าน คุณชายซือหม่ามาแล้วขอรับ”

ลู่อี้กล่าว “เชิญเขาเข้ามา”

ซือหม่าจี้อิงเปิดประตูเดินเข้ามา เขาทักทายลู่อี้ก่อน จากนั้นจึงหันไปมองจูเฉินที่อยู่ข้าง ๆ

จูเฉินเป็นเด็กหนุ่ม รูปร่างผอม ทว่าค่อนข้างสูงทีเดียว เมื่อยืนเคียงกับซือหม่าจี้อิงกลับไม่ได้แตกต่างกันมากนัก ซือหม่าจี้อิงร่างกายอ่อนแอตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดาจึงดูผอมบางกว่าเล็กน้อย

“นี่คือจูเฉิน น้องชายพระชายา” ลู่อี้กล่าวแนะนำกับซือหม่าจี้อิง “จูเฉิน นี่คือซือหม่าจี้อิง เทียบกับเจ้าแล้วอายุเขามากกว่าหลายปี เจ้าเรียกเขาว่าพี่ใหญ่ซือหม่าก็ได้ ตอนนี้เขาอยู่ที่สำนักศึกษาหลวง หากไม่เข้าใจสิ่งใดก็สามารถสอบถามเขา”

“ขอรับ พี่เขย”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย