สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 1103

บทที่ 1103 ตอนพิเศษ (8/1)

บทที่ 1103 ตอนพิเศษ (8/1)

ฝางซิ่วหลานรีบเร่งกลับมาที่เรือน

อวี๋ซื่อกำลังกวาดมูลไก่ เมื่อเห็นนางมา สีหน้าพลันมืดครึ้มลง “ซื้อไก่มายังออกไข่ให้ ข้าใช้เงินมากมายเพียงนั้นแต่งเจ้ามาไม่รู้บ้าหรือไร นี่เจ้าไปเที่ยวเตร่ที่ใดมาอีก?”

ฝางซิ่วหลานแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน นางเข้าห้องไปแล้วก็ไม่ออกมาอีก

“จินเปยเจ้าเด็กเหม็นโฉ่ผู้นั้นอะไรล้วนดี สายตากลับไม่ดี แม่นางบ้านใกล้เรือนเคียงระยะหลายลี้นี้ตายไปหมดแล้วหรือ? ไยต้องหาตัวสร้างปัญหามาให้ได้ นางจิ้งจอก…”

อวี๋ซื่อกวาดสนามลานหน้าบ้านไปก็ด่าทอเสียงดังขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ไว้หน้าฝางซิ่วหลานแม้แต่น้อย เจ้าตัวอยากให้ผู้คนทั้งหมู่บ้านรู้ว่านางกำลังอบรมลูกสะใภ้

“ข้าว่านะแม่จินเปย หากเจ้าจะอบรมสั่งสอนลูกสะใภ้ก็สั่งสอนไป เหตุใดต้องพาลด่ามาถึงแม่นางบ้านเราด้วยเล่า?” ป้าหลี่จากบ้านข้าง ๆ ตะโกนต่อว่า “หากเจ้ายังทำเช่นนี้ ข้าจะฉีกปากเจ้าให้ถึงรูหู!”

อวี๋ซื่อหัวเราะเยาะ “ข้าไม่ได้เจาะจง พูดไปพูดมาเจ้าก็ยื่นหน้ามารับเองมิใช่หรือ? เอาเถอะ ข้าขี้เกียจเกินกว่าจะต่อล้อต่อเถียงกับยายเฒ่าอย่างเจ้าแล้ว”

อวี๋ซื่อผู้นั้นเป็นคนไม่รู้จักอาย ยามยังสาวเป็นแม่หม้ายผู้หนึ่งก็คบชู้กับหลิ่วซานเฉวียน จะนับเป็นของดีอะไร? ถึงตอนนั้นหากทั้งสองครอบครัวทะเลาะเบาะแว้งกัน พวกนางไม่ได้หน้าหนาเหมือนอย่างอวี๋ซื่อ สุดท้ายแล้วผู้ที่ต้องกล้ำกลืนความอับอายย่อมเป็นครอบครัวพวกนางเอง

อวี๋ซื่อก่นด่าสาปแช่งอยู่พักหนึ่งก็คอแห้งจึงวางไม้กวาดในมือลง ตรงไปที่โอ่งน้ำแล้วใช้กระบวยตักน้ำขึ้นดื่ม

หลังจากดื่มน้ำแล้ว นางก็เช็ดมุมปาก ยามเดินผ่านห้องข้าง ๆ ก็หยุดยืน โน้มตัวแนบกับผนังเงี่ยหูฟังอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพึมพำ “เหตุใดวันนี้ว่าง่ายขนาดนี้? คงไม่ได้สร้างปัญหาอีกกระมัง? พ่อเขากับจินเปยไม่อยู่บ้าน หากนางก่อเรื่อง ข้าคงรับมือไม่ไหวหรอก”

เพื่อที่จะไถ่ตัวนางมา พวกอวี๋ซื่อจึงขายที่ดิน อีกทั้งยังหยิบยืมหนี้สินไปทุกหนทุกแห่ง ตอนนี้หลิ่วซานเฉวียนกับหลิ่วจินเปยจึงต้องหางานเพื่อที่จะได้ใช้หนี้ให้หมดโดยเร็ว

แน่นอนว่า หากพวกเขาไม่ไปหางานก็ทำอะไรไม่ได้ อย่างไรก็ไม่มีที่ทำกินแล้ว พวกเขาไม่อาจรอคอยความอดตายอยู่ที่นี่

ระหว่างมื้อเย็น อวี๋ซื่อทำน้ำพริกผักป่าแล้วไปเคาะประตูเรียกฝางซิ่วหลาน “ออกมากินข้าว”

เสียงฝางซิ่วหลานดังมาจากข้างใน “ข้า… ข้าไม่หิว”

ขณะนี้นางกำลังซุกตัวอยู่ในผ้าห่ม ฟังเสียงอวี๋ซื่อดังมาจากข้างนอก เนื้อตัวสั่นเทา

ตอนนี้นางเหมือนสตรีที่ถูกทิ้งผู้หนึ่ง อยากจะขายฝางซิ่วหลานไปเป็นทาสให้รู้แล้วรู้รอด ทว่าลูกชายของนางตัดใจไม่ได้ แม้ต้องสูญเสียทุกสิ่งอย่างก็ต้องไถ่ตัวลูกสะใภ้กลับมา เขาไม่สนใจว่าสตรีนางนี้จะเป็นรองเท้าผุพังหรือไม่ ตอนนี้ทั้งหมู่บ้านต่างกำลังชมเรื่องตลกของครอบครัว มีถ้อยคำหยาบคายทุกชนิด มิหนำซ้ำยังมีตาเฒ่าที่ยังไม่ผ่านการแต่งงานจ้องมองฝางซิ่วหลานตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วย

อวี๋ซื่อมีความแค้นอยู่เต็มท้องแต่กลับไม่มีที่ระบาย ทำได้เพียงด่าว่าฝางซิ่วหลาน ปกติถึงแม้ฝางซิ่วหลานจะไม่ได้โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ แต่วันนี้ก็เงียบสงบจนน่าแปลกใจ

ยามนี้ฝางซิ่วหลานกำลังฟังเสียงก่นด่าของอวี๋ซื่อ เสียงที่แต่ไหนแต่ไรดังแสบแก้วหูไม่เคยไพเราะถึงเพียงนี้มาก่อน เมื่อได้ยินเสียงอวี๋ซื่อ นางถึงได้รู้สึกปลอดภัย

สมองของนางเต็มไปด้วยภาพที่ผลักหลิวจิ่วจู๋ลงไป

ภาพนั้นยังคงฉายซ้ำไปซ้ำมาไม่รู้จบอยู่ในสมองของนาง

หูของนางเต็มไปด้วยเสียงกรีดร้องของหลิวจิ่วจู๋ มีเพียงเสียงดุด่าต่อว่าของอวี๋ซื่อเท่านั้นที่ทำให้นางรู้สึกว่าหัวโล่งขึ้น

“หลิวจิ่วจู๋ ต้องโทษเจ้าที่น่าเกลียดชังเกินไป ไม่เกี่ยวอะไรกับข้า…”

ยามค่ำคืนมาถึงอย่างเงียบเชียบ

รอบ ๆ ถูกอาบย้อมไปด้วยความมืดมิด

ฝางซิ่วหลานที่เผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัวถูกเสียงแมวที่ร้องแปลก ๆ ปลุกให้ตื่นขึ้นมา

นางค่อย ๆ ลืมตาขึ้น เมื่อเห็นเงาตะคุ่ม ๆ อยู่ข้างหน้าต่างก็ส่งเสียงกรีดร้องด้วยความกลัว

ปัง! ประตูเปิดออก

เงาร่างสีขาว ‘ลอย’ เข้ามาในห้อง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย